มาแล้วจ้าาา ซิสเอา 5 วิธีกำจัดสิวเสี้ยน มาฝาก หลากหลายทั้งส่วนผสมในสกินแคร์ไปจนถึงวิธี DIY ที่ทำตามได้เองที่บ้าน จะมีวิธีไหนบ้าง ไปดูกันเลย

เลือกอ่านตามหัวข้อ
สิวเสี้ยนเกิดจากอะไร?
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดสิวเสี้ยน
5 วิธีกำจัดสิวเสี้ยน
วิธีกำจัดสิวเสี้ยน 1. ใช้กรดวิตามินเอ (Retinoic acid)
วิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่ 2. ใช้ยาทากลุ่มเบนซิลเปอร์ออกไซด์ ( Benzoyl peroxide)
วิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่ 3. ผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ (Chemical Peeling)
วิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่ 4. ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน
วิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่ 5. มาสก์ด้วยไข่ขาว
สิวเสี้ยนเกิดจากอะไร?
กลไกการเกิดของสิวเสี้ยน เกิดจากการสร้างเซลล์ขนมากผิดปกติ โดยจะเริ่มจากมีการอุดตันเกิดขึ้นที่ท่อของต่อมไขมัน หรือเป็นเพราะต่อมไขมันที่มีขนาดใหญ่จนมีการผลิตไขมันออกมาบนผิวเป็นจำนวนมาก จนเกิดการอุดตันในรูขุมขนจและไปรวมตัวกับเซลล์ชั้นขี้ไคลกลายเป็นก้อน สิวเสี้ยนจะต่างจากสิวธรรมดาตรงที่สิวเสี้ยนนอกจากจะมีการอุดตันของไขมันแล้ว เค้ายังมีขนที่คุดคู้อยู่ข้างในด้วย
อธิบายให้เข้าใจมากขึ้นก็คือ แทนที่ในรูขุมขนจะมีขนแค่ 1 เส้น แต่กลับมีขนอ่อนเส้นเล็กๆ หลายเส้นอัดกันรวมตัวกับเซลล์ชั้นขี้ไคลในผนังต่อมไขมัน และเกิดการอุดตันขึ้น ถ้าเราลองบีบดูจะเห็นเป็นเส้นสีขาวๆ และหากส่องใกล้ๆ ก็จะเห็นขนอ่อนจำนวนมากกระจุกทำให้นอกจากมีลักษณะเป็นจุดดำๆ แล้วก็มีหนามแหลมๆ ยื่นออกมา จนมองเห็นได้ชัดเจนหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ สิวเสี้ยน นั่นเองจ้า
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดสิวเสี้ยน
1. ฮอร์โมนในร่างกาย จะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น ตามมาด้วยการผลิตไขมันออกมามากขึ้น จนอาจทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้น
2. การรบกวนผิว เช่น การเช็ดผิวหน้าแรงๆ, การสครับหน้า ซึ่งอาจรบกวนรูขุมขนหรือต่อมไขมัน ทำให้รูขุมขนหรือรากขนแตกและมีโอกาสที่จะเกิดขนคุดอยู่ข้างในได้
5 วิธีกำจัดสิวเสี้ยน
วิธีกำจัดสิวเสี้ยน 1. ใช้กรดวิตามินเอ (Retinoic acid)

กรดวิตามินเอ (Retinoic acid) เค้าจะมีคุณสมบัติช่วยละลายการอุดตันของต่อมไขมัน ลดการเกาะตัวของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วทำให้เซลล์ผิวหนังไม่ยึดหรือจับตัวกันแน่นจนเกินไป เลยช่วยป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนใหม่ได้ดี นอกจากนั้นก็ยังช่วยทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อควรระวังคือ กรดวิตามินเอเองก็ทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังได้ง่าย เลยอาจจะมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวเราแห้ง แสบลอกและหน้าแดงได้ หรือบางคนอาจอาจไม่ได้แพ้แต่จะเป็นผลข้างเคียงจากการใช้วิตามินเอในช่วงแรกๆ ซึ่งจะเป็นช่วงที่สิวผุดมากขึ้นใน 3-4 สัปดาห์แรกของการใช้
เดี๋ยวนี้ก็มีสกินแคร์มากมายในท้องตลาดที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ ถ้าเราจะเริ่มใช้ซักตัวก็ให้ลองทาซัก 2 - 4 สัปดาห์ก่อน ถึงจะเห็นผลว่าสิวเสี้ยนเริ่มลดลง แต่ถ้าสิวเสี้ยนไม่หลุดออกมาเองเราก็อาจจะต้องออกแรงซักนิดด้วยการกดเค้าออก
เวลาจะใช้ก็ให้ทากรดวิตามินเอวันละครั้งก่อนนอน และพยายามหลีกเลี่ยงการทาบริเวณรอบดวงตา รอบจมูก หรือรอบปากเพราะผิวหนังบริเวณนี้เค้าบางกว่าบริเวณอื่น ที่สำคัญคือตอนเช้าห้ามลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาดเพราะการทากรดวิตามินเอจะทำให้ผิวไวต่อแสงมากกว่าปกติ อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองของผิวหน้าตามมาได้ นอกจากนั้นแล้ววิตามินเอเค้ายังช่วยเร่งการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวด้วย ซึ่งคนที่ผิวบางหรือเป็นคนผิวแพ้ง่ายให้ระวังในส่วนนี้ เราอาจใช้แบบวันเว้นวันไปก่อน ถ้าผิวเราไหวก็ค่อยใช้ต่อได้จ้า
วิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่ 2. ใช้ยาทากลุ่มเบนซิลเปอร์ออกไซด์ ( Benzoyl peroxide)

ตัวถัดมาที่เราอาจจะคุ้นเคยกันคือยาทากลุ่มเบนซิลเปอร์ออกไซด์ ( Benzoyl peroxide) ยาตัวนี้จะไปปล่อยสารออกซิเจนเข้าไปในรูขุมขนซึ่งเป็นที่อยู่ของแบคทีเรีย พอได้รับออกซิเจนในปริมาณที่มากเกินไป แบคทีเรียก็จะถูกทำลายเพราะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นั่นเอง นอกจากนั้นก็ยังช่วยลดปริมาณไขมันและช่วยละลายสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขนของเรา จึงลดการอุดตันของต่อมไขมันได้ ซึ่งโดยปกติแล้วไขมันที่อุดตันมักถูกละลายโดยยา แต่ขนที่คุดเป็นเส้นดำๆ อยู่ใต้ผิวนั้นอาจจะไม่ยอมหลุดไปด้วย เราอาจต้องใช้วิธีอื่นเช่นการกดออกร่วมด้วยเช่นกัน แต่ด้วยความที่เป็นยาก็แน่นอนว่าเค้าก็มีผลข้างเคียงที่อาจจะทำให้หน้าเราแดง แสบ หรือแห้งเป็นขุยได้เหมือนกัน
วิธีใช้คือให้เราทาทั่วหน้าก่อนล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและเย็นหรือก่อนนอน ทิ้งไว้ประมาณ 5 - 10 นาทีแล้วค่อยล้างหน้าออกด้วยน้ำสะอาด ถ้าใครไม่เคยใช้มาก่อน แนะนำว่าให้เริ่มต้นด้วยการใช้ที่ความเข้มข้นต่ำๆ ซัก 2.5% ก่อน ถ้าผิวหนังเราเริ่มชินกับยาแล้วค่อยเพิ่มความเข้มข้นให้สูงขึ้นเป็น 5% ได้ ทั้งนี้ถ้าไม่แน่ใจว่าควรใช้ยังไงซิสแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้เลย
วิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่ 3. ผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ (Chemical Peeling)

อีกหนึ่งทางเลือกเพื่อกำจัดสิวเสี้ยนคือการผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ (AIpha Hydroxy Acid: AHA) ที่เค้าจะมาช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนสุด และขจัดไขมันที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน ลดต้นเหตุการเกิดสิวเสี้ยนและทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกได้ง่ายขึ้น แต่ต้องระวังนิดนึงเพราะถ้าหากใช้ในเปอร์เซ็นต์ที่มีความเข้มข้นสูงก็อาจเกิดการระคายเคืองต่อผิวและทำให้ผิวบางได้เช่นกัน
ปกติ AHA ที่ใช้แล้วเห็นผลจะอยู่ที่ 3-15% ทีนี้เวลาเราจะซื้อสกินแคร์ซักตัวก็ให้ดูที่ความเข้มข้นเป็นหลัก อย่างเช่นถ้าเราเป็นคนที่ผิวแข็งแรง AHA ความเข้มข้นที่ 10% ก็สามารถที่จะทาได้ทุกวันเลย แต่กลับกันถ้าเราเป็นคนผิวอ่อนแอ ความเข้มข้นที่ 10% อาจจะแรงเกินไป ดังนั้นเราก็อาจจะต้องลดเปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นลงมา เตือนแล้วน้า ไม่ไหวอย่าฝืน เดี๋ยวหน้าจะแหกเอาได้
วิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่ 4. ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน

วิธีถัดมาถือว่าเป็นวิธีฮอตฮิต ราคาไม่แรง วิธีใช้ก็ง่ายและหลายคนน่าจะเคยทำมาก่อน ซึ่งก็คือการใช้แผ่นแปะลอกสิวเสี้ยนที่เคลือบสาร Cyanoacrylate polymer glue ไว้ซึ่งเค้าจะมีคุณสมบัติในการติดแน่นคล้ายๆ กาวแต่ปลอดภัยกว่า
วิธีใช้ก็ง่ายเพียงแค่เรานำมาแปะจมูก ทิ้งไว้สักพักแล้วลอกออก สิวเสี้ยนก็จะหลุดติดออกมาแบบสะพรึง ถึงจะกำจัดสิวเสี้ยนได้ไม่หมด 100% แต่ก็เป็นวิธีที่หลายคนทำและบอกว่าสะใจเวลาเห็นตอสิวเสี้ยนหลุดออกมา แต่เค้าก็มีข้อควรระวังเหมือนกันน้า เพราะสารเคมีที่ใช้อาจทำให้เกิดการแพ้ได้ หรือในกรณีที่เป็นแผล ผิวลอก หรือผิวแห้ง การใช้แผ่นแปะลอกสิวเสี้ยนก็มีสิทธิ์ระคายเคืองได้เหมือนกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นซิสแนะนำว่าไม่ควรใช้เกินเดือนละ 1 ครั้งก็พอ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือรูขุมขนเรากว้างขึ้นได้
วิธีกำจัดสิวเสี้ยนที่ 5. มาสก์ด้วยไข่ขาว


อันดับบทความประจำวัน
(หมวดOriginal Content)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe