อาจจะเคยได้ยินเรื่องของ การทานไลโคปีน ที่สามารถช่วยเรื่องผิวให้ดูอมชมพูได้ นอกจากเรื่องผิวแล้วยังช่วยในเรื่องอะไรบ้างในร่างกายต้องไปดูกัน

เลือกอ่านตามหัวข้อ
ไลโคปีน หรือ Lycopene คืออะไร ?
มะเขือเทศกับสารไลโคปีน
การทานไลโคปีน ช่วยอะไรบ้าง ?
การทานไลโคปีน กับประโยชน์ต่อผิว
การทานไลโคปีนกับประโยชน์ต่อสุขภาพ
โทษจากไลโคปีน
บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด
" มะเขือเทศมากประโยชน์ " ไลโคปีนที่สามารถพบได้จากมะเขือเทศ ที่นำมาดัดแปลงเป็นทั้งเครื่องดิื่มและเครื่องสำอาง โดยเฉพาะเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่ฮิตฮอตจนเป็นกระแสในช่วงนั้นอย่างที่ใครหลายๆ คนแนะนำให้ดื่ม เพราะสามารถช่วยในเรื่องผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น และยังอมชมพูอีกด้วย นอกจากตัวเครื่องดื่มแล้วอาหารเสริมก็ยังถูกนำมาเป็นตัวเลือกให้กับสาวๆ ที่อยากดูแลหรือบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งแบบล้ำลึกมากยิ่งขึ้น นอกจากไลโคปีนที่ช่วยเรื่องผิวแล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องอะไรได้อีกด้วย ฉะนั้นไปทำความรู้จักกับ การทานไลโคปีน (Lycopene) ในเรื่องของการให้ประโยชน์กัน
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ไลโคปีน หรือ Lycopene คืออะไร ?

ไลโคปีน (Lycopene) คือ สารเคมีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งสารตัวนี้ทำให้ผลไม้ อย่างเช่น ผักที่มีสีแดง เป็นหนึ่งในเม็ดสีที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระในตระกูลแคโรทีนอยด์พบได้ในผลไม้สีแดง สีชมพู เช่น มะเขือเทศ แตงโม ส้มเนื้อแดง ฝรั่งใส้แดง ทับทิม มะละกอ พริกแดง ลูกพลับ หน่อไม้ฝรั่งสีม่วง กะหล่ำปลีม่วง และเกรฟฟลุต ซึ่งเจ้าตัวไลโคปีนในอาหารมาจากผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ เช่น ซอสมะเขือเทศ น้ำมะเขือเทศ หรือมะเขือเทศสด โดยผ่านการแปรรูปมะเขือเทศดิบจากการใช้ความร้อน สามารถช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และช่วยเสริมสุขภาพให้แข็งแรงยิ่งขึ้นแม้จะมีอายุมากแล้วก็ตาม เมื่อระดับอนุมูลอิสระมีมากกว่าระดับสารต้านอนุมูลอิสระก็สามารถสร้างความเครียดจากการออกซิเดชั่นในร่างกายได้ นอกจากนี้ยังพบการวินิจฉัยว่าไลโคปีนสามารถนำมารักษาโรคได้ อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด และเส้นเลือดตีบในสมอง เป็นต้น
มะเขือเทศกับสารไลโคปีน

จากการวิจัยพบว่าในมะเขือเทศจะอุดมไปด้วยสารไลโคปีนเป็นจำนวนมาก และไลโคปีนจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อมีการปรุงมะเขือเทศด้วยความร้อน เพราะจะทำให้เกิดชีวประสิทธิผลที่ดีขึ้นและเพิ่มปริมาณของไลโคปีนสูงขึ้นไปอีก นั่นเป็นเพราะเมื่อไลโคปีนสัมผัสกับความร้อนสามารถเกิดเป็นการเปลี่ยนแปลงพันธะเคมีแบบทรานส์ จึงทำให้ไลโคปีนกลายเป็นพันธุ์แบบซิสที่เป็นเส้นโค้งงอ โดยจะสามารถละลายในไขมันได้ดีกว่า จึงทำให้ร่างกายสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้นั่นเอง ซึ่งจากกรณีของมะเขือเทศจะเห็นได้ว่า ผักผลไม้ทุกชนิดไม่ได้มีประโยชน์มากที่สุดเมื่อทานสดๆ เท่านั้น โดยเฉพาะเจ้ามะเขือเทศที่จะยิ่งมีคุณค่าสูงขึ้นเมื่อได้ผ่านความร้อน เพราะฉะนั้นมาทานมะเขือเทศที่ปรุงด้วยความร้อนกันบ่อยๆ จะดีมากกว่า เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์ที่สูงสุด
การทานไลโคปีน ช่วยอะไรบ้าง ?
ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากกว่าสารชนิดอื่นๆ ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ซึ่งรวมถึงเบต้าแคโรทีน ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการรักษาความแข็งแรงของความหนาและความลื่นไหลของเยื่อหุ้มเซลล์ มีหน้าที่ช่วยคัดกรองสิ่งที่เข้าและออกจากเซลล์ช่วยให้สารอาหารที่ดีเข้ามาแทน กำจัดขยะในเซลล์และป้องกันไม่ให้สารพิษเข้าสู่เซลล์ จึงทำให้เยื่อหุ้มเซลล์ที่แข็งแรงมีความสำคัญในการป้องกันโรคต่างๆ
การทานไลโคปีน กับประโยชน์ต่อผิว

- ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วยรังสียูวีในแสงแดด : การรับประทานไลโคปีน หรือมะเขือเทศเข้มข้นที่มีไลโคปีนในปริมาณ 8-16 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 10-12 สัปดาห์ ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วยรังสียูวีในแสงแดด โดยเป็นการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ถูกสร้างขึ้นหลังจากผิวได้รับแสงแดด และช่วยดูดซับรังสียูวีเอ และยูวีบี ทำให้ผิวทนต่อแสงแดดได้มากขึ้น และช่วยลดอาการผิวไหม้แดดได้ดี
- ปกป้องผิวลึกถึงระดับดีเอ็นเอ (DNA) : การรับประทานไลโคปีน 16 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ จะได้รับการช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วยรังสียูวีในแสงแดดได้ลึกถึงระดับดีเอ็นเอ โดยช่วยลดการทำลายดีเอ็นเอในเซลล์ไมโตคอนเดรียล (Mitochondrial) ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการสร้างพลังงานให้แก่เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงการเพิ่มโปรคอลลาเจน (Procollagen) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์คอลลาเจนเพิ่มขึ้นด้วย
- เพิ่มความชุ่มชื้นและปกป้องเซลล์จากการถูกทำร้ายด้วยอนุมูลอิสระ : ยังมีการวิจัยว่าการรับประทานสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ อย่างเช่น ไลโคปีน ร่วมกับวิตามินอี จะเสริมฤทธิ์ในการปกป้องเซลล์จากการถูกทำร้ายด้วยอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการผิวไหม้แดดและช่วยให้ผิวไหม้แดดหายได้เร็วขึ้น รวมทั้งวิตามินอี ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีอีกด้วย
การทานไลโคปีนกับประโยชน์ต่อสุขภาพ

- ไลโคปีนช่วยต้านอนุมูลอิสระลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจ
- ช่วยในการรักษาภาวะมีบุตรยาก ผลจากการทดสอบพบว่าไลโคปีนสามารถเพิ่มความเข้มข้นของอสุจิในผู้ชายได้
- ไลโคปีนช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
- การเสริมด้วยไลโคปีนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยลดพารามิเตอร์หรือความเครียดภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใน 30 วัน สามารถเพิ่มพลาสมาเพิ่มขึ้น 20%
- ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน
- ป้องกันการเสื่อมสภาพของอายุและต้อกระจก
- ป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัยและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- ทำหน้าที่เป็นครีมกันแดดภายในและปกป้องผิวของคุณจากการถูกแดดเผา
โทษจากไลโคปีน

แม้ไลโคปีนจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีเรื่องที่ต้องระมัดระวังด้วยเช่นกัน เพราะมีรายงานฉบับหนึ่งให้ข้อมูลไว้ว่า หากรับประทานไลโคปีนมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ อย่างเช่น
- เจ็บหน้าอก
-ท้องเสีย
- ไขมันสะสมใต้ผิวหนัง
- ท้องอืด จุกเสียดแน่นท้อง
- หัวใจวาย
- คลื่นไส้ และอาเจียน
- สีผิวเปลี่ยนเป็นเหลือง
- มีอาการปวดท้อง รู้สึกไม่ย่อย
- แผลระคายเคืองในกระเพาะอาหาร
- ร้อนวูบวาบ
โดยอาการจะหายไปได้เองเมื่อหยุดรับประทานแล้ว
- เจ็บหน้าอก
-ท้องเสีย
- ไขมันสะสมใต้ผิวหนัง
- ท้องอืด จุกเสียดแน่นท้อง
- หัวใจวาย
- คลื่นไส้ และอาเจียน
- สีผิวเปลี่ยนเป็นเหลือง
- มีอาการปวดท้อง รู้สึกไม่ย่อย
- แผลระคายเคืองในกระเพาะอาหาร
- ร้อนวูบวาบ
โดยอาการจะหายไปได้เองเมื่อหยุดรับประทานแล้ว
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความงาม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe