การดูแลตัวเองและเตรียมตัวก่อนรับปริญญาเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้เรามีความพร้อมที่จะไปต่อสู้กับงานรับปริญญาอย่างมั่นใจ เพราะงานรับปริญญาต้องใช้พลังงานเยอะมากก และนี่คือ 10 วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญา สำหรับชาวว่าที่บัณฑิต
เลือกอ่านตามหัวข้อ
แนะนำ 10 วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญา บัณฑิตตัวมัมแบบเราต้องพร้อม!
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญา ที่ 1. ดูแลสุขภาพของเราให้พร้อม
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 2. นอนหลับและพักผ่อนกันเถอะ
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 3. สำรวจจิตใจกันหน่อย
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 4. เตรียมสิ่งที่ต้องใช้ในวันรับปริญญาให้พร้อม
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 5. วางแผนเรื่องเวลา
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 6. ถ่ายรูปก่อนรับปริญญาและวันรับปริญญา
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 7. นัดเวลา สถานที่ กับเพื่อนและครอบครัว
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 8. คำนวณและวางแผนการเงิน
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 9. จองที่พักไว้ล่วงหน้า
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 10. จำลองเหตุการณ์
สรุปส่งท้าย
บทความแนะนำที่ไม่ควรพลาด
ช่วงนี้เป็นช่วงของเทศกาลของการรับปริญญา เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของใครหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้ค่ะ ตอนนี้หลายมหาลัยคงมีกำหนดการกิจกรรมรับปริญญาออกมาบ้างแล้ว บางมหาวิทยาก็มีกิจกรรม 2 วัน 3 วัน 4 วัน เรียกได้ว่ามาราธอนกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ การดูแลตัวเองและเตรียมตัวก่อนวันจริงค่ะ ถึงเวลานั้นแล้วถ้าเราไม่ได้วางแผนอะไรมาก่อนจะลำบากมาก ๆ วันนี้เราเลยมี วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญา มาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ
แต่ก่อนอื่นเราต้องขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตทุกคนเลยนะคะ เก่งกันมาก ๆ เลย เราเชื่อว่ามันมีทั้งความสุขและความทุกข์ปนอยู่ในช่วงเวลาของการเรียน เพราะมันต้องใช้เวลาและความอดทนแบบสุด ๆ และถึงแม้เรียนจบแล้วความเหน็ดเหนื่อยก็ยังไม่หายไปเพราะเรายังต้องสู้ต่อกับงานรับปริญญาที่ต้องใช้พลังงานอย่างมากจากใจรุ่นพี่บัณฑิตอย่างเรา 5555 ถ้าอย่างนั้นยิ่งต้องเตรียมตัวให้พร้อม เราไปเริ่มกันเลยดีกว่า!
แต่ก่อนอื่นเราต้องขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตทุกคนเลยนะคะ เก่งกันมาก ๆ เลย เราเชื่อว่ามันมีทั้งความสุขและความทุกข์ปนอยู่ในช่วงเวลาของการเรียน เพราะมันต้องใช้เวลาและความอดทนแบบสุด ๆ และถึงแม้เรียนจบแล้วความเหน็ดเหนื่อยก็ยังไม่หายไปเพราะเรายังต้องสู้ต่อกับงานรับปริญญาที่ต้องใช้พลังงานอย่างมากจากใจรุ่นพี่บัณฑิตอย่างเรา 5555 ถ้าอย่างนั้นยิ่งต้องเตรียมตัวให้พร้อม เราไปเริ่มกันเลยดีกว่า!
แนะนำ 10 วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญา บัณฑิตตัวมัมแบบเราต้องพร้อม!
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญา ที่ 1. ดูแลสุขภาพของเราให้พร้อม
https://pin.it/6fUEPHI
การดูแลตัวเองโดยเฉพาะทางด้านร่างกายถือเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้เรามีความพร้อมในการไปต่อสู้กับงานรับปริญญา เราต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเข้าไว้โดยเฉพาะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกายเพื่อให้มีพลังงานและความสดใสในวันงานรับปริญญา การที่เราไม่มีแรง รู้สึกว่าพลังงานน้อยตลอดเวลา อาจทำให้วันนั้นเราเหนื่อยล้าและอาจเป็นลมได้ เพราะก็มีเพื่อนบัณฑิตหลาย ๆ คนเลยที่เป็นลมในวันรับปริญญา ทั้งอากาศที่ร้อนมาก ต้องตื่นเช้าและรอนาน เพราะฉะนั้นฟิตร่างกายให้พร้อมเท่านั้นค่ะ! เราเชื่อว่าทุกคนต้องรู้กำหนดการการรับปริญญาอย่างน้อย 1 เดือนแน่นอน ลองทำตามนี้
TIPS & TRICKS ดูแลร่างกาย 1 เดือนก่อนงานรับปริญญา
1.การออกกำลังกาย: ถือเป็นสิ่งสำคัญ ให้เลือกกิจกรรมที่ชอบและคิดว่าทำได้อย่างต่อเนื่อง เช่น วิ่งในช่วงเช้า หรือวิ่งลู่ คาร์ดิโอ เต้น และควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
2.ดูแลเรื่องอาหาร: ควบคุมอาหารและการรับประทานอย่างมีสติ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และโปรตีน เลือกอาหารที่มีปริมาณไขมันไม่สูง และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูงมากเกินไป
3.ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพร่างกาย ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วหรือดื่มตามน้ำหนักตัวและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่สูงหรือน้ำตาลสูง
4.การหลับพักผ่อนเพียงพอมีผลต่อสุขภาพทั้งกายและใจ พยายามนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
5.การปรับจัดการความเครียดก็สำคัญนะ เช่น การฝึกสมาธิ โยคะ หรือการใช้เทคนิคการหายใจเข้า-ออก
6.การดูแลผิว: อันนี้ยิ่งสำคัยเข้าไปใหญ่ ใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดดูแลผิว เพราะวันนั้นเราต้องสวยดูดีมากถึงมากที่สุด ถ้าผิวหน้าไม่ดี แต่งหน้าไม่ติด หน้าเยิ้มแน่นอน เช่น การใช้ครีมกันแดดทุกวัน มาสก์หน้า
ลองทำตามคลิปนี้ดูนะ เบิร์นมากก
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 2. นอนหลับและพักผ่อนกันเถอะ
https://pin.it/3KZiGnY
การนอนหลับทำให้ร่างกายแข็งแรงได้อย่างที่เราเขียนไปในข้อแรก แต่จริง ๆ แล้วการนอนหลับที่เพียงพอมีพลังมากกว่าที่คิดอีกนะ ใน 1 วันเราควรนั้นวันละ 6-8 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนนอนเพียง 6 ชั่วโมงก็รู้สึกว่านอนพอแล้ว แต่บางคนต้องนอนวันละ 8 ชั่วโมงถึงจะสดชื่น
ประโยชน์ของการนอน
1.การนอนหลับเพียงพอช่วยให้ร่างกายมีโอกาสฟื้นตัว และซ่อมแซมระบบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน หากเมื่อวานเราใช้ชีวิตแบบสมบุกสมบันมาก การนอนหลับเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและกลับสู่สภาวะปกติได้ดีขึ้น
2.ช่วยให้สมองพักผ่อนและรีเซ็ตตัวเอง ช่วยลดความเครียด และมีผลต่อสมดุลในอารมณ์ ช่วยลดความเสี่ยงในการเจอปัญหาทางจิตใจ
3.การเรียนรู้และความจำ: มีการศึกษาพบว่าการนอนหลับช่วยให้สมองมีประสิทธิภาพในการจดจำและประมวลผลข้อมูลด้วยนะ
4.เพิ่มความสามารถในการตัดสินใจ และความคิดริเริ่มที่ดีสร้างสรรค์และลงมือทำสิ่งใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น
5.ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากมีผลต่อระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และกระบบน้ำมันในร่างกาย
6.การนอนหลับเพียงพอช่วยส่งเสริมการควบคุมน้ำหนักที่เหมาะสม นอนน้อยหรือนอนมากเกินไปอาจมีผลต่อการควบคุมน้ำหนักไม่ดี
ประโยชน์ของการนอน
1.การนอนหลับเพียงพอช่วยให้ร่างกายมีโอกาสฟื้นตัว และซ่อมแซมระบบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน หากเมื่อวานเราใช้ชีวิตแบบสมบุกสมบันมาก การนอนหลับเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและกลับสู่สภาวะปกติได้ดีขึ้น
2.ช่วยให้สมองพักผ่อนและรีเซ็ตตัวเอง ช่วยลดความเครียด และมีผลต่อสมดุลในอารมณ์ ช่วยลดความเสี่ยงในการเจอปัญหาทางจิตใจ
3.การเรียนรู้และความจำ: มีการศึกษาพบว่าการนอนหลับช่วยให้สมองมีประสิทธิภาพในการจดจำและประมวลผลข้อมูลด้วยนะ
4.เพิ่มความสามารถในการตัดสินใจ และความคิดริเริ่มที่ดีสร้างสรรค์และลงมือทำสิ่งใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น
5.ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากมีผลต่อระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และกระบบน้ำมันในร่างกาย
6.การนอนหลับเพียงพอช่วยส่งเสริมการควบคุมน้ำหนักที่เหมาะสม นอนน้อยหรือนอนมากเกินไปอาจมีผลต่อการควบคุมน้ำหนักไม่ดี
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 3. สำรวจจิตใจกันหน่อย
https://pin.it/5DuRuTJ
สุขภาพจิตและกายเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องทำความเข้าใจและตระหนักถึงความรู้สึกและความคิดเราให้บ่อยขึ้นเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญในชีวิต จากนักศึกษาไปสู่วัยทำงาน เตรียมรับมือกับความตึงเครียดหรือความกระวนกระวายที่อาจเกิดขึ้น มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า Quarter-life crisis หรือวิกฤต 1 ส่วน 4 ของชีวิต ที่มักจะเกิดขึ้นกับเด็กจบใหม่
Quarter-life crisis เป็นช่วงเวลาของความไม่แน่นอนและการตั้งคำถามที่มักเกิดขึ้นเมื่อผู้คนรู้สึกว่าไม่มีแรงบันดาลใจ และสับสนในช่วงอายุ 20 กลาง ๆ ถึง 30 ต้น ๆ อาจรู้สึกว่าตติดอยู่กับทางตันในขณะที่เพื่อนทุกคนก้าวหน้าในอาชีพการงาน หรือการห่างจากเพื่อนที่สนิท การมองเห็นเพื่อน ๆ เริ่มมีงานทำ แล้วเราล่ะ? เอายังไงกับชีวิตดี
ทำอย่างไรดี?
1.เพื่อที่จะเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้นว่าทำไมถึงรู้สึกไม่มีความสุข คือ การใช้เวลาเพื่อหยุดและตระหนักถึงความคิด ความรู้สึก ร่างกายและสภาพแวดล้อม ณ ขณะ สำรวจตัวเองและสังเกตความคิดและความรู้สึกถามว่า "ฉันรู้สึกอย่างไร" และจดบันทึก
2.ลองหาต้นเหตุของความคิดจากสิ่งที่เราลองสำรวจและจดบันทึก เช่น พ่อแม่ คนรอบข้าง สังคม ความกดดันหรือจากความคาดหวัง
3.เข้าใจตัวเองในตอนนี้ ไม่ว่าเมื่อก่อนเราจะเป็นคนยังไง เก่งแค่ไหน ประสบความสำเร็จยังไง ลองทิ้งมันไว้ก่อนและทำความเข้าใจตัวเองในตอนนี้ มันโอเคนะถ้าตอนนี้จะไม่อยากสู้ต่อ อยากพักก่อน มันโอเคนะที่จะร้องไห้บ้าง
4.ปล่อยวางการตัดสินและโอบกอดตัวเอง
ที่มาข้อมูล : https://www.forbes.com/sites/tessbrigham/2022/06/07/signs-youre-having-a-quarter-life-crisis-and-wha...
Quarter-life crisis เป็นช่วงเวลาของความไม่แน่นอนและการตั้งคำถามที่มักเกิดขึ้นเมื่อผู้คนรู้สึกว่าไม่มีแรงบันดาลใจ และสับสนในช่วงอายุ 20 กลาง ๆ ถึง 30 ต้น ๆ อาจรู้สึกว่าตติดอยู่กับทางตันในขณะที่เพื่อนทุกคนก้าวหน้าในอาชีพการงาน หรือการห่างจากเพื่อนที่สนิท การมองเห็นเพื่อน ๆ เริ่มมีงานทำ แล้วเราล่ะ? เอายังไงกับชีวิตดี
ทำอย่างไรดี?
1.เพื่อที่จะเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้นว่าทำไมถึงรู้สึกไม่มีความสุข คือ การใช้เวลาเพื่อหยุดและตระหนักถึงความคิด ความรู้สึก ร่างกายและสภาพแวดล้อม ณ ขณะ สำรวจตัวเองและสังเกตความคิดและความรู้สึกถามว่า "ฉันรู้สึกอย่างไร" และจดบันทึก
2.ลองหาต้นเหตุของความคิดจากสิ่งที่เราลองสำรวจและจดบันทึก เช่น พ่อแม่ คนรอบข้าง สังคม ความกดดันหรือจากความคาดหวัง
3.เข้าใจตัวเองในตอนนี้ ไม่ว่าเมื่อก่อนเราจะเป็นคนยังไง เก่งแค่ไหน ประสบความสำเร็จยังไง ลองทิ้งมันไว้ก่อนและทำความเข้าใจตัวเองในตอนนี้ มันโอเคนะถ้าตอนนี้จะไม่อยากสู้ต่อ อยากพักก่อน มันโอเคนะที่จะร้องไห้บ้าง
4.ปล่อยวางการตัดสินและโอบกอดตัวเอง
ที่มาข้อมูล : https://www.forbes.com/sites/tessbrigham/2022/06/07/signs-youre-having-a-quarter-life-crisis-and-wha...
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 4. เตรียมสิ่งที่ต้องใช้ในวันรับปริญญาให้พร้อม
https://pin.it/3PNytCZ
ควรลิสต์สิ่งที่ต้องใช้และเตรียมชุดหรืออุปกรณ์สำหรับงานรับปริญญา เช่น ชุดรับปริญญา, รองเท้า, และสิ่งที่จำเป็น เพราะการลืมสิ่งไหนไปเราอาจจะกลับไปเอาหรือให้คนที่บ้านเอามาให้ไม่ทัน ลองลิสต์หน่อยว่าสิ่งไหนที่จำเป็น เช่น
1.ตัดุดหรือเช่าชุด ได้กี่วัน ทันวันรับปริญญาไหม
2.ชุดที่ต้องเตรียมไปมีชุดอะไรบ้าง เช่น ชุดนอน ชุดลำลอง ชุดนิสิต กระโปรง
3.รองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าใส่สบาย
4.อุปกรณ์ส่วนตัว เครื่องแต่งหน้า กล้อง
5.ต้องจ้างช่างแต่งหน้าหรือตากล้องไหม
2.ชุดที่ต้องเตรียมไปมีชุดอะไรบ้าง เช่น ชุดนอน ชุดลำลอง ชุดนิสิต กระโปรง
3.รองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าใส่สบาย
4.อุปกรณ์ส่วนตัว เครื่องแต่งหน้า กล้อง
5.ต้องจ้างช่างแต่งหน้าหรือตากล้องไหม
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 5. วางแผนเรื่องเวลา
https://pin.it/6L7gBQ1
วางแผนเวลาในวันงานรับปริญญาอย่างละเอียดเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างมาก เพื่อให้เรามีเวลาเพียงพอสำหรับการเตรียมตัว การเดินทาง และกิจกรรมหลังงานรับปริญญา การนัดเพื่อน การดูแลตัวเอง เราต้องจัดลำดับความสำคัยและรู้กำหนดการที่ต้องทำแต่ละวัน
วิธีเตรียมตัวก่อนรับปริญญาที่ 6. ถ่ายรูปก่อนรับปริญญาและวันรับปริญญา
https://pin.it/6JLaeM1
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤
อันดับบทความประจำวัน
(หมวดอื่น ๆ)
Variety By SistaCafe
Feature
กิจกรรม SistaCafe