การแพร่กระจายของโรค พยาธิปอดหนู นั้นมีการระบาดและกระจายอย่างรวดเร็วสู่คนได้ เพราะด้วยความส่งเสริมด้านสภาพอากาศที่มีความร้อนชื้นและฝนตกชุกในบางพื้นที่ช่วงหน้าฝน

เลือกอ่านตามหัวข้อ
พยาธิปอดหนู คืออะไร ?
อาการเมื่อพยาธิปอดหนูเข้าสู่ร่างกาย
สัตว์และอาหาร ที่มักพบพยาธิปอดหนูปนเปื้อน
การรักษาพยาธิปอดหนู
การป้องกันเบื้องต้น เพื่อหลีกเลี่ยงพยาธิปอดหนู
บทความแนะนำ ที่ซิสต้องไม่พลาด
" สาเหตุหลักจากอาหารสุกๆ ดิบๆ " อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกนั้นก็จะมีเสน่ห์ของรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากอาหารปรุงสุกอย่างสิ้นเชิง ทำให้ใครหลายๆ คนที่ได้ลองแล้วเกิดการติดใจจนกลายมาเป็นเมนูจานโปรดเลยทีเดียว และเมื่ออาหารที่ไม่ผ่านความร้อนแน่นอนว่า ย่อมมีเชื้อโรคหรือเชื้อแบคทีเรียแอบแฝงไว้อยู่บนเนื้อจะมีมากหรือน้อยนั้นก็อยู่กับสถานที่ที่นำมาทำเป็นอาหารด้วย และด้วยบางเชื้อโรคนั้นก็อาศัยสภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตเพื่อแพร่กระจายอย่างเช่น พยาธิปอดหนู โรคอันตรายที่อาศัยความร้อนและฝนในการแพร่พันธุ์ ซึ่งคนเราจะได้รับเชื้อโรคนี้ส่วนมากมาจากอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน ฉะนั้นแล้วมาทำความเข้าใจกับภัยอันตรายใกล้ตัว และข้อควรระวังสำหรับอาหารที่อาจจะมีเชื้อพยาธิปอดหนูสะสม
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
พยาธิปอดหนู คืออะไร ?

พยาธิปอดหนู หรือพยาธิหอยโข่ง เป็นพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่งมีชื่อว่า Angiostrongylus cantonensis ซึ่งอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู ลักษณะพยาธิตัวเต็มวัยมีรูปร่างเรียวยาวประมาณ 2-3 ซม. พยาธิตัวเมียมีขนาดใหญ่ลำตัวมีลักษณะลายแดงสลับขาว ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่า โดยพยาธินี้นั้นสามารถพบเห็นได้ในเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบได้บ่อยที่ภาคอีสานและภาคกลาง ซึ่งพยาธิตัวนี้นั้นจะแพร่จากการถ่ายอุจจาระของหนูที่มีพยาธิอ่อนปะปนออกมาพร้อมกัน เมื่อสัตว์ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะสัตว์น้ำจืด เช่น หอย ตัวทาก หรือกุ้งแม่น้ำ ก็จะกินตัวอ่อนของพยาธิเข้าไป ทำให้ตัวอ่อนไปเจริญเติบโตในสัตว์ที่กินนั้นแทน เมื่อเรานำเอาสัตว์นั้นมาทำอาหารโดยไม่ผ่านการปรุงให้สุกก่อน ก็สามารถทำให้พยาธิปอดหนูเข้าสู่ร่างกายและเป็นอันตรายที่ส่งผลเสียต่ออวัยวะต่างๆ ได้
อาการเมื่อพยาธิปอดหนูเข้าสู่ร่างกาย
หลังจากคนที่รับประทานการปนเปื้อนของพยาธิเข้าไป จะมีระยะการฟักตัวประมาณ 7-30 วัน ก่อนจะแสดงอาการของโรค โดยตัวอ่อนนี้จะเข้าสู่ระบบประสาท เช่น สมอง ไขสันหลัง จนทำให้เกิดดังนี้
- ปวดศีรษะ
- เป็นไข้
- ตาพร่ามัว จนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น
- คลื่นไส้อาเจียน
- มีอาการชักเกร็ง
- สูญเสียการทรงตัว
- อัมพาต
- เสียชีวิต
สัตว์และอาหาร ที่มักพบพยาธิปอดหนูปนเปื้อน

สัตว์ส่วนใหญ่นั้นแน่นอนว่าต้องมาจากสัตว์น้ำจืดกันส่วนใหญ่ และก็จะมักนำเอาสัตว์เหล่านี้มาทำเป็นอาหารแบบสุกๆ ดิบๆ ได้แก่
- หอยประเภทต่างๆ เช่น หอยเชอร์รี หอยโข่ง หอยขม
- ปลาน้ำจืด
- กุ้งแม่น้ำ
- กบ
- ตะกวด
นอกจากสัตว์เหล่านี้การทานผักและผลไม้สด รวมไปถึงการดื่มน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนก็สามารถได้รับพยาธิปอดหนูเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://i.pinimg.com/564x/9a/29/8e/9a298ebac0e282c0b7abf771f95456bb.jpg
----------------------------------------
เมื่อพูดถึงอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะที่ยังไม่ผ่านการปรุงสุก ก็สามารถรับเอาความเสี่ยงนี้ไปเต็มๆ โดยเฉพาะเมนู ดังนี้
- กุ้งแช่น้ำปลา
- ก้อย ลาบ ลู่ ดิบ
- พล่า ยำ น้ำตก อ่อม หมก
- กุ้งดอง ทะเลดอง หอยลวก
- หมึกซอต
เมื่อพูดถึงอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะที่ยังไม่ผ่านการปรุงสุก ก็สามารถรับเอาความเสี่ยงนี้ไปเต็มๆ โดยเฉพาะเมนู ดังนี้
- กุ้งแช่น้ำปลา
- ก้อย ลาบ ลู่ ดิบ
- พล่า ยำ น้ำตก อ่อม หมก
- กุ้งดอง ทะเลดอง หอยลวก
- หมึกซอต
การรักษาพยาธิปอดหนู

ปัจจุบันยังไม่มียาที่มีความจำเพาะในการรักษาโรคที่เกิดจากพยาธิปอดหนู สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน จะเป็นการให้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาหรือระงับอาการของโรคได้ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือมีภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะรักษาด้วยยา prednisolone และการเจาะระบายน้ำในไขกระดูกสันหลังออกเป็นระยะๆ เพื่อลดความดันของน้ำในไขสันหลัง สำหรับผู้ป่วยที่มีพยาธิไชเข้าตาก็จะรีบทำการผ่าตัดนำเอาพยาธิออกทันที
การป้องกันเบื้องต้น เพื่อหลีกเลี่ยงพยาธิปอดหนู

- รับประทานอาหารที่ผ่านการปรุงสุก ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดทุกครั้งก่อนนำมาทาน
- รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม ควบคุมหนูซึ่งเป็นโฮสต์ธรรมชาติ
- ดื่มน้ำสะอาดที่มีแหล่งผลิตหรือที่มาอย่างชัดเจน เพื่อลดโอกาสของการปนเปื้อน
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
พยาธิปอดหนู อันตรายกับเรามากจริงๆ โดยเฉพาะมากับอาหารที่เราชื่นชอบ ถึงแม้ว่าจะสามารถมีหนทางการรักษาที่ชัดเจนทั้งมีอาการที่ไม่รุนแรงหรือรุนแรง แต่ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างน่ากลัวสำหรับบุคคลที่ต้องเผชิญอาการเหล่านี้ ฉะนั้นแล้วพยายามเลี่ยงอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เราต้องแน่ใจว่าร้านอาหารและความสะอาดของร้านอย่างเข้มงวด เพื่อที่จะไม่ให้เชื้อโรคเหล่านั้นมาส่งผลเสียต่อเราได้ ยิ่งช่วงหน้าฝนช่วงนี้ก็อย่าลืมใส่ใจกับอาหารการกินและสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของเราให้มากยิ่งขึ้นกันด้วยนะคะ แล้วมาติดตามความรู้ดี ๆ แบบนี้กันได้ใหม่บทความหน้าที่ SistaCafe
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดสุขภาพ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe