Rain Hard, Shop Harder! ฝนตกไม่กลัว กลัวไม่ได้ช้อป

ไม่รอช้า เรามาเริ่มทอล์กกันเลยดีค่ะ ว่าด้วยเรื่องเสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด (พี่เอย) การ Shopping ในแต่ละซีซันเนี่ยมันแตกต่างกันออกไปจริง ๆ นะทุกคน ไม่แน่ใจว่ามีใครลองสังเกตกันหรือเปล่าคะ

• ช่วงฤดูร้อน : สิ่งที่หลาย ๆ คนมักจะซีเอฟกันเยอะ ๆ เช่น ครีมกันแดด สิ่งนี้คือขาดไม่ได้เลย (แล้วก็เป็นสิ่งที่ควรจะใช้ทุกวันด้วยนะคะ) เสื้อผ้าที่ใส่สบาย เสื้อผ้าสำหรับใส่ไปทะเลไปว่ายน้ำก็ได้รับความนิยมด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังจะมี พัดลมพกพา ตัวช่วยดี ๆ ที่พร้อมจะส่งความเย็นให้กับคุณในทุก ๆ ที่ ตลอดจนเครื่องสำอางสีสันสดใส ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงหน้าร้อนนั้นไปช่วงที่ทำให้คนอยากส่งรังสีความร้อนแรงสู้กับพระอาทิตย์ด้วยเช่นเดียวกัน
• ช่วงฤดูหนาว : ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ซีซันนี้จึงเป็นเดือนที่หลาย ๆ คน พากันซีเอฟ เสื้อกันหนาว คาร์ดิแกนต่าง ๆ เพราะนอกจากจะให้ความอบอุ่นแล้ว ยังเป็นความสนุกในเรื่องของการแมตช์แฟชั่นด้วย เพราะถ้าอยากจะแต่งตัวแบบหลายเลเยอร์ ซีซันนี้ก็คือตอบโจทย์นะ
• ฤดูฝน : ช่วงเวลาแห่งความรีบเร่ง เลิกงานเลิกเรียนแล้วต้องรับตรงกลับบ้านโดยทันที เพราะการติดฝนคงไม่ใช่เรื่องที่สนุกเท่าไหร่ และด้วยความที่อากาศแปรปรวน ของจำพวกยาสามัญประจำบ้าน แก้ปวดหัว แก้หวัด รวมถึงอาหารสำเร็จรูปเพื่อการดำรงชีพ จึงเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างก็ให้ความสนใจกัน รวมถึงพวก ร่ม เสื้อกันฝน รองเท้ากันน้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งไปเทมที่คนก็มักจะเลือกซื้อกันด้วย ถ้าใครที่เป็นสายมู ไอเทมเหล่านี้เขาก็จะใช้ตารางสีมงคลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจกันด้วยนะคะ ปังมาก

ไหน ๆ ก็พูดถึงเรื่องการ Shopping เข้ามาแล้ว ซึ่งเป็นคีย์เวิร์ดที่ทำให้เรานึกถึงภาพยนตร์ 2 เรื่องด้วยกัน เรื่องนึงเป็นเรื่องของการส่งของหรือดิลิเวอร์รี และอีกเรื่องหนึ่งจะเป็นเรื่องของการช้อปปิ้ง ทุกคนอาจจะเซฟเข้าลิสต์ไว้ดูช่วงรอพัสดุก็ได้นะคะ จะเป็นเรื่องราวแบบไหน มาต่อกันเลยค่ะ

Kiki's delivery service เป็นเรื่องราวของแม่มดวัยรุ่นสาวอายุ 13 ปี ชื่อว่า " กิกิ " ที่ออกเดินทางเพื่อค้นหาตัวเองกับแมวน้อย " จิจิ " กับไม้กวาดคู่ใจ เพื่อการปรับตัวเธอจึงใช้ความสามารถในการขี่ไม้กวาดคอยรับจ้างและส่งของให้กับคนในเมือง ช่วงเวลาแห่งการใช้ชีวิต เธอได้เจอมิตรภาพใหม่ ๆ มากมาย ที่ซึ่งคนเหล่านั้นก็เป็นคนที่คอยให้กำลังใจในยามที่เธอสูญเสียเวทมนตร์ด้วยเช่นกัน นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจในช่วงบรรยากาศฝนพรำแบบนี้ใช่ไหมล่ะคะ

Confession of a shopaholic ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของ " รีเบคก้า " หญิงสาวที่ชื่นชอบเรื่องแฟชั่นพ่วงด้วยตำแหน่งขาช้อปตัวยง เธอมีความฝันว่าอยากจะทำงานสายแฟชั่น แต่ก็ไม่มีใครรับเธอเข้าทำงาน จนกระทั่งเธอได้งานเป็นนักเขียนที่บริษัทการเงินแห่งหนึ่งโดยที่ไม่ได้มีความรู้ด้านการเงินเลย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ได้เขียนคอลัมน์ที่โยงเรื่องแฟชั่นกับการเงินเข้าด้วยกัน แล้วก็ได้รับผลการตอบรับที่ดีมาก ด้วยความที่รีเบคก้าเป็นนักช้อปและเธอเสพติดการช้อปปิ้งจนโงหัวไม่ขึ้น เช่นเดียวกันสิ่งที่เธอเป็นก็เป็นตัวทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคนรอบข้างเช่นเดียวกัน แต่ก็ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะปรับตัวเองให้ดีขึ้น แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เรามองว่าสิ่งที่หนังเรื่องนี้พยายามจะสื่อส่วนหนึ่งเลยเป็นเรื่องของ การรู้จักประมาณตัวเอง การซื้อของไม่ใช่เรื่องผิด แต่สิ่งสำคัญจะอยู่ตรงนี้การช้อปแบบพอดี ไม่เพิ่มรายจ่าย ไม่สร้างหนี้สินให้ตัวเองนั่นเองค่ะ 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การช้อปปิ้ง เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนมีความสุข แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นเดียวกันว่า การช้อปปิ้ง บางทีก็เหมือนกับดาบสองคม ถ้าช้อปมากไปจนเกินกำลัง นั่นก็อาจจะเป็นความทุกข์ของเราได้เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่อยากจะฝากกับทุกคนนั่นก็คือ ปณิธานการช้อปของเรานั่นเองค่ะ ช้อปปิ้งแบบพอดีพร้อมด้วยการจัดการเงินอย่างมีคุณภาพ 

1) อย่าเพิ่งช้อปทันที ตอนเงินเดือนออก : สิ่งที่ควรทำหลังจากที่เราได้รับเงินเดือนคือ การแบ่งค่าใช้จ่าย อาจจะจัดหมวดง่าย ๆ เป็น เงินเก็บ, เงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน, ค่าที่พัก, ค่าใช้จ่ายรายเดือน, ค่าขนมของเดือนนั้น, รวมถึง ค่าใช้จ่ายสำหรับช้อปปิ้งโดยเฉพาะ เป็นต้น เพราะเมื่อเราเริ่มแบ่งสรรปันส่วน จะทำให้เราคิดก่อนใช้เงินมากขึ้นด้วยนะคะ
2) เลือกซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็น ถ้าเช็กโปรโมชั่นไว้ก่อนก็จะดีมาก : เชื่อว่าหลายคนแต่ละเดือน ส่วนหนึ่งมักจะหมดเงินไปกับแฟชั่น แต่ถ้าพูดกันตามความเป็นจริง แฟชั่นเป็นอะไรที่เปลี่ยนไวมาก ฉะนั้นการซื้อเสื้อผ้าควรจะต้องเลือกที่ใส่ได้นาน ๆ ใส่ได้หลายโอกาส mix & match ได้หลากสไตล์ หรืออาจจะรอลดราคาแล้วค่อยซีเอฟก็ได้นะ แต่เอาเป็นว่า ก่อนจะช้อปอาจจะลองตอบคำถามเหล่านี้ก่อนก็ได้ค่ะ จำเป็นไหม? สมราคาหรือเปล่า? ใส่ไปไหนได้บ้าง? ประมาณนี้จ้ะ
3) ใช้เฉพาะเงินสด : สำหรับข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นการลิมิตการช้อปของตัวเองค่ะ ช้อปแค่เท่าที่มีแค่นั้น ถ้าส่วนนี้หมดก็จะไม่ช้อปเพิ่มขึ้น จริง ๆ ข้อนี้ก็จะโยงไปที่ข้อหนึ่งกับข้อสอง แล้วก็จะทำให้เรายับยั้งชั่งใจได้มากขึ้นด้วยนะคะ ดังนั้นพักเจ้าบัตรเครดิตไว้ก่อน เพราะถ้ารูดเพลินมาก ๆ ระวังเดือนถัดไปจะน้ำตาตกเอานะ

พูดคุยกันประมาณนึงแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าในซีซันของ Rain Hard, Shop Harder เหล่าซิส Curators พวกเขานำเสนอเรื่องราวอะไรกันบ้าง
 

ขึ้นชื่อว่าหน้าฝน ไม่ได้มีแค่ความชุ่มฉ่ำเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาพร้อมด้วยอันตรายที่เราก็อาจจะไม่ได้คาดคิด โรคภัยไข้หวัดก็พากันถามหา ไหนจะปัญหาสิวต่าง ๆ ก็พากันรุมเร้า ดังนั้นสิ่งที่พอจะทำได้ก็คงจะเป็นการตั้งรับนะสินะ มาดูกันเลยว่าซิส Curator เขาพูดถึงประเด็นเหล่านี้ยังไงกันบ้าง