รีจูรัน ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ไฮฟู อัลเทอรา และ เทอร์มาจ ต่างกันยังไง? เหมาะกับใคร? มาหาคำตอบได้ที่นี่เลย

เลือกอ่านตามหัวข้อ
หัตถการ ประเภทฉีด
รีจูรัน (Rejuran)
ฟิลเลอร์ (Filler)
โบท็อกซ์ (Botox)
หัตถการประเภทใช้เครื่อง
ไฮฟู (HIFU)
อัลเทอรา (Ulthera)
เทอร์มาจ (Thermage)
ตารางสรุป 6 หัตถการน่าทำปี 2023
อยากหน้าเรียวสวยต้องทำยังไง? เดาว่าหลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ หัตถการ ด้านความงามกันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ฟิลเลอร์เอย โบท็อกซ์เอย หรือจะเป็นเครื่องกระชับผิวตัวดังอย่างไฮฟู แต่ก็ไม่กล้าไปลองซักที เพราะแยกไม่ออกว่าแต่ละชนิดต่างกันยังไง ทำแล้วผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหน เดี๋ยว SistaCafe จะมาอธิบายเกี่ยวกับหัตถการสุดฮิตฉบับปี 2023 ให้หายสงสัยกันค่าา
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

หัตถการด้านความงามเค้าก็จะมีอยู่หลากหลายรูปแบบเลยค่ะ วันนี้ซิสขอยกมาหลักๆ 2 แบบที่คนฮิตๆ ทำกัน แบบแรกจะเป็นชนิดของคนใจถึง พึ่งได้ เพราะเป็นหัตถการที่จะต้องใช้การฉีดเข้าไปในผิวด้วยเข็มนั่นเองค่ะ สำหรับคนที่กลัวเข็มอันนี้คงต้องบ๊ายบาย แต่ถ้าคนที่ไม่ได้กลัว การจิ้มด้วยเข็มก็แค่มดกัด ก็รีบจัดชนิดนี้เลยจ้า ส่วนชนิดถัดมาที่ก็มาแรงไม่แพ้กันสำหรับคนที่หน้าคล้อย ห้อย เหี่ยว ก็จะเป็นหัตถการชนิดใช้เครื่องในการยกกระชับ ซึ่งชนิดนี้เค้าก็จะมาพร้อมราคาที่สูงจนเหงื่อแอบตก แต่ก็คุ้มค่าเพราะเห็นผลได้ระยะยาวกว่า เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่าว่าจะมีตัวไหนที่น่าสนใจบ้างน้าา
หัตถการ ประเภทฉีด

รีจูรัน (Rejuran)
หัตถการที่มาแรงแซงทางโค้งแบบสุดๆ กับ รีจูรัน (Rejaran) ที่ชื่อแอบมีความเอ๊ะ น่าสงสัย แถมไปทางไหนก็ได้ยินผ่านหูกันบ่อยๆ ต้องบอกเลยว่าสายงานผิว เทรนด์ผิวฉ่ำแบบเกาหลีควรทำความรู้จักเป็นอย่างมาก! ซึ่งรีจูรันมีส่วนประกอบหลักจาก Polynucleotide (โพลีนิวคลีโอไทด์ ) ที่สกัดมาจากชิ้นส่วน DNA ของปลาแซลมอน ที่มีความคล้ายคลึงกับ DNA มนุษย์ถึง 98 %
ซึ่งก็ตามชื่อเลยค่ะ รีจูรันก็คือการ Rejuvenation แทนที่เซลล์ที่เสื่อมสภาพด้วยการนำโพลีนิวคลีโอไทด์ที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายของมนุษย์ฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรง พอเราฉีดเข้าสู่ผิวหน้า ข้อดีก็คือเค้าจะสามารถเชื่อมต่อหลอดเลือดเล็ก ๆ ในเซลล์ (microvessel) ได้ จึงสามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมหรือเสียหายให้ดีขึ้น นอกจากนั้นก็ทำให้เกิดการหลั่ง Growth factor (IGF, EGF และ FGF) ที่จะไปกระตุ้นการทำงานของ เซลล์ไฟโบรบลาสต์ ซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจน ควบคุมการหลั่งสารไซโตไคน์เพื่อลดการอักเสบ เลยช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นนั่นเอง แถมอีกข้อที่หลายคนเลิฟมากก็คือเค้าช่วยลดรูขุมขน เติมเต็มให้ใบหน้าเราดูเต็มกระชับ ปรับสภาพผิวให้ฉ่ำวาว ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีไปในตัว
❣ สรุป อยากได้งานผิวสุขภาพดี ดูเต็มดูกระชับ ผิวกระจก ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี รีจูรันคือตอบโจทย์
ซึ่งก็ตามชื่อเลยค่ะ รีจูรันก็คือการ Rejuvenation แทนที่เซลล์ที่เสื่อมสภาพด้วยการนำโพลีนิวคลีโอไทด์ที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายของมนุษย์ฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรง พอเราฉีดเข้าสู่ผิวหน้า ข้อดีก็คือเค้าจะสามารถเชื่อมต่อหลอดเลือดเล็ก ๆ ในเซลล์ (microvessel) ได้ จึงสามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมหรือเสียหายให้ดีขึ้น นอกจากนั้นก็ทำให้เกิดการหลั่ง Growth factor (IGF, EGF และ FGF) ที่จะไปกระตุ้นการทำงานของ เซลล์ไฟโบรบลาสต์ ซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจน ควบคุมการหลั่งสารไซโตไคน์เพื่อลดการอักเสบ เลยช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นนั่นเอง แถมอีกข้อที่หลายคนเลิฟมากก็คือเค้าช่วยลดรูขุมขน เติมเต็มให้ใบหน้าเราดูเต็มกระชับ ปรับสภาพผิวให้ฉ่ำวาว ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีไปในตัว
❣ สรุป อยากได้งานผิวสุขภาพดี ดูเต็มดูกระชับ ผิวกระจก ฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี รีจูรันคือตอบโจทย์
ฟิลเลอร์ (Filler)
ตัวถัดมาที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีและแทบจะเรียกว่าหัตถการเพื่อนรัก เพื่อนคู่ใจที่ขาดไปไม่ได้ ก็คือ ฟิลเลอร์ (Filler) นั่นเอง ซึ่งฟิลเลอร์คือสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนัง หลักๆ จะเน้นแก้ปัญหาริ้วรอย ปรับส่วนต่างๆ ของหน้า โดยสารที่ใช้ฉีดจะเป็นสารที่มีชื่อว่า “กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid)” ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ขึ้นมาให้เหมือนกรดไฮยาลูโรนิกที่มีอยู่ในผิวคนเราอยู่แล้ว ทำให้การฉีดฟิลเลอร์นั้นค่อนข้างปลอดภัย และสามารถสลายไปเองได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในผิวด้วย ความดีงามก็คือฟิลเลอร์จะทำให้ผิวหน้ากลับมาดูเรียบเนียน เต่งตึงขึ้น เลยทำให้ใบหน้าเราอ่อนเยาว์ลง บวกกับคุณสมบัติอุ้มน้ำของฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้
❣ สรุป เอาแบบกระชับที่สุดเลย ฟิลเลอร์คือการเติม! ถ้าอยากแก้ไขปัญหาริ้วรอยและปรับรูปหน้า ไม่ว่าจะหน้าผาก ขมับ คาง โหนกแก้ม หรือเติมให้ปากดูอวบอิ่ม ก็สามารถที่จะปรับสัดส่วนเหล่านี้ให้เป๊ะขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดอันนี้ต้องฟิลเลอร์เลยค่ะซิส
โบท็อกซ์ (Botox)
มีฟิลเลอร์แล้วจะขาดโบท็อกซ์ไปได้ยังไงใช่ไหมล่ะคะ โบท็อกซ์ (Botox) จะเป็นการฉีดสารที่ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว โดยสารที่ใช้ฉีดเป็นโบท็อกซ์ มีชื่อว่าโบทูลินั่มท็อกซินเอ ( Botulinum toxin) ซึ่งเป็นสารที่สกัดจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะชื่อว่า Clostridium botulinum
เมื่อฉีด Botox เข้าสู่กล้ามเนื้อ สารก็จะไปจับกับปลายเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับ Botox หดตัวไม่ได้และอยู่ในสภาพคลายตัวในที่สุด ซึ่งปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าเราไม่ว่าจะเป็นรอยช่วง หางตา ระหว่างคิ้ว หน้าผาก ก็ล้วนเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า ดังนั้นเมื่อเราใช้ Botox ฉีดเข้าไปก็จะทำให้กล้ามเนื้อตรงนั้นคลายตัว ไม่มีริ้วรอยนั่นเอง
เมื่อฉีด Botox เข้าสู่กล้ามเนื้อ สารก็จะไปจับกับปลายเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ แล้วไปยับยั้งการกระตุ้นกล้ามเนื้อที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทบริเวณนั้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับ Botox หดตัวไม่ได้และอยู่ในสภาพคลายตัวในที่สุด ซึ่งปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าเราไม่ว่าจะเป็นรอยช่วง หางตา ระหว่างคิ้ว หน้าผาก ก็ล้วนเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า ดังนั้นเมื่อเราใช้ Botox ฉีดเข้าไปก็จะทำให้กล้ามเนื้อตรงนั้นคลายตัว ไม่มีริ้วรอยนั่นเอง
❣ สรุป ถ้ามีปัญหาริ้วรอย เช่น รอยตีนกา รอยหน้าผาก รอยเหี่ยวย่น หรืออยากแก้ไขกรามที่ใหญ่เกินความต้องการ อันนี้ต้องโบท็อกซ์เลยจ้าาา แต่ไม่แนะนำให้เติมโบท็อกซ์บ่อยจนเกินไปนะ เพราะอาจทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายเราต่อต้านโบท็อกซ์ ฉีดไปอาจจะไม่เห็นผล กลายเป็นว่าเสียเงินไปฟรีๆ ได้นะคะซิส
หัตถการประเภทใช้เครื่อง

ไฮฟู (HIFU)
เคล็ดลับนางฟ้าที่ต้องรู้คือผิวหน้าจะกระชับหรือหย่อนคล้อยขึ้นอยู่กับความสมดุลของผิวหนังชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นส่วนที่จะเป็นตัวรักษาโครงสร้างของผิวหนังให้มีความยืดหยุ่น ความสมดุลของโครงสร้างนี้เองที่ช่วยให้ผิวหน้าเรามีความกระชับ แต่ถ้าเกิดว่าคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ก็จะทำให้ผิวหน้าเราสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดการหย่อนคล้อย แน่นอนว่าอายุที่มากขึ้นก็ส่งผลต่อผิวหนังชั้น SMAS ได้เช่นกัน
ทีนี้เราจะเซฟชั้นผิวให้อยู่กับเรานานๆ ได้ยังไง? คำตอบก็คือหัตถการในกลุ่มเครื่องยกกระชับนั่นเองค่ะ อย่าง ไฮฟู (HIFU) เค้าจะช่วยกระชับผิวหน้าโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังชั้น SMAS ด้วยพลังงานความร้อนที่ส่งไปยังชั้น SMAS โดยตรงจะทำให้ผิวหนังชั้นนี้เกิดการซ่อมแซมและสร้างใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น ริ้วรอยที่เกิดจากผิวหนังที่หย่อนคล้อยก็ช่วยทำให้ลดลงได้
❣ สรุป HIFU เหมาะกับคนที่ไม่มีไขมันบนใบหน้าเยอะ แต่ผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการกระชับใบหน้า ถ้าเราเป็นคนที่อายุยังไม่ถึง 30 อันนี้แนะนำเลยค่ะเพราะราคาถือว่ายังไม่แรงมากในหมู่เครื่องยกกระชับผิว เหมาะกับคนที่พึ่งเริ่มต้นเข้าวงการนี้ และความเจ็บยังไม่มาก ยังพอทนไหว แต่ HIFU ก็จะไม่สามารถกำจัดไขมันหรือลดไขมันบริเวณเหนียงได้นะคะ และจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน อาจจะต้องเข้ามาทำบ่อยหน่อย ประมาณปีละ 2-3 ครั้ง
ทีนี้เราจะเซฟชั้นผิวให้อยู่กับเรานานๆ ได้ยังไง? คำตอบก็คือหัตถการในกลุ่มเครื่องยกกระชับนั่นเองค่ะ อย่าง ไฮฟู (HIFU) เค้าจะช่วยกระชับผิวหน้าโดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังชั้น SMAS ด้วยพลังงานความร้อนที่ส่งไปยังชั้น SMAS โดยตรงจะทำให้ผิวหนังชั้นนี้เกิดการซ่อมแซมและสร้างใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น ริ้วรอยที่เกิดจากผิวหนังที่หย่อนคล้อยก็ช่วยทำให้ลดลงได้
❣ สรุป HIFU เหมาะกับคนที่ไม่มีไขมันบนใบหน้าเยอะ แต่ผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการกระชับใบหน้า ถ้าเราเป็นคนที่อายุยังไม่ถึง 30 อันนี้แนะนำเลยค่ะเพราะราคาถือว่ายังไม่แรงมากในหมู่เครื่องยกกระชับผิว เหมาะกับคนที่พึ่งเริ่มต้นเข้าวงการนี้ และความเจ็บยังไม่มาก ยังพอทนไหว แต่ HIFU ก็จะไม่สามารถกำจัดไขมันหรือลดไขมันบริเวณเหนียงได้นะคะ และจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน อาจจะต้องเข้ามาทำบ่อยหน่อย ประมาณปีละ 2-3 ครั้ง
อัลเทอรา (Ulthera)
เครื่องสำหรับยกกระชับตัวถัดมาจะคล้ายๆ กับ HIFU เลยค่ะ ตัวนี้จะมีชื่อว่า อัลเทอรา (Ulthera) ลักษณะการทำงานจะคล้ายกันตรงที่เป็นการส่งพลังงานอัลตร้าซาวนด์ลงไปในผิวหนังชั้นลึก ทั้ง Ulthera กับ HIFU ถึงจะจัดอยู่ในหมวดเดียวกันแต่สิ่งที่ทำให้ราคาเค้าแตกต่างกันมากทั้งๆ ที่ก็ช่วยยกกระชับผิวเหมือนกัน ก็เป็นเพราะเทคโนโลยีการส่งพลังงานเข้าไปใต้ผิวและความคงที่ของพลังงานนั้นแตกต่างกันค่ะ ความพิเศษของ Ulthera คือเค้าจะมีหน้าจอแสดงผลการทำงานให้ดูแบบเรียลไทม์ ทำให้เราสามารถการดูระดับความลึกของจุดที่ยิงลงไปได้ จึงมีความแม่นยำสูง ปลอดภัย และไม่ก่อผลกระทบกับผิวบริเวณข้างเคียง
❣ สรุป Ulthera เหมาะกับคนที่มีงบขึ้นมาหน่อย มีไขมันบนหน้าไม่มาก ผิวหน้าหย่อนคล้อย แต่อยากได้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานขึ้น แม่นยำขึ้น อยู่ได้นานถึง 10-12 เดือน หรือ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับพลังงานที่ใช้ ยี่ห้อเครื่อง ความชำนาญของแพทย์ แต่อาจจะแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่า และความเจ็บกว่าพอสมควร
เทอร์มาจ (Thermage)
มาถึงเครื่องยกกระชับตัวสุดท้ายกันแล้วกับ เทอร์มาจ (Thermage) เครื่องนี้จะเป็นการส่งคลื่นวิทยุ (Radio frequency or RF) ความถี่สูงเพื่อลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปใบหน้าให้ยกกระชับ กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียน ซึ่งการทำงานของ Thermage จะเป็นการส่งคลื่นความร้อนจากคลื่นวิทยุ โดยก้อนความร้อนจะถูกส่งลงสู่ชั้นผิวหนัง Dermis (ตื้นกว่าชั้นผิวหนัง SMAS) ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของคอลลาเจน เค้าเลยสามารถกระตุ้นได้อย่างทันที ข้อดีของการที่เป็นก้อนพลังงานขนาดใหญ่ ก็คือเค้าจะครอบคลุมพื้นที่ได้ดีกว่าการยิงแบบจุดที่ไม่มีทิศทางแบบเครื่องอื่นๆ และเทอร์มาจเองก็เด่นในการฟื้นฟูผิว กระชับผิว ลดชั้นไขมันที่ใบหน้า และกำจัดไขมันบริเวณเหนียงได้อีกด้วย
❣ สรุป ใครมีไขมันบนหน้าเยอะๆ ผิวย้วย ไม่กระชับ มีเหนียงเยอะ Thermage คือคำตอบ! จะเน้นไปที่การสลายไขมันเป็นหลัก ช่วยให้ผิเรียบเนียนขึ้น แถมยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่อาจจะเจ็บและราคาแพงกว่าแบบอื่น ซึ่งถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 1 - 2 ปี ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะจ่ายครั้งเดียวอยู่ได้นานมากจ้า
❣ สรุป ใครมีไขมันบนหน้าเยอะๆ ผิวย้วย ไม่กระชับ มีเหนียงเยอะ Thermage คือคำตอบ! จะเน้นไปที่การสลายไขมันเป็นหลัก ช่วยให้ผิเรียบเนียนขึ้น แถมยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่อาจจะเจ็บและราคาแพงกว่าแบบอื่น ซึ่งถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 1 - 2 ปี ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะจ่ายครั้งเดียวอยู่ได้นานมากจ้า
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดOriginal Content)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe