เล็บบอกโรค เช็กสัญญาณเตือนสุขภาพจากภายในที่ห้ามมองข้าม

เริ่มต้นสัญญาณเตือนข้อแรกที่หลาย ๆ คนสามารถสังเกตได้ง่ายที่สุดก็คือ อาการเล็บเหลือง นั่นเองค่ะ โดยอาการนี้เกิดจากการที่ภายในร่างกายมีภาวะต่อมน้ำเหลืองโตเกิดขึ้น หรือมักจะพบในกลุ่มคนที่เป็นโรคถุงลมโป่งพอง โรคปอด หรือโรคไซนัสอักเสบเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้เล็บเหลืองมักพบในกลุ่มผู้หญิง ที่มาจากการทาเล็บบ่อย ซึ่งเกิดจากสารเคมีเข้าไปทำลายตัวเล็บและเกิดการติดเชื้อราจึงทำให้ลักษณธของเล็บเป็นสีดังกล่าวได้

สัญญาณเตือนข้อถัดมาคือ การที่เล็บมีความหนา หรือบางที่ผิดปกติจนเกินไปอย่างเห็นได้ชัด หากเล็บมีความหนามากผิดปกติ สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เชื้อราที่เล็บ โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น และหากเล็บบางเว้าลงจนคล้ายรูปช้อน (Spoon nails หรือ koilonychia) โดยมีลักษณะขาวซีด อ่อน แบนบาง และแอ่นคล้ายช้อน มักเป็นสัญญาณของโรคเลือดจาง รวมไปถึงใครที่เป็นสาวกเล็บเจลทำเล็บบ่อย ๆ ก็อาจจะทำให้หน้าเล็บบางมากกว่าปกติได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นควรเว้นระยะในการทำเล็บอย่างน้อย 2-4 อาทิตย์นะคะซิส

หากเพื่อน ๆ ลองลูบเล็บแล้วมีความรู้สึกว่าเล็บขรุขระมากกว่าปกติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนของโรคนะคะ ถ้าเป็นหลายเล็บ อาจบ่งบอกว่าเราเป็นโรคสะเก็ดเงิน และหากพบว่าเล็บเป็นร่องลึกตามแนวขวาง (Beau's lines) มักมีสาเหตุมาจากการเจริญเติบโตของเล็บถูกรบกวนจากอาการบาดเจ็บหรืออาการเจ็บป่วยร้ายแรง เช่น การมีไข้สูง การผ่าตัด เป็นต้น

สัญญาณเตือนข้อที่ 4 กับอาการบวมแดงบริเวณผิวหนังรอบเล็บ ซึ่งเล็บเป็นสิ่งที่บ่งบอกลักษณะนิสัยบางอย่างของเจ้าของได้ หากมีการสัมผัสกับน้ำบ่อย ๆ หรือในคนที่เป็นช่างทำผม จะเกิดการระคายเคืองบริเวณเล็บได้ง่าย เช่น จากสารเคมี นั่นเอง ซึ่งต้นเหตุคือ การอักเสบของโคนเล็บ หากเป็นต่อเนื่องในระยะเวลานานอาจเกิดการติดเชื้อราตามมาได้และอาจทำให้ผิวหนังรอบเล็บบวมแดง มีอาการปวดและมีหนองร่วมด้วย ดังนั้นหากใครมีพฤติกรรมหรือจำเป็นต้องใช้มือเยอะ ๆ อยากให้พักมือและหันมาใส่ใจสุขภาพเล็บเพื่อป้องกันการเกิดโรคตามมานะคะ ^^

สัญญาณเตือนสุขภาพเล็บข้อถัดมาก็คือ อาการปลายเล็บร่น โดยปกติเล็บของเรามักจะติดกับเนื้อใต้เล็บเห็นเป็นสีชมพูถึงตรงปลาย พอถึงตรงปลายเล็บถึงจะแยกจากเนื้อ เห็นเป็นแถบแคบ ๆ สีเหลือง แต่หากมีโรคบางอย่างเกิดขึ้น เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคไทรอยด์ โรคเชื้อราที่เล็บ โรคผื่นผิวหนังอักเสบ รวมถึงการใช้ยาบางชนิด ตรงปลายเล็บก็จะแยกเป็นสีเหลืองและมีความกว้างกว่าปกติ ส่งผลให้มีพื้นที่ว่างใต้เล็บมากขึ้น