Abusive Relationship ชวนรู้จักความสัมพันธ์ทั้งรักทั้งเจ็บ Red Flag แบบไหนที่ควรหนี

เชื่อว่าในความสัมพันธ์ของเรา ใครๆ ก็อยากเป็นคนที่ถูกรัก อยากเป็นคนที่ถูกใครสักคนเข้าใจใช่ไหมคะ ถึงเเม้ความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามสำหรับทุกๆ คน อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกรูปแบบความสัมพันธ์ที่จะซัพพอร์ตกันเเละกัน โดยหลายๆ ครั้งนำไปสู่การใช้ความรุนเเรงในทางที่ไม่เหมาะสมไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม ซึ่งไม่ว่าเราจะรักมากเท่าไหร่ เเต่หัวใจของเราก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ ดังนั้นเราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับรูปแบบความสัมพันธ์ประเภทที่เรียกว่า ‘ Abusive Relationship ’ กันมากขึ้น เพื่อที่เราจะได้สามารถป้องกันใจดวงน้อยๆ ของเรา พร้อมกับคนรอบตัวของเราที่อาจกำลังอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้

ถ้าชาวซิสคนไหนพร้อมเเล้ว ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

คำเตือน: บทความนี้มีการกล่าวถึงการใช้ความรุนเเรง หากเพื่อนๆ รู้สึกไม่สบายใจ SistaCafe ขอแนะนำให้หยุดอ่านนะคะ 

หากเราพิจารณาคำนี้จะเห็นว่าประกอบจากคำว่า Abusive + Relationship

Abusive (adj.) หมายถึง การใช้ความรุนเเรงทางร่างกายเเละอารมณ์

Relationship (n.) หมายถึง ความสัมพันธ์

ดังนั้นเมื่อรวมกันเป็นคำว่า Abusive Relationship จึงมีความหมายว่า ความสัมพันธ์ที่มีการใช้ความรุนเเรงอย่างไม่เหมาะสมทั้งทางกาย ทางวาจา เเละทางจิตใจ ส่วนจะเเบ่งเป็นแบบไหนได้บ้าง เราลองมาดูกันข้างล่างดีกว่าค่ะ

หรือพูดง่ายๆ ว่า คือการทำร้าย ทุบตี หรือ ทำให้บาดเจ็บทางร่างกายไม่ว่าด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งทั้ง ด้วยมือเปล่าหรือด้วยอาวุธ ซึ่งไม่เพียงเเค่ทำร้ายร่างกายคู่รักเท่านั้น อาจลามไปถึงการทำร้าย ร่างกายบุคคลที่คุณรัก เช่น สมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ หรือสัตว์เลี้ยงด้วยค่ะ นอกจากนั้นแล้วการ กักขังหน่วงเหนี่ยวเเละการห้ามไม่ให้รับประทานอาหารหรือน้ำเองก็ถูกนับอยู่ในกรณีนี้ด้วยค่ะ

ซึ่งการทำร้ายร่างกายนั้นไม่ว่าจะด้วยเจตนาหรือไม่เจตนา ไม่ว่าด้วยอารมณ์โกรธหรือเศร้าสุดขีด ก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมในความสัมพันธ์ที่เราควรช่วยกันยับยั้งค่ะ ดังนั้นหากเพื่อนๆ คนไหน สังเกตเห็นรอยฟกช้ำหรือบาดเเผลที่ผิดปกติของคนรอบๆ ตัว เราอาจลองค่อยๆ ยื่นมือช่วยเหลือ หรือติดต่อหน่วยงานที่ดูเเลด้านนี้ได้เช่นกันค่ะ

ต่อมาด้วยการทำร้ายทางอารมณ์เเละจิตใจ ซึ่งโดยปกติเเล้วสามารถสังเกตเห็นได้ยากกว่าทางร่างกายมากๆ เพราะถึงเเม้ว่าความสัมพันธ์ภายนอกจะดูปกติสุข เเต่จริงๆ อาจมีการทำร้ายทางอารมณ์เเละจิตใจซ่อนอยู่

ซึ่งหากพูดโดยกว้างๆ เเล้ว การทำร้ายทางอารมณ์เเละจิตใจหมายถึงการทำให้อีกฝ่ายเกิดความรู้สึกเเย่เเละด้อยคุณค่าในตนเองลง ไม่ว่าจะเป็นการกดขี่ข่มเหง การข่มขู่ การหึงหวงเกินเหตุ การปกป้องมากเกินไป การบิดเบือนความรู้สึกและความเชื่อ (Gaslighting) การเมินความรู้สึกของอีกฝ่าย หากสิ่งเหล่านี้ดึงคุณค่า ดึงความรู้สึกให้ด้อยลง อาจสามารถพิจารณาได้เเล้วล่ะ ว่านี้ความสัมพันธ์นี้กำลังทำร้ายใจอยู่รึเปล่า

ถัดมาด้วยการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเราเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงได้ยินผ่านๆ กันมาบ้าง ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับเรื่องเกี่ยวกับเพศนั้นคือ ความยินยอม หรือ Consent

ดังนั้นหากเกิดการกระทำทางเพศใดๆ ก็ตามที่ไปสู่ทางที่ผิด ปราศจากการยินยอม ไม่ว่าจะเป็นการบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ การบังคับสำเร็จความใคร่ การบังคับรับชมการมีเพศสัมพันธ์หรือสำเร็จความใคร่ การบังคับถ่ายคลิปอนาจาร การบังคับเเต่งกายยั่วยวนโดยไม่สมัครใจ การใช้สารต่างๆ เพื่อหลอกล่อให้มีเพศสัมพันธ์ หรือการกระทำใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับทางเพศเเละไม่ได้รับความยินยอม ทั้งหมดนั้นย่อมถูกนับว่าเป็นการความล่วงละเมิดทางเพศทั้งสิ้น

อีกหนึ่งอย่างที่ถูกจัดว่าเป็นการใช้ความรุนเเรงเเละทำร้ายกันในความสัมพันธ์เช่นกัน คือการทารุณกรรมทางด้านทรัพย์สินเเละการเงิน (Material and Financial Abuse) ค่ะ

โดยการทารุณกรรมทางด้านทรัพย์สินเเละการเงิน ก็คือการขัดขวางสิทธิทางการเงินในความสัมพันธ์โดยปราศจากความยินยอมหรือการใช้เงินเเละทรัพย์สินของอีกฝ่ายในทางที่ไม่ชอบ เช่น การควบคุมการใช้เงินเเละการเข้าถึงทรัพย์สิน การห้ามรับรายได้หรือทรัพย์สิน การขโมยเงินเเละทรัพย์สิน การยัดยอก การฉ้อโกง รวมไปถึงการปกปิดข้อมูลทางการเงินไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ด้วยค่ะ

เอาละ เราได้รู้จักลักษณะเเละประเภทต่างๆ ของความสัมพันธ์ Abusive Relationship กันไปบ้างแล้ว เเต่เอ๊ะ! ในเมื่อการกระทบกระทั้งกันบ้างเป็นเรื่องปกติในความสัมพันธ์ เเล้วแบบนี้เราจะแยกออกได้ยังไงว่าจุดไหนควรไปต่อหรือพักก่อน

สิ่งที่สามารถสังเกตได้ชัดเจนเลยคือ สาเหตุ ความถี่ เเละลักษณะการใช้อำนาจค่ะ โดยปกติแล้วการทะเลาะกันมักจะเกิดจากปัญหาในการเเสดงออกหรือการสื่อสารให้อีกฝ่ายรับรู้ ซึ่งสุดท้ายจะนำไปสู่การพยายามหาทางออกร่วมกัน เเละนับว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติระหว่างคนสองคน

แต่การใช้ความรุนเเรงหรือการ abuse ไม่ว่าจะทางจิตใจ ทางอารมณ์ การใช้กำลัง หรืออื่นๆ มักจะเกิดอย่างบ่อยครั้งเเละพยายามมีอำนาจเหนือกว่า จึงทำให้อีกฝ่ายอีกฝ่ายนั้นรู้สึกด้อยค่านั้นเองค่ะ

ดังนั้นการหมั่นสังเกตเเละตรวจเช็คความสัมพันธ์นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยเเก้ไขปัญหาที่เจอร่วมกันเเล้ว ยังช่วยให้เราสามารถเเยกเเยะได้ระหว่างความขัดเเย้งกันตามปกติ หรือการ abuse ที่มากเกินกว่าปกติค่ะ ซึ่งวันนี้ SistaCafe เองก็ได้เตรียมเช็กลิสต์ Red Flags เพิ่มเติมมาฝากเพื่อนๆ เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเช็กสถานะความสัมพันธ์ของเราได้ง่ายขึ้นด้วย

ไปดูกันเลยดีกว่า