เมื่อเป็นเด็กเกราะของภูมิคุ้มกันจึงยังไม่แข็งแรงมากนัก เกิดโรคติดต่อได้ง่ายๆ อย่าง ' โรคมือเท้าปาก ' ที่นอกจากมาพร้อมกับช่วงฤดูฝนแล้วยังติดต่อมากับการเล่นสนุกได้อีกด้วย

เลือกอ่านตามหัวข้อ
ทำความรู้จักกับ " โรคมือเท้าปาก "
อาการของโรคมือเท้าปาก
ภาวะแทรกซ้อนของโรคมือเท้าปาก
วิธีป้องกันเมื่อเกิดโรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปากสามารถติดต่อได้ไหม?
การป้องกันของโรคมือเท้าปาก
เสริมเกราะป้องกันด้วย การฉีดวัคซีนโรคมือเท้าปาก
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
" อันตรายอยู่ใกล้ตัวเรา " เข้าสู่ช่วงหน้าฝนอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าอากาศที่เริ่มเย็นชุ่มฉ่ำ กับเสียงฝนที่ฟังแล้วรู้สึกเคลิ้มตลอดเวลาก็นำพาโรคร้ายมาให้ด้วยได้นะ โดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่ยังมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงมากเท่ากับวัยผู้ใหญ่สามารถติดต่อโรคได้อย่างง่ายดาย และโรคที่น่าเป็นกังวลสำหรับใครที่มีเด็กเล็กในบ้านนั่นก็คือ " โรคมือเท้าปาก " เป็นโรคที่เกิดการระบาดอย่างรวดเร็วในเด็กเล็กเป็นอย่างมาก หากผู้ปกครองไม่คอยระวังและสังเกต ฉะนั้นเราต้องสังเกตพฤติกรรมและอาการก่อนเกิดโรคนี้กัน แล้วถ้าเด็กติดโรคนี้จะมีทางรักษาแบบไหน SistaCafe จะพาไปศึกษากันด่วนๆ กับ ภัยใกล้ตัวที่อันตรายอย่างโรคมือเท้าปาก กันดีกว่า
✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ทำความรู้จักกับ " โรคมือเท้าปาก "
โรคมือเท้าปากสามารถพบได้กับเด็กเล็กโดยเฉพาะเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี โดยโรคนี้นั้นมักจะในช่วงฤดูฝน โดยสาเหตุเกิดได้จากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่มของเอนเตอโรไวรัส (Enterovirus 71 (EV71) Coxasackie Virus) ที่ค่อนข้างมีหลากหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่ที่พบอาการจะไม่รุนแรง มีอาการไข้ เป็นแผลในปาก มีตุ่มน้ำใสในฝ่ามือ ฝ่าเท้า และลำตัว แม้ว่าอาการไม่ถึงกับรุนแรงแต่ก็สามารถสร้างความน่าเป็นห่วงและความกังวลใจให้กับผู้เป็นพ่อแม่ได้
โดยโรคนี้นั้นส่วนมากจะพบกับเด็กแต่ใช่ว่าจะไม่เกิดกับผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่ก็สามารถพบ ' โรคมือเท้าปาก ' ได้เช่นกัน แต่จะพบได้น้อยมาก และหากพบว่าเป็นก็จะมีอาการไม่รุนแรงเท่าเด็กเล็ก
โดยโรคนี้นั้นส่วนมากจะพบกับเด็กแต่ใช่ว่าจะไม่เกิดกับผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่ก็สามารถพบ ' โรคมือเท้าปาก ' ได้เช่นกัน แต่จะพบได้น้อยมาก และหากพบว่าเป็นก็จะมีอาการไม่รุนแรงเท่าเด็กเล็ก
อาการของโรคมือเท้าปาก
การสังเกตอาการของโรคนี้นั้นคือจะมีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย มีแผลในปาก เป็นผื่นขึ้นตามจุดต่างๆ สีแดงๆ เช่น ที่มือ เท้า หรืออาจจะมีผื่นตามลำตัว แขนและขาร่วมด้วย โดยเมื่อร่างกายได้รับเชื้อโรคมานั้นจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 3-7 วัน จึงจะแสดงอาการไข้สูงขึ้นมา สูงได้มากถึง 38-39 องศาเซลเซียสทีเดียว จากนั้นอาการอื่นๆ ก็จะแสดงผลตามมา ภายใน 1-2 วัน ได้แก่ อาการเจ็บคอ เริ่มไม่ค่อยอยากอาหาร ร่างกายรู้สึกเริ่มเพลียอ่อนแอไม่ร่าเริง และเริ่มมีตุ่มผืนขึ้น หรือบางครั้งเป็นแผลอักเสบมีหนองที่ผิวหนัง บริเวณที่พบมักจะเป็นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และบริเวณปากมีทั้งภายนอกและภายในปากร่วมด้วยเช่นกัน เป็นต้น โดยผู้ที่พบอาการนี้มักจะป่วยอยู่ 2- วันแรก หลังจากนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายประมาณ 1 สัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อนของโรคมือเท้าปาก
ส่วนใหญ่ที่เกิดอาการของโรคมือเท้าปากมักจะหายได้เอง แต่ในขณะเดียวกันนั้น ก็สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ โดยถึงขั้นรุนแรงมากๆ อย่างการเป็นก้านสมองอักเสบ แต่อย่าพึ่งกังวลไปค่ะ เพราะสามารถเกิดขึ้นได้น้อยและพบได้น้อยมากๆ เพราะจากการพบภาวะแทรกซ้อนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้แค่ 1-5 รายต่อปีเท่านั้น โดยหากพบนั้นสามารถทำให้เกิดโอกาสที่จะเสียชีวิตได้สูง ดังนั้นหากพ่อแม่ท่านไหนที่พบว่าลูกเป็นโรคมือเท้าปากและกลัวภาวะแทรกซ้อน สังเกตได้จากอาการของลูกๆ ได้ดังนี้ คือ เด็กจะมีอาการซึมลงอย่างเห็นได้ชัด หายใจหอบและหายใจเร็ว มีอาการชัก เกร็ง หมดสติ หรือมีอาการมือสั่น ขาสั่น เดินเซ หากพบว่าเด็กมีอาการเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบพาตัวเด็กไปพบแพทย์โดยด่วน
วิธีป้องกันเมื่อเกิดโรคมือเท้าปาก
อย่างที่บอกว่าสามารถหายได้เอง หรืออาการก็จะดีขึ้นตามลำดับ โดยการรักษาของแพทย์นั้นก็จะเป็นการรักษาตามอาการ เช่น การให้ยามากินอย่างยาลดไข้ หรือถ้าหากกรณีที่เด็กมีอาการอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก หมอจะให้นอนรักษาเพื่อติดตามอาการโดยการให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด ร่วมกับการให้ยาลดไข้และยาแก้ปวด ยารักษาแผลในปาก และให้ยาปฎิชีวนะในกรณีที่จำเป็น ร่วมกับการเฝ้าระวังอาการที่อาจจะสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
โรคมือเท้าปากสามารถติดต่อได้ไหม?
การติดต่อของโรคนี้นั้นสามารถเกิดได้จากการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย และจากการสัมผัสทางอ้อมผ่านของเล่น มือผู้เลี้ยงดู น้ำ และอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค โดยส่วนใหญ่ที่พบและติดต่อกันเป็นทอดๆ เลยคือการแพร่ระบาดในโรงเรียนอนุบาล หรือสถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก ดังนั้นแล้วการเกิดโรคนี้สามารถเกิดขึ้นซ้ำอีกได้ ถ้าได้รับเชื้อคนละสายพันธุ์กับที่เคยเกิดก่อนหน้านี้ได้เช่นกัน เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนั้นหายจากการติดเชื้อไวรัสอีกสายพันธุ์หนึ่ง อาจไม่สามารถปกป้องอีกสายพันธุ์หนึ่งได้ แม้ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไวรัสเอนเทอโร เช่นเดียวกันก็ตาม
การป้องกันของโรคมือเท้าปาก
❣ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องออกนอกบ้าน
❣ เพิ่มการสอนการล้างมือที่ถูกต้องให้กับเด็กๆ โดยต้องให้เด็กๆ ล้างมือด้วยสบู่หรือการใช้เจลแอลกอฮอล์ร่วมด้วย
❣ ทำความสะอาดของเล่นเมื่อเล่นเสร็จ
❣ ดูแลความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม ห้ามให้มีเชื้อโรคปะปน
❣ หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกันอย่างแก้วน้ำ เป็นต้น
❣ งดการพาเด็กๆ ไปในที่แออัด เช่น สนามเด็กเล็ก ห้างสรรพสินค้า โดยที่เด็กยังอยู่ในช่วงที่เกิดโรคอยู่
❣ หากว่าเด็กเป็นโรคมือเท้าปาก ควรมีการหยุดเรียนและรักษาให้อาการขาดหายก่อน หรือหากว่าอาการดูผิดปกติอย่างมากควรมีการพบแพทย์เพื่อตรวจโรคแทรกซ้อน
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดสุขภาพ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe