วิธีจัดการกับความเครียดที่มาจากไหนก็ไม่รู้ ร้ทันก่อนสายเกินแก้

PAGE 2/2
» »

2. พักจากการเสพสื่อ

ในยุคสมัยที่อินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งที่สำคัญ โซเชียลมีเดียที่นำเสนอแต่ด้านดีของทุกคนจึงทำให้บางครั้งใครหลายคนกลับเผลอเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น และนั่นก็อาจจะเป็นหนึ่งในต้นตอของความเครียดที่สะสมขึ้น การรู้สึกอิจฉาหรือความรู้สึกว่าเรายังดีไม่พอ ก็เป็นพลังงานลบ ๆ ที่ก่อตัวขึ้นในทุก ๆ วันซึ่งสุดท้ายก็กลายเป็นความเครียดที่เรากำลังเผชิญอยู่ เพราะฉะนั้นการพักจากการเสพสื่อโซเชียลมีเดียจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและอาจจะเป็นก้าวแรกที่ต้องเริ่มทำด้วยซ้ำ

3. หันมาดูแลตัวเอง

การดูแลตัวเองในที่นี้นั้นรวมไปถึงทางร่างกายและจิตใจ ลองออกกำลังกายดูบ้าง อาจจะเริ่มจากการออกไปเดินเล่น ออกไปข้างนอก ไปเจอธรรมชาติ ออกจากห้องไปเจอท้องฟ้า เพื่อจะได้ตระหนักรู้ว่าโลกใบนี้มันกว้างใหญ่แค่ไหน และเราก็เป็นแค่จุดเล็ก ๆ และปัญหาของเราก็เช่นกัน ซึ่งสุดท้ายเราก็จะผ่านมันไปได้ หันมามาร์คหน้า ทาครีม ลองแต่งหน้าแต่งตัวใหม่ ๆ ลองทำอะไรใหม่ ๆ ลองวาดรูป อ่านหนังสือ หรือลองออกไปดูหนัง ไปดูงานศิลป์ ไปพิพิธภัณฑ์ พาตัวเองไปเจออะไรใหม่ ๆ บ้าง พักเบรคจากสมองและความคิดอันยุ่งเหยิงของตัวเอง เลือกกินอาหารดี ๆ ลองหันมากินผักดูบ้าง ให้ร่างกายเราได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ลองลดปริมาณน้ำอัดลม ของหวานและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และที่สำคัญเลย ลองงดดื่มกาแฟ จากงานวิจัยแล้วคนที่บริโภคคาเฟอีนเป็นประจำจะมีตารางการฝันที่ไม่เสถียรเหมือนกับคนที่ไม่บริโภค เพราะฉะนั้นการลดปริมาณคาเฟอีนจึงเป็นอีกเหตุผลที่จะทำให้คุณภาพการนอนเราดีขึ้น และการผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างเช่นกีฬาโยคะก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเช่นกัน

4. ลองออกไปพบเจอผู้คน

บางทีความเครียดอาจจะเกิดจากการที่เราคิดวนอยู่ในสมองของตัวเอง เพราะฉะนั้นการได้พบปะและได้พูดคุยกับคนอื่นถึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ลองออกจากโลกในหัวของตัวเองแล้วรับฟังคนอื่น บางทีการได้ท่องไปในโลกของคนอื่นก็อาจจะเป็นอีกวิธีที่ดีในการหยุดพักจากสิ่งที่ยุ่งเหยิงในโลกของตัวเอง หรือลองเล่าให้คนอื่นฟัง อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยได้ ว่ากันว่าเมื่อเราได้ลองเล่าปัญหาของเราให้คนอื่นฟังนั่นคือทางรักษาที่ดี เหมือนกับการที่เราได้ปลดปล่อยบางอย่างออกไป อย่าเก็บมันไว้


5. กำหนดออกมาเป็นข้อ ๆ

สำหรับใครที่รู้สึกว่าการเล่าให้คนอื่นฟังเป็นเรื่องที่ยาก เราขอแนะนำให้ลองเขียนมันออกมา เขียนใส่กระดาษหรือสมุดบันทึก เขียนมันออกมาหรือจะเขียนเป็นมายแมพก็ได้ว่าเรากำลังเครียดอะไรอยู่ เรากำลังกังวลอะไร เราอาจจะเครียดจากคนรอบตัวไหม ? คนในครอบครัว ? คนในที่ทำงาน ? หรือเป็นความกดดันจากคนอื่น ๆ ในสังคม ลิสต์ออกมาเป็นข้อ ๆ แล้วเราจะได้มองเห็นว่าเราควรจะแก้อะไรเป็นจุดเป็นจุดไป ถ้าหากว่ามันมีอยู่เยอะมาก เราแนะนำว่าควรทำไปทีละอย่าง เพราะว่าสมองมนุษย์มักไม่ชอบการที่ต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียว

6. เรียนรู้ที่จะสร้างและเสพพลังงานบวก

เคยได้ยินไหมเวลาที่เราทำดีกับคนอื่นก็จะทำให้เรารู้สึกดี ทำให้เรามีอารมณ์ที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นการเป็นพลังงานบวกให้กับตัวเองและคนอื่นถึงเป็นสิ่งที่สำคัญโดยเฉพาะในเวลาที่เรารู้สึกว่าเรากำลังเครียด อาจจะเป็นเรื่องที่ยากแต่ก็สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการเซพพลังงานดี ๆ ก่อน ดูคอนเทนท์ที่สร้างแรงบันดาลใจและพลังงานที่ดี ฟังเพลงที่ทำให้รู้สึกสบาย ๆ หรือการที่อยู่กับคนที่ทำให้เรารู้สึกได้รับพลังงานบวกก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเช่นกัน

7. อย่ากดดันตัวเอง

หลายครั้งความเครียดของวัยรุ่นในทุกวันนี้ก็จะมาจากการกดดันตัวเอง การคาดหวังในตัวเอง การพยายามเพื่อบางสิ่ง จนเราเผลอกดดันตัวเองมากจนเกินไป แม้ว่าการมีความหวังจะเป็นเรื่องที่ดีแต่เราต่างก็ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะควรหยุดพัก เพราะว่าการวิ่งหรือไขว่คว้าเพื่อบางสิ่งโดยที่ไม่รู้จักหยุดก็อาจจะทำให้เราเหนื่อยล้ามากจนเกินไป และส่งผลกระทบมากมายต่อทั้งร่างกายและจิตใจ เราต้องเรียนรู้ที่จะไม่กดดันในตัวเอง เรียนรู้ที่จะหยุดคิด เรียนรู้ว่าถ้าหากคิดมากไปกว่านี้ก็จะทำให้เราตกไปอยู่ในวังวนของภาวะเครียดได้ แล้วก็ตระหนักว่าความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตเองก็เป็นความสำเร็จเช่นกัน อย่างที่เขาว่ากันว่าดอกไม้บานในฤดูของมันเอง เพราะฉะนั้นเร่งรีบไปก็ไม่ได้อะไร จงอย่าเครียดไปเลยนะ

คุยกันก่อนจาก

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน มีใครที่ค้นพบว่าตัวเองหรือคนรอบตัวตกอยู่ในภาวะเครียดบ้าง แต่ก็อย่าตื่นตระหนกไปเลยเพราะในบางครั้งความเครียดก็เป็นเหมือน challenge ในชีวิตที่เข้ามาเพื่อที่จะทำให้เราได้ก้าวข้ามอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตามเราเองก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนและก็อย่าลืมนำทริคดี ๆ ในการจัดการกับความเครียดไปปรับใช้กันดูนะคะ หวังว่าทุกคนจะชอบบทความนี้น้าา หากใครที่พบว่าตัวเองไม่สามารถที่จะจัดการกับความเครียดได้ เราแนะนำให้ลองปรึกษาจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาดู มันไม่ใช่เรื่องที่น่าอายที่จะไปพบจิตแพทย์เพราะทุกวันนี้ก็แทบจะกลายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว หวังว่าทุกคนจะชอบ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปนะคะ

บทความแนะนำ ที่อยากส่งต่อให้ซิส

กิจกรรม SistaCafe