อยากทำงานที่รักให้มีความสุข แต่ก็ดันโดน Toxic ทำยังไงดี!? วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปดูกันว่า เรื่อง Toxic ที่มักเกิดในที่ทำงานมีอะไรบ้าง แล้วถ้าเจอเรื่องแบบนี้ เราควรรับมือกับมันยังไง วันนี้จะมาแนะนำให้ได้รู้กันค่ะ!

เลือกอ่านตามหัวข้อ
Toxic People คืออะไร
รวม 5 ประเภท Toxic People ในที่ทำงานและวิธีรับมือ
1. ซุบซิบเก่ง ขยันนินทาได้ทั้งวัน!
2. ผู้นำไม่มี Leadership มีแต่ Leader-sh***
3. ศูนย์กลางของทุก ๆ คนคือ ฉันคนนี้เอง!
4. บูลลี่เก่ง นัมเบอร์วันไปเลย!
5. อิจฉา อิจฉา อิจฉา !!
สรุปวิธีการรับมือกับ Toxic People
เรามักจะได้ยินคำว่า Toxic Toxic กันบ่อย ๆ ซึ่งหลาย ๆ คนก็อาจจะยังไม่รู้ว่า Toxic ที่ว่านี้ มันคืออะไรกันแน่ ซึ่งถ้าพูดกันง่าย ๆ Toxic หมายถึง เป็นอันตราย หรือ เป็นพิษ ซึ่งปัจจุบัน มักมีการเอาคำ ๆ นี้มาใช้เพื่อธิบายถึงความสัมพันธ์แบบต่าง ๆ ที่เป็นพิษและเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้คนที่อยู่ด้วยรู้สึกไม่มีความสุขทั้งกายและใจ ไม่ว่าจะความสัมพันธ์ใน ครอบครัว สถานที่ทำงาน หรือ การเมือง ก็ตาม
ซึ่งวันนี้เรามีอีกหนึ่งปัญหา Toxic ที่เชื่อว่า คนทำงานต้องเคยเจอมาพูดคุยกันค่ะกับ รวม 5 ประเภท Toxic People ในที่ทำงาน จะมีเรื่องอะไรบ้างนะ ที่คนในที่ทำงานมักจะหยิบมาพูดกัน จนทำให้เกิดปัญหา หรือข่าวลือ พร้อมบอกวิธีรับมือกับประเด็นนั้น ๆ ด้วย เพื่อน ๆ จะได้สามารถหยิบไปปรับใช้กันได้ จะมีปัญหาอะไรบ้างที่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในที่ทำงาน เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
Toxic People คืออะไร
Toxic People หรือคนเป็นพิษ คำนี้เป็นคำที่ใช้เรียกคนที่มีนิสัยยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ชอบควบคุมบงการคนอื่น เจ้าอารมณ์ และชอบใช้คำพูดหรือการกระทำ ทำร้ายคนรอบตัวให้รู้สึกแย่ เครียด และเจ็บปวด ซึ่งการได้อยู่ใกล้ ๆ กับคนประเภทนี้ มีแต่จะทำให้เราเกิดความรู้สึกเจ็บปวดทั้งกายและใจ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว Toxic People ไม่ถูกจัดว่าเป็นโรคทางจิตเวชโดยตรง แต่น่าจะเป็นด้านมืดของคนคนนั้นมากกว่า จนทำให้เกิดเกิดนิสัยเป็นพิษต่อคนอื่น และแน่นอนว่า เราไม่ควรมองเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ เพราะมันไม่ปกติ บางครั้งการที่เราทำเป็นไม่สนใจ อาจจะยิ่งทำให้พวก Toxic People ได้ใจ และอาจจะยิ่งแสดงพฤติกรรมเหล่านี้มากขึ้น ฉะนั้นถ้าเราจะหาวิธีบางอย่างมาเพื่อจัดการหรือปรามพวกเขาบ้างก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดเลยนะคะ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว Toxic People ไม่ถูกจัดว่าเป็นโรคทางจิตเวชโดยตรง แต่น่าจะเป็นด้านมืดของคนคนนั้นมากกว่า จนทำให้เกิดเกิดนิสัยเป็นพิษต่อคนอื่น และแน่นอนว่า เราไม่ควรมองเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ เพราะมันไม่ปกติ บางครั้งการที่เราทำเป็นไม่สนใจ อาจจะยิ่งทำให้พวก Toxic People ได้ใจ และอาจจะยิ่งแสดงพฤติกรรมเหล่านี้มากขึ้น ฉะนั้นถ้าเราจะหาวิธีบางอย่างมาเพื่อจัดการหรือปรามพวกเขาบ้างก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดเลยนะคะ
รวม 5 ประเภท Toxic People ในที่ทำงานและวิธีรับมือ
1. ซุบซิบเก่ง ขยันนินทาได้ทั้งวัน!
ขอโทษนะคะ นี่คือนักนินทามือวางอันดับ 1 รึเปล่าเนี่ย เดี๋ยวก็ซุบซิบ เดี๋ยวก็นินทา โอ้โห! นี่นั่งเสียวงสันหลังแล้วนะ Toxic People ประเภทที่ 1 ที่เราว่าหลาย ๆ คนน่าจะเจอกันบ่อย ๆ เลยคือ คนขี้นินทา ซึ่งคนประเภทนี้ เป็นพวกชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่นอยู่เสมอ แม้ว่าคนที่ถูกนินทาจะไม่ได้ทำเรื่องอะไรไม่ดี แต่คนแบบนี้ก็จะหาจุดบอด จุดด้อย ของคนเหล่านั้นมาพูด มาซุบซิบกันสนุกปาก คนแบบนี้มักจะรู้สึกสนุกและมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น แรก ๆ ก็อาจจะไม่ได้อะไร แต่ถ้าเรายิ่งปล่อยไป มันเหมือนพิษร้ายที่สั่งสมในร่างกายอะ เรื่องที่เขานินทามันจะยิ่งเพิ่มขึ้น ๆ และแรงขึ้น รู้ตัวอีกทีก็ทุกข์ใจจนแทบไม่เหลือความสุขในทำงานซะแล้ว
วิธีรับมือ : แม้เรื่องที่เขานินทาจะใช่เรื่องของเราหรือไม่ เราควรพูดออกไปตรง ๆ ว่า ไม่ควรทำแบบนั้น ให้เขารับรู้ว่าเราไม่สบายใจ และมันเป็นเรื่องไม่ดี สิ่งสำคัญคือ เราไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปผสมโรงด้วย ถ้ารู้สึกว่าเรื่องที่พูด เริ่มไม่ใช่เรื่องงานแล้ว ควรรีบปลีกตัวหรือเลี่ยงออกมา เพราะถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนนินทา เป็นแค่คนฟัง แต่การที่เราแค่ฟังนี่แหละ เท่ากับว่าเราสนับสนุนให้เขาทำแบบนั้น ฉะนั้นไม่เข้าไปยุ่งดีกว่า และคอยบอก คอยเตือนจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
วิธีรับมือ : แม้เรื่องที่เขานินทาจะใช่เรื่องของเราหรือไม่ เราควรพูดออกไปตรง ๆ ว่า ไม่ควรทำแบบนั้น ให้เขารับรู้ว่าเราไม่สบายใจ และมันเป็นเรื่องไม่ดี สิ่งสำคัญคือ เราไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปผสมโรงด้วย ถ้ารู้สึกว่าเรื่องที่พูด เริ่มไม่ใช่เรื่องงานแล้ว ควรรีบปลีกตัวหรือเลี่ยงออกมา เพราะถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนนินทา เป็นแค่คนฟัง แต่การที่เราแค่ฟังนี่แหละ เท่ากับว่าเราสนับสนุนให้เขาทำแบบนั้น ฉะนั้นไม่เข้าไปยุ่งดีกว่า และคอยบอก คอยเตือนจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
2. ผู้นำไม่มี Leadership มีแต่ Leader-sh***
ว่ากันว่า ถ้าเจอเพื่อนร่วมงาน เจอผู้นำที่ดี ยิ่งกว่าถูกหวย! และเราเชื่อว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนหรอก ที่จะมีหัวหน้างานที่ดี Toxic People ประเภทที่ 2 ผู้นำเป็นพิษ ทำจิตปั่นป่วน เจอแบบนี้ก็คงไม่ไหวเหมือนกันนะ กับหัวหน้าที่ไม่ค่อยจะอธิบายอะไรสักเท่าไหร่ เน้นติ เน้นสั่งงานเป็นหลัก ไม่ค่อยชอบฟังเหตุผล อารมณ์มักจะมาก่อนเหตุผลเสมอ แถมอยู่ต่อหน้าเหล่าบรรดาผู้บริหารยังชอบทำพฤติกรรมเอาใจที่เกินพอดี ต่อหน้าลูกน้องอีกอย่าง ต่อหน้าผู้บริหารก็เป็นอีกอย่าง เฮ้อ! เพลียจิตมาก แรก ๆ มองแล้ว อาจจะรู้สึกไม่สบอารมณ์ แต่ก็ไม่อะไร แต่พอนานวันเข้า ขอบอกเลยว่า คนแบบนี้จะเป็นพิษกับเราทั้งทางกายและใจแบบร้ายแรงมาก ๆ
วิธีรับมือ : จริง ๆ การไปต่อปากต่อคำกับหัวหน้า ไม่ใช่ทางออกที่ดีเท่าไหร่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว จะมีแต่เราเท่านั้นที่เจ็บตัว และอาจจะตกงานได้ แน่นอนว่า คนไม่พอใจหัวหน้าประเภทนี้มีเยอะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกล้าออกมาเรียกร้องหรือต่อปากต่อคำ เพราะฉะนั้นสร้างระยะห่างไว้น่าจะดีที่สุด คุยแต่เรื่องงาน วางตัวเราให้ดีในฐานะที่เราเป็นผู้น้อย แต่ก็ไม่ต้องถึงขั้นเอาอกเอาใจเวอร์วังขนาดนั้น ทำหน้าที่ของเราให้ดี แสดงให้เขาเห็นว่าเรามีดีด้วยผลงานที่ดีของเรา แต่ถ้าหากหัวหน้าสร้างเรื่องที่รุนแรงขึ้น เช่น การล่วงละเมิด การข่มขู่คุกคาม แนะนำให้หาทางเก็บหลักฐาน แล้วดำเนินการทางกฎหมาย อย่าปล่อยเลยตามเลยเด็ดขาด
3. ศูนย์กลางของทุก ๆ คนคือ ฉันคนนี้เอง!
Toxic People ประเภทที่ 3 คนที่ชอบตั้งตัวเป็นจุดศูนย์กลาง หรือจอมบงการอันดับหนึ่ง! คนประเภทนี้มักไม่สนใจคนรอบข้างหรือปัญหาที่เกิดกับคนอื่น เพราะเรื่องของฉันต้องมาก่อน ส่วนเรื่องของเธอไว้ทีหลังเถอะนะ แต่เวลาตัวเขามีปัญหานะ จะเป็นเรื่องใหญ่ คือถ้าเกณฑ์คนทั้งทีมมาช่วยได้ คงทำไปแล้ว สุดจริง ๆ บอกเลย! ขอบอกเลยว่า การที่ได้อยู่ร่วมโลกกับคนประเภทนี้แล้ว ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออกสุด ๆ นอกจากจะเป็นพวกยึดติดกับเรื่องของตัวเองอย่างเดียวแล้ว ยังเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองค่อนข้างสูง แถมยังไม่ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นอีกต่างหาก ถนัดเรื่องชี้นิ้วสั่ง ชอบบงการคนนั้นคนนี้ โอ้โห! คนแบบนี้ก็มีอยู่ด้วย
วิธีรับมือ : จริง ๆ กับคนประเภทนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และเว้นระยะห่างสักหน่อย เอาจริง ๆ ถ้าเรารู้ตัวว่า งานเราก็เยอะ แถมยังไม่เสร็จสักงาน จะบอกปฎิเสธก็ได้นะ คือการบอกปัดโดยการใช้เหตุผลดี ๆ สักอย่าง เพื่อหลีกเลี่ยง ก็ไม่เลวเหมือนกัน บางอย่างถ้าเราไม่สะดวกใจ หรือไม่สบายใจที่จะทำให้ บอกปฎิเสธได้เลยค่ะ เพราะเรามีเหตุผลพอที่จะทำแบบนั้น มันไม่ได้ทำให้เราดูไร้น้ำใจ หรือดูแย่ขนาดนั้นหรอก การจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือใคร มันเป็นเรื่องดีนะ แต่เราก็ต้องดูด้วยว่า ท้ายที่สุดแล้ว การที่เราช่วยคนคนนั้น แล้วเราล่ะ ถ้าเราไม่ได้ติดอะไร ก็ช่วยได้ แต่ถ้าเราต้องทิ้งหน้าที่ตัวเอง เพื่อช่วยคนแบบนี้ มันจะยิ่งเป็นการส้รางปัญหาให้ตัวเองนะ งานเขาเสร็จ แต่งานเราไม่เสร็จ คราวนี้ภาระใหญ่เลยนะ
วิธีรับมือ : จริง ๆ กับคนประเภทนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และเว้นระยะห่างสักหน่อย เอาจริง ๆ ถ้าเรารู้ตัวว่า งานเราก็เยอะ แถมยังไม่เสร็จสักงาน จะบอกปฎิเสธก็ได้นะ คือการบอกปัดโดยการใช้เหตุผลดี ๆ สักอย่าง เพื่อหลีกเลี่ยง ก็ไม่เลวเหมือนกัน บางอย่างถ้าเราไม่สะดวกใจ หรือไม่สบายใจที่จะทำให้ บอกปฎิเสธได้เลยค่ะ เพราะเรามีเหตุผลพอที่จะทำแบบนั้น มันไม่ได้ทำให้เราดูไร้น้ำใจ หรือดูแย่ขนาดนั้นหรอก การจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือใคร มันเป็นเรื่องดีนะ แต่เราก็ต้องดูด้วยว่า ท้ายที่สุดแล้ว การที่เราช่วยคนคนนั้น แล้วเราล่ะ ถ้าเราไม่ได้ติดอะไร ก็ช่วยได้ แต่ถ้าเราต้องทิ้งหน้าที่ตัวเอง เพื่อช่วยคนแบบนี้ มันจะยิ่งเป็นการส้รางปัญหาให้ตัวเองนะ งานเขาเสร็จ แต่งานเราไม่เสร็จ คราวนี้ภาระใหญ่เลยนะ
4. บูลลี่เก่ง นัมเบอร์วันไปเลย!
อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ทำงานบ่อยมาก และดูเหมือนจะเยอะขึ้นทุกวันคือ เรื่องของการบูลลี่ Toxic People ประเภทที่ 4 เรื่องบูลลี่คือเรื่องปกติ เอาจริง ๆ เลยนะ ถ้าเราต่อปากต่อคำ หรือบูลลี่คนคนนั้นกลับ เขาก็ไม่พอใจหรอก แล้วทำไมเราจะต้องยอมให้คนแบบนี้ มาพูดจาบูลลี่เราแบบสนุกปากด้วย จริงมั้ย สังคมบูลลี่ คือพวกที่มองว่าการบูลลี่คนอื่น คือเรื่องปกติ ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องปกติ! พอไม่มีใครพูดหรือทักท้วงอะไร คนประเภทนี้ ก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ สนุก ๆ ขำ ๆ แต่คนที่โดนเขาไม่ได้ขำด้วยนะจ๊ะ พูดรวม ๆ เลย คนประเภทนี้ เป็นพวกชอบเหยียบย้ำคนอื่น แล้วมองว่านี่คือ "ความหวังดี" ใช้คำพูดรุนแรง ไม่มีเหตุผล แรก ๆ ก็ว่าเรื่องงาน แต่ไป ๆ มา ๆ ดันมาว่าเรื่องรูปร่างหน้าตาซะอย่างนั้น ติเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเฉยเลย แทนที่จะอธิบายเพื่อให้เรานำไปปรับปรุง แต่กลับปฏิบัติกับพนักงานแบบไม่ให้เกียรติกัน ไม่ยอมรับความแตกต่างหลากหลาย ขอบอกเลยว่า อยู่ด้วยแล้ว เสียสุขภาพจิตสุด ๆ
วิธีรับมือ : เอาจริง ๆ ถ้ามันไม่สบายใจแบบสุด ๆ พูดแล้ว บอกแล้ว ร้องไห้ก็แล้ว มันก็ยังทำอีก เปลี่ยนที่ทำงานเลยค่ะ การต้องติดอยู่ในที่ที่ทำให้เราอมทุกข์ ไม่สบายใจ และเจ็บปวด มีแต่จะทำให้เราทุกข์กายทุกข์ใจไม่จบไม่สิ้น แต่ถ้ายังไม่อยากถึงขั้นลาออก อีกวิธีนึงคือ วางตัวเองให้ดี ๆ ชัดเจนไปเลยว่า ฉันไม่ชอบที่เธอพูดหรือทำแบบนี้ หรือถ้าเพื่อน ๆ สนิทกับหัวหน้า หรือผู้ใหญ่สักคนที่พนักงานหลาย ๆ คนเคารพนับถือ ลองไปปรึกษาดูก็ได้ เพราะการได้ระบายออก ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราไม่ควรให้ค่ากับคนแบบนี้ค่ะ ถ้าเราพูดชัดแล้วว่าไม่เล่น ไม่ชอบ แล้วเขายังทำอยู่ แถมยังหนักข้อขึ้นทุกวัน ดำเนินการอะไรได้ ทำเลยนะคะ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองด้วย
วิธีรับมือ : เอาจริง ๆ ถ้ามันไม่สบายใจแบบสุด ๆ พูดแล้ว บอกแล้ว ร้องไห้ก็แล้ว มันก็ยังทำอีก เปลี่ยนที่ทำงานเลยค่ะ การต้องติดอยู่ในที่ที่ทำให้เราอมทุกข์ ไม่สบายใจ และเจ็บปวด มีแต่จะทำให้เราทุกข์กายทุกข์ใจไม่จบไม่สิ้น แต่ถ้ายังไม่อยากถึงขั้นลาออก อีกวิธีนึงคือ วางตัวเองให้ดี ๆ ชัดเจนไปเลยว่า ฉันไม่ชอบที่เธอพูดหรือทำแบบนี้ หรือถ้าเพื่อน ๆ สนิทกับหัวหน้า หรือผู้ใหญ่สักคนที่พนักงานหลาย ๆ คนเคารพนับถือ ลองไปปรึกษาดูก็ได้ เพราะการได้ระบายออก ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราไม่ควรให้ค่ากับคนแบบนี้ค่ะ ถ้าเราพูดชัดแล้วว่าไม่เล่น ไม่ชอบ แล้วเขายังทำอยู่ แถมยังหนักข้อขึ้นทุกวัน ดำเนินการอะไรได้ ทำเลยนะคะ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองด้วย
5. อิจฉา อิจฉา อิจฉา !!
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดอื่น ๆ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe