Articles health
สุขภาพ

เจอกันทุกเดือนเลยนะ ! ข้อควรรู้เกี่ยวกับ " อาการปวดท้องเมนส์ " ปวดแบบไหนควรไปหาหมอ ?

อาการปวดท้องเมนส์ที่ต้องเป็นทุกเดือน บางอาจจะกำลังสงสัย ปวดแบบไหนควรไปหาหมอ? ลองตามไปดูข้อควรรู้เกี่ยวกับ " อาการปวดท้องเมนส์ " ในบทความนี้กันเลย


» » - - - - » »
Sistacafe button sharefb
Down

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • [แสดง]
  • [ซ่อน]
    • ข้อควรรู้เกี่ยวกับ " อาการปวดท้องเมนส์" ปวดแบบไหนควรไปหาหมอ

    • ➤ สาเหตุอาการปวดประจำเดือน

    • ➤ ประเภทของอาการปวดประจำเดือน

    • แล้วอาการปวดท้องเมนส์แบบไหน ควรไปหาหมอ?

    • ➤ ปวดประจำเดือนเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง?

    • ➤ วิธีบรรเทาและป้องกันอาการปวดประจำเดือน

       
    โอ้ยย เจอกันทุกเดือนเลยนะ!!

    สำหรับคนที่มีประจำเดือนก็คงจะพอเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เจอกันทุกเดือนคืออะไร แน่นอนว่าต้องเป็นน้องเมนส์ที่รัก ที่มักจะมาพร้อมกับอาการเจ็บปวดนิด ๆ ให้ไม่สบายตัว ส่วนตัวเราก็อยากรู้เหมือนกัน ทำไม๊ทำไมถึงต้องปวดมันทุกเดือน บทความนี้เราเลยตามไปเก็บข้อมูล

    ข้อควรรู้เกี่ยวกับอาการปวดท้องเมนส์มากฝากเพื่อน ๆ กันด้วย ถ้าปวดท้องแป๊บ ๆ แล้วหายคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดใครปวดมาก ๆ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอาจจะต้องตามเช็กอาการ และปรึกษาคุณหมอดูอีกที แต่ก่อนอื่นเราตามไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการปวดท้องเมนส์กันก่อนดีกว่า จะได้ดูแลรักษาตัวเองได้ถูกจุด

    ข้อควรรู้เกี่ยวกับ " อาการปวดท้องเมนส์" ปวดแบบไหนควรไปหาหมอ

     

     ✹


    ➤ สาเหตุอาการปวดประจำเดือน

      
    ในช่วงที่เมนส์มาบางครั้งมักจะมากับอาการปวดท้องแบบหน่วง ๆ หรือปวดเกร็ง บางคนเป็นไม่มาก ส่วนบางคนเป็นหนักและมีอาการอื่น ๆ อย่างปวดหลัง ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน เหงื่อออก ท้องเสีย หรือท้องอืดร่วมด้วย อาการปวดประจำเดือนเหล่านี้เกิดขึ้นได้ยังไง? มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย

    น้องเมนส์คือเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมากลายเป็นประจำเดือน อาการปวดท้องเมนส์เกิดขึ้นจากตรงนี้ด้วยเหมือนกัน ในช่วงที่เป็นเมนส์สารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน อย่าง " โพรสตาแกลนดิน " ( Prostaglandin ) จะก่อตัวขึ้นที่เยื่อบุโพรงมดลูก และเจ้าสารตัวนี้จะทำให้กล้ามเนื้อบีบตัวและหดเกร็ง บางครั้งอาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสียไปด้วย และความรุนแรงของอาการปวดท้องเมนส์ จะขึ้นอยู่กับว่าร่างกายหลั่งสารตัวนี้มากน้อยขนาดไหนนั่นเอง

      

    ➤ ประเภทของอาการปวดประจำเดือน

     
    ในทางการแพทย์แบ่งอาการปวดประจำเดือนเป็น 2 ประเภท คือปวดประจำเดือนประเภทปฐมภูมิ ( Primary Dysmenorrhea ) ที่พบบ่อย และอาการปวดประจำเดือนประเภททุติยภูมิ ( Secondary Dysmenorrhea )

    ➀ อาการปวดประจำเดือนประเภทปฐมภูมิ ( Primary Dysmenorrhea ) เป็นอาการปวดท้องเมนส์ที่พบบ่อย มีสาเหตุมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกผลิตสารโพรสตาแกลนมากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อบีบรดและหดตัวอย่างแรง

    ➁ อาการปวดประจำเดือนประเภททุติยภูมิ ( Secondary Dysmenorrhea ) อาการปวดท้องเทนส์ประเภทนี้จะมีสาเหตุมาจากภาวะความผิดปกติของมดลูกและอวัยวะสืบพันธุ์อื่น ๆ สามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุอย่างเช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุมดลูกเจริญภายในกล้ามเนื้อมดลูก เนื้องอกมดลูก ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ ภาวะมดลูกตีบ

      

    แล้วอาการปวดท้องเมนส์แบบไหน ควรไปหาหมอ?


    ทำความเข้าใจอาการปวดท้องเมนส์มาแล้ว เราพอรู้มาแล้วว่าสาเหตุของอาการปวดท้องเมนส์เกิดจากอะไร และเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงที่เป็นมีประจำเดือน แต่ถ้าเกิดมีอาการปวดมากเกินจนรบกวนชีวิตประจำวัน หรือมีอาการเหล่านี้ ควรไปหาหมอเพื่อตรวจเช็กสุขภาพอีกทีนะคะ


    อาการปวดท้องเมนส์ที่ควรไปหาหมอ

    เมื่อทานยาแล้วแต่ยังไม่หายปวด
    เมื่อมีอาการปวดท้องเมสน์มากขึ้นทุก ๆ เดือน
    เมื่อมีอายุมากกว่า 25 ปี มีอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรก
    เมื่อปวดประจำเดือนพร้อมกับมีไข้สูง อาเจียน เป็นลม
    เมื่อมีอาการท้องเสียท้องร่วงอย่างรุนแรง
    เมื่อเลือดประจำเดือนไหลออกมามากกว่าปกติ ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมง
    เมื่อรู้สึกปวดท้องน้อย ถึงแม้จะไม่มีประจำเดือนมา
    เมื่อมีอาการตกขาวมีกลิ่น มีอาการคันบริเวณปากช่องคลอด
    เมื่อเลือดประจำเดือนมีสีแปลกไปจากปกติ

      

    ➤ ปวดประจำเดือนเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง?

     
    สำหรับอาการปวดประจำเดือนประเภททุติยภูมิ หรือปวดท้องเมนส์หนักมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาการปวดประจำเดือนหนัก ๆ อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคเหล่าเหล่านี้ อย่างเช่น

    เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ( Endometriosis ) ภาวะที่มีเยื่อบุโพรงมดลูกเกิดขึ้นที่อวัยวะอื่นหรือบริเวณอื่นที่ไม่ใช่ภายในโพรงมดลูก

    เนื้องอกมดลูก โดยเฉพาะเนื้องอกมดลูกชนิดใต้เยื่อบุโพรงมดลูก ( Submucous myoma ) เนื้องอกชนิดไม่ร้ายและพบได้บ่อย จะทำให้มดลูกบีบตัวมากขึ้น เพื่อขจัดสิ่งที่ขัดขวางการหดรัดตัวภายในโพรงมดลูก

    การมีพังผืดในช่องท้อง พังผืดที่อาจจะเกิดจากผลของการผ่าตัดคลอด หรือการผ่าตัดเข้าช่องท้องมาก่อน หรือมีการอักเสบในอุ้งเชิงกรานและช่องท้อง ก่อให้เกิดพังผืดที่มีการดึงรั้งมดลูก

    ปากมดลูกตีบ ( Cervical stenosis ) ทำให้เลือดประจำเดือนไหลออกจากโพรงมดลูกไม่สะดวก จนทำให้ปวดท้องเมนส์มากขึ้นได้

    ความผิดปกติของโครงสร้างทางกายภาพในอวัยวะสืบพันธุ์ ( Obstructive malformation of the genital tract ) จากโครงสร้างที่ผิดปกติอาจจะทำให้ประจำเดือนไหลออกมาไม่ได้ ทำให้ปวดประจำเดือนมากขึ้น

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    Content quotation bg
    Disclaimer : หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อทีมงานมาที่ [email protected]
    Content quotation bg


    ดาวน์โหลดแอพ
    ดาวน์โหลดแอพดาวน์โหลดแอพ
    Icon ranking

    อันดับบทความประจำวัน

    (หมวดสุขภาพ)

    Variety By SistaCafe

    Icon feature 100x100

    Feature

    กิจกรรม SistaCafe