มาแรงเป็นกระแสสุดๆ กับ ' 7 ไฟเบอร์ในปี 2023 ' สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

จู๊ดๆ ทุกวันแค่นั้นก็เพียงพอ ٩(˘◡˘)۶

การขับถ่ายทุกวันของเช้าวันใหม่ถือว่าเป็นอะไรที่แฮปปี้ทั้งวันเลยที่เดียว ทุกคนคงพอทราบกันมาใช่ไหมว่านอกจากการขับถ่ายที่ตรงเวลามันดี แล้วยังส่งผลดีต่อร่างกายจากภายในสู่ภายนอกด้วย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องผิวบอกเลยจ้าจุดนี้ และคือกิมมิคของการขับถ่ายด้วยเลย เพราะเมื่อเราขับถ่ายก็ถือว่าเราขับของเสียที่ตกค้างอยู่หรือจำพวกเชื้อโรคในร่างกายออกมา ทำให้ร่างกายไม่ต้องดูดซึมน้ำและอึกลับเข้าไปใช้ใหม่อีกครั้ง แบบนั้นก็ลดการเกิดสิว ปัญหาผิวหมองคล้ำด้วยนะคะ ถึงมีประโยคที่ว่า " สุขภาพดีสร้างได้ในห้องน้ำ " กันเลยทีเดียว

แต่นั้นและค่ะปัญหาโลกแตก เพราะการขับถ่ายเป็นประจำก็ต้องเกิดจากการที่เรารับไฟเบอร์ที่เพียงพอต่อวัน แต่เรามาลองนึกถึงในแต่ละวันเราทานอะไรบ้าง ดูแล้วแค่ผักและผลไม้ไม่พอแน่ๆ ทำให้เราต้องรีบหาตัวเสริมด่วนสุด แบบนั้นก็คงต้องพึ่งเจ้าอาหารเสริมไฟเบอร์แล้วจ้าาา มาค่ะมา ดูกันกับ ' 7 ไฟเบอร์มาแรงของปี 2023 ' ที่จะมาช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นกันดีกว่าค่ะซิส (ɔ◔‿◔)ɔ ♥

ในปกติของร่างกายคนเราต้องได้รับใยอาหารหรือไฟเบอร์ที่เพียงพอต่อวันเพื่อประสิทธิภาพในการขับถ่ายในทุกเช้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดย
✧ ผู้ใหญ่ควรกินใยอาหารหรือไฟเบอร์อยู่ที่ 25 กรัมต่อวัน จากผักและผลไม้ 400 กรัม ✧
✧ เด็กควรกินใยอาหารหรือไฟเบอร์ตามอายุปีแล้วบวก 5 กรัม เช่น เด็กอายุ 10 ปี ควรกินอยู่ที่ 15 กรัม นั่นเอง ✧
และการดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรหรือตามน้ำหนักของตนเองเพื่อลดปัญหาอาการท้องผูก ให้เพียงพอต่อวันด้วยจ้าา

แต่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าชีวิตประจำวันของเราบางคนอาจจะกินไฟเบอร์จากแหล่งผักและผลไม้ไม่เพียงพอต่อวัน เพราะด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ดังนั้นจึงมีอาหารเสริมไฟเบอร์เพื่อมาช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และการได้รับไฟเบอร์ในแต่ละวัน แต่คำถามคือ " อันตรายไหมถ้ากินทุกวัน? " และ " ถ้าหยุดทานจะสามารถขับถ่ายได้ตามปกติไหม? "

สิ่งแรกที่ควรคำนึงเลยจ้าคือ ไฟเบอร์ที่เราเลือกมากินนั้น มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
✧ ประเภทแรก มีฤทธิ์กระตุ้นลำไส้ เช่น ยาถ่าย มะขามแขก เป็นต้น ✧

✧ ประเภทที่สอง เติมสิ่งที่ขาดไป เช่น จุลินทรีย์โพรไบโอติก และไฟเบอร์ ✧

✧ ประเภทแรก ที่มีฤทธิ์กระตุ้นลำไส้นั้น จะสามารถเห็นผลหลังทานได้ทันที เพราะช่วยให้ลำไส้บีบตัวและกระตุ้นการขับถ่ายออกมา แต่ด้วยฤทธิ์ที่เข้าสู่โดยตรงที่ลำไส้และหากทานเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดการดื้อยาได้ เนื่องจากลำไส้ไม่จำเป็นต้องบีบตัวเพราะสุดท้ายก็จะมียาระบายมากระตุ้น เสร็จแล้วเมื่อเราไม่กินยาถ่ายลำไส้ก็หยุดบีบตัวเอง หากปล่อยไว้เป็นเวลานานจะทำให้ดื้อยาเรื่อยๆ และส่งผลให้การกินยาระบายไม่ได้ผลในที่สุด

✧ ประเภทที่สอง เติมสิ่งที่ขาด เช่น จุลินทรีย์โพรไบโอติกหรือไฟเบอร์ สามารถช่วยปรับสมดุลลำไส้ เพราะโพรไบโอติกนั้นเป็นจุลินทรีย์ดีต่อลำไส้ ช่วยทำให้ย่อยอาหารง่ายขึ้น เพิ่มการทำงานการบีบตัวของลำไส้ และยังมีไฟเบอร์ที่เป็นตัวกระตุ้นในการขับถ่าย และการทานเช่นนี้ในระยะยาวไม่ได้มีผลให้ดื้อยาได้ ดังนั้นจึงสามารถ กินอาหารเสริมไฟเบอร์ ได้ทุกวัน

สรุปแล้ว หากเราเลือกทานไฟเบอร์ประเภทที่สองที่มีส่วนผสมหรือสารสกัดที่ปลอดภัย หรือประเภทโพรไบโอติกจุลินทรีย์ดีนั้น ก็สามารถทานได้ทุกวันและหากหยุดทานก็ยังสามารถขับถ่ายได้ปกติ เพราะเป็นการทำให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์ที่เพียงพอต่อวันมากขึ้น แต่หากเราหยุดทานแล้วใน 1 วัน เรากินไฟเบอร์ไม่เพียงพอก็จะกลับมาขับถ่ายลำบากเหมือนเดิมนั่นเองจ้าา