Original Content

#ซิสรักษ์โลก EP.1 กระเทาะ "ปัญหาโลกร้อน Global Warming" โลกร้อนแล้วยังไง ทำไมต้องแคร์

โลกร้อนแล้วยังไง ทำไมต้องแคร์ ? ขมวดให้แล้วจบ โลกร้อนคืออะไร แล้วทำไมมนุษย์ถึงต้องรีบโอบกอดโลกใบนี้ไว้

Home » Original Content » sistacafeoriginalcontent - SistaCafeWomenTalk » #ซิสรักษ์โลก EP.1 กระเทาะ "ปัญหาโลกร้อน Global Warming" โลกร้อนแล้วยังไง ทำไมต้องแคร์

เลือกอ่านตามหัวข้อ

[แสดง]

[ซ่อน]

โลกร้อนแล้วยังไง ? ทำไมต้องแคร์
มนุษผู้ทำลายล้าง !
อ้างอิงข้อมูลจาก

โลกร้อนแล้วยังไง ? ทำไมต้องแคร์

หากนิยามคำว่า ภาวะโลกร้อน "Global Warming" ตามคณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์พลังงานแห่งราชบัณฑิตยสถาน ภาวะโลกร้อนคือ "ภาวะที่โลกร้อนขึ้นเนื่องจากแก๊สเรือนกระจก (Greenhouse Gases) ได้แก่ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นแก๊สเรือนกระจกที่สำคัญที่สุด แก๊สมีเทน และแก๊สไนโตรเจนออกไซด์ แก๊สเหล่านี้อยู่ในชั้นบรรยากาศโลก โดยที่สมบัติของแก๊สเหล่านี้ ไม่ยอมให้รังสีความร้อนจากพื้นผิวโลกส่งผ่านออกสู่อวกาศไปได้โดยง่าย จึงทำให้อุณหภูมิใกล้ ๆ ผิวโลกสูงขึ้น ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect)"

โดยปกติแก๊สเรือนกระจกในปรากฎการณ์เรือนกระจกมีคุณสมบัติดูดคลื่นรังสีความร้อนไว้ในเวลากลางวัน แล้วค่อย ๆ แผ่รังสีความร้อนออกมา ในเวลากลางคืนทำให้อุณหภูมิในบรรยากาศโลกไม่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน หากไม่มีแก๊สเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ ก็จะทำให้อุณหภูมิในตอนกลางวันนั้นร้อนจัด และในตอนกลางคืนนั้นหนาวจัด แต่ถ้าปริมาณแก๊สเรือนกระจกมีมากเกินไปจนเสียสมดุล โลกของเราก็จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของ ภาวะโลกร้อน หรือ "Global Warming" นั่นเองค่ะ

ภาวะโลกร้อนจึงไม่ใช่ปัญหาของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเป็นปัญหาแค่ของใครคนนึงเท่านั้น แต่ปัญหานี้เป็นปัญหาของเราทุกคน ! เป็นปัญหาของมนุุษย์ทุกหน้า ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงจุดไหนบนโลกใบนี้ เราทุกคนต่างกำลังเป็นผู้เผชิญกับปัญหานี้โดยตรง และนี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไม เราถึงต้องตระหนักและใส่ใจปัญหานี้

มนุษผู้ทำลายล้าง !

นอกจากจะเป็นผู้เผชิญกับปัญหานี้โดยตรงแล้ว เรายังรับบทเป็นผู้กระทำและเป็นตัวการหลักสำคัญที่ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของเก๊สเรือนกระจก กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ล้วนแต่ส่งผลให้เกิดการเพิ่มเติมของแก๊สเรือนกระจก ไม่ว่าจะเป็นการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เกษตรกรรม ปศุสัตว์ อุตสาหกรรม การคมนาคมขนส่ง การผลิตพลังงาน การผลิตสินค้า การผลิตอาหาร การตัดไม้ทำลายป่า การใช้พลังงานในอาคารบ้านเรือน โดยเฉพาะการบริโภคที่มากเกินไป

อุณหภูมิโลกยิ่งสูง ยิ่งเสี่ยงต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกส่งผลทำให้มวลน้ำแข็งละลาย และเกิดการระเหยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล เกิดการแปรปรวนของสภาพอากาศ ทำให้เกิดภาวะการเปลี่ยนแปลงระยะยาวของรูปแบบสภาพอากาศ หรือ Climate Change ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และเพื่อนร่วมโลกอย่างบรรดาสัตว์ต่าง ๆ

จากการรายงานขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) " อุณหภูมิเฉลี่ยโลกกำลังสูงขึ้นทุก ๆ ปี และสรุปเอาไว้ว่าในปี 2021ที่ผ่านมาเป็นปีที่อุณหภูมิโลกสูงที่สุดเป็นครั้งที่ 6 ตั้งแต่ที่องค์การได้บันทึกสถิติเอาไว้ "

และตามรายงานล่าสุดจาก IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change) "ภาวะโลกร้อนที่สูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส จะทำให้เกิดผลกระทบจากสภาพอากาศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น พายุที่ใหญ่ขึ้นและรุนแรงขึ้น ตามมาด้วยความแห้งแล้งที่ยืดเยื้อและยาวนานยิ่งขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้น หากเราไม่รักษาอุณหภูมิโลกให้อยู่ในระดับที่ควรจะเป็น"

ดังนั้น...ถึงเวลาแล้วรึยังที่เราทุกคน จะมองเห็นและเข้าใจว่า ปัญหาโลกร้อน ไม่ใช่ ปัญหาที่ คนกลุ่มใดกลุ่มนึงที่ต้องตระหนักเพียงเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของมนุษย์ทุก ๆ คน ในฐานะ ผู้ร่วมกระทำ และผู้รับผลกระทบ เราต่างเคยรู้สึกสบายใจที่อากาศร้อนเกินไป ไม่สบอารมณ์เมื่ออากาศร้อน ไม่ชอบเมื่อฝนอยู่ดีไม่ว่าดีก็ตก เราไม่ชอบฝุ่น มลภาวะ และเราทุกคนก็ไม่อยากเผชิญภัยธรรมชาติที่โหดร้าย

ซึ่งจริง ๆ แล้ว ธรรมชาติอาจจะไม่ได้โหดร้าย และโลกไม่ได้เอาคืนมนุษย์ แต่มนุษย์เองต่างหากที่ทำตัวเอง " เมื่อเราไม่ได้รักษ์โลก ก็ไม่แปลกเลยที่โลกจะไม่รักเรา หากมนุษย์ไม่โอบกอดโลกใบนี้ไว้ โลกก็อาจจะไม่ไหวที่จะโอบกอดเราเหมือนกัน "

ร่วมกันโอบกอดโลกใบนี้ ด้วยการแสดงความรักษ์ต่อโลก ใส่ใจและตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นหนึ่งในผู้ร่วมจะกู้โลก โลกเปลี่ยนได้ไม่ใช่แค่จากใครคนเดียว หรือจากแค่กลุ่มคนใด หรือแค่รัฐบาลไหน แต่สามารถเปลี่ยนได้ด้วยการรวมใจกันของมนุษย์เราทุกคน

Writer : มะลิฉัตร [ Malichat ]
Designer : namoodong