ใครอยากเป็นคนสวย...ฉันน่ะสิ! ฉันน่ะสิ! วันนี้ซิสจะมาชวนทอล์กถึงมุมมองของ ' ความอยากสวย/อยากดูดีขึ้น ' ว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดเลย แถมเป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำที่เราอยากจะพัฒนาตัวเองให้มีความมั่นใจมากขึ้น สวยเพื่อใคร แล้วมันผิดตรงไหน จริงไหมคะซิส!?

เลือกอ่านตามหัวข้อ
ความสวยของเราไม่เท่ากัน แท้จริงแล้ว...ความสวยคืออะไร ?
ทำไมใคร ๆ ก็อยากสวย-ดูดีขึ้น? อยากสวย แล้วผิดตรงไหน ?
1. สวยเพิ่มโอกาส : ภาพลักษณ์และบุคลิกที่ดูดี ตัวช่วยสู่โอกาสใหม่ๆ ในชีวิต
2. สวยเพื่อผู้ชาย / สวยเพื่อคนรัก : แรงบันดาลใจดีๆ เกิดขึ้นเพราะเธอก็ผิดเหรอ?
3. สวยเพื่อความสุข : อยากสวยเพื่อตัวเอง เติมเต็มชีวิต เสริมความมั่นใจ
อยากสวยไม่ใช่เรื่องผิด ตราบใดที่คิดจะสวยด้วยตัวเอง
ในยุคนี้ที่ผู้คนเริ่มหันมาตั้งคำถามกับค่านิยมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมมากขึ้น เราคำนึงถึงความสมเหตุสมผลมากกว่าการยึดติดกับความคิดเดิมๆ มองโลกในมุมที่กว้างมากขึ้น เรียกได้ว่าค่านิยมไหนบ้งก็ขออนุญาตปัดตกไปนะคะซิส! และหนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย นั่นก็คือเรื่องของ ' ความสวยความงาม '
ความสวยคืออะไร ?
แบบไหนที่เรียกว่าสวย ?
แล้วใครเป็นคนกำหนดมาตรฐาน ?
ความสวยของเราไม่เท่ากัน แท้จริงแล้ว...ความสวยคืออะไร ?
หาคำตอบผ่านมุมมองของสังคมกันไปแล้ว ทีนี้ลองมามองผ่านเลนส์ของวิทยาศาสตร์กันบ้าง ว่าตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วความสวยมีอยู่จริงไหม? ถ้ามีจริง มนุษย์คนนั้นต้องมีลักษณะอย่างไร?
ตามการศึกษาวิจัยพบว่า ความสวยในเชิงวิทยาศาสตร์ นั้นมีด้วยกัน 2 ลักษณะได้แก่ 1. ความสมมาตรของรูปหน้า ( Symmetry ) คือ การมีใบหน้าด้านซ้ายและด้านขวาเท่ากัน ซึ่งบ่งบอกถึงการมีพันธุกรรมที่ดีและการเลี้ยงดูที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องจากใบหน้าที่ทั้งสองด้านเติบโตได้ดีเหมือนกันนั้นจะเกิดจากการมียีนที่ดี และการได้รับสารอาหารที่เพียงพอนั่นเอง 2. การมีระยะห่างของอวัยวะต่างๆ บนใบหน้าอยู่ในค่าเฉลี่ย ( Averageness ) ซึ่งค่าเฉลี่ยในที่นี้ได้มาจากการคำนวณเมื่อเอาระยะห่างของอวัยวะต่างๆ บนใบหน้ามาบวกกันแล้วหารด้วยจำนวนคน ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย เช่น การมีระยะห่างของดวงตาที่พอดี ไม่ห่างจนเกินไป หรือการมีตำแหน่งของตาจมูกปากอยู่ในระยะที่กำลังพอเหมาะนั่นเอง ถามว่าระยะห่างดังกล่าวเป็นผลดียังไงกับมนุษย์ล่ะ? คำตอบคือ มันเป็นการแสดงถึงการมีพันธุกรรมที่หลากหลาย ซึ่งส่งผลให่้เป็นข้อได้เปรียบทางสุขภาพ หรือการมีสุขภาพที่แข็งแรงกว่าคนอื่นนั่นเองค่ะ
สำหรับเราเองมองว่า ถ้ามองในแง่ความเป็นเหตุเป็นผลอะใช่ มันเป็นผลวิจัยที่เป็นข้อเท็จจริง สอดคล้องกับหลักการคัดเลือกโดยธรรมชาติ ( Natural Selection ) คือ เป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่จะคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อการมีชีวิตรอด แต่ถ้ามองในแง่ของความรู้สึก เราว่ามันก็ไม่แฟร์นะที่จะมาตัดสินว่าใครสวยไม่สวย เพียงเพราะคนๆ นั้นเกิดมาด้วยหน้าตาแบบที่ไม่ตรงตามผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์

หลังจากตกตะกอนกับตัวเอง เราก็รู้สึกว่าบางทีความสวยก็อาจไม่มีอยู่จริงก็ได้นะ มันเป็นเพียงรสนิยมส่วนตัวที่แต่ละคนกำหนดขึ้นมา ไม่สามารถระบุด้วยมาตรฐานใดๆ ได้ด้วยซ้ำ หรือไม่คำตอบของคำถามนี้คงตอบได้หลายอย่างมากๆ อยู่ที่คุณจะยึดตามหลักการใด อยู่ที่คุณจะมีมุมมองต่อความสวยงามอย่างไร ดังที่ศิลปินเกาหลีใต้คนโปรดคนนึงของเรา ' ฮวาซา Mamamoo ' เคยกล่าวไว้บนเวทีคอนเสิร์ตในช่วงการแสดงเดี่ยวของเธอว่า “ ถ้าฉันไม่อยู่ในมาตรฐานความสวยของยุคนี้ อย่างนั้นฉันจะสร้างมาตรฐานความสวยของฉันขึ้นมาเอง ”
' ความสวย ' ของเรา ก็ให้เราเป็นผู้กำหนดเองค่ะซิส ♡
ทำไมใคร ๆ ก็อยากสวย-ดูดีขึ้น? อยากสวย แล้วผิดตรงไหน ?

1. สวยเพิ่มโอกาส : ภาพลักษณ์และบุคลิกที่ดูดี ตัวช่วยสู่โอกาสใหม่ๆ ในชีวิต
เราอาจจะเห็นได้จากบางอาชีพที่มีข้อกำหนดเรื่องภาพลักษณ์ที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งส่วนมากมักเป็นอาชีพในสายงานบริการ อาชีพที่ต้องใช้ทักษะควบคู่ไปกับภาพลักษณ์ และอาชีพที่อาศัยความน่าเชื่อถือสูง เช่น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน, Influencer, แพทย์ผิวหนังและความงาม, อัยการและทนายความ เป็นต้น ดังนั้นคงไม่แปลกนักที่ใครหลายคนอยากจะสวยขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเอง ดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจ้างงาน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด จริงไหมคะ?
2. สวยเพื่อผู้ชาย / สวยเพื่อคนรัก : แรงบันดาลใจดีๆ เกิดขึ้นเพราะเธอก็ผิดเหรอ?
3. สวยเพื่อความสุข : อยากสวยเพื่อตัวเอง เติมเต็มชีวิต เสริมความมั่นใจ
อยากสวยไม่ใช่เรื่องผิด ตราบใดที่คิดจะสวยด้วยตัวเอง

ตัวเราเองและ SistaCafe จะคอยเป็นพื้นที่ปลอดภัยสนับสนุนทุกความสวย
พร้อมเป็นบิวตี้คอมมูนิตี้ของคนที่สนุกกับการดูแลตัวเอง
Writer : yes_iamfaeng

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดOriginal Content)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe