อาการเหงามาจากไหน และความเหงาอาจพาเราไปเจอโรคอะไรได้บ้าง?

   ▸การตัดขาดทางสังคม : สาเหตุของความเหงาข้อแรกอย่างการตัดขาดทางสังคม เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความเหงาขึ้นได้ง่ายๆ ซึ่งการตัดขาดจากสังคมไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนงาน การย้ายโรงเรียน การจบความสัมพันธ์ การอาศัยอยู่คนเดียว หรือแม้แต่ยุคโควิดที่ผู้คนต้องรักษาระยะห่างจากคนอื่นๆ มากกว่าเมื่อก่อน จนกลายเป็นความเคยชิน ก็อาจทำให้หลายคนรู้สึกโดดเดี่ยวและเกิดอาการเหงาง่ายขึ้น

⁣

   ▸ยุคโซเชียลมีเดีย : ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีด้านต่างๆ พัฒนาและก้าวหน้าขึ้นกว่าเมื่อก่อน ก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็อาจมีข้อเสียอยู่ตรงที่อาจทำให้การปฏิสัมพันธ์กันในชีวิตจริงลดลง หรือสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ รอบข้างน้อยลง เช่น การใช้บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ แทนการออกไปกินข้าวนอกบ้าน หรือแม้แต่ยุคโซเชียลมีเดียที่ผู้คนนิยมสื่อสารผ่านหน้าจอมากกว่าการพบเจอกัน เป็นต้น จนเป็นตัวการที่ทำให้ผู้คนรู้สึกความเหงามากขึ้นค่ะ

   ▸สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง : เหงาเพราะอากาศเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรือเกินจริงเลยนะคะซิส! โดยความเหงาที่เกิดขึ้นจากอากาศเปลี่ยนแปลง อาจเกิดจาก โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล หรือ Seasonal Affective Disorder ( SAD ) และมักจะเกิดขึ้นในช่วงหน้าหนาวที่อุณหภูมิลดต่ำลง และเป็นช่วงเวลาที่กลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน จนทำให้นาฬิกาชีวิตแปรปรวนและส่งผลให้เกิดความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง จนเกิดอาการซึมๆ เศร้าๆ เหนื่อยล้า เบื่อหน่าย ยิ่งอยู่คนเดียวก็ยิ่งเหงามากขึ้น

   ▸ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง : ใครที่เหงาบ่อยหรือระดับความเหงารุนแรง ก็มีความเสี่ยงที่ระบบภูมิคุ้มกันจะแย่ลง และเกิดการอักเสบในร่างกายง่ายขึ้นค่ะ เพราะความเหงาที่เกิดขึ้นยาวนานก็กระตุ้นการหลั่ง “ คอร์ติซอล ” หรือฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมามากขึ้น จนเกิดเป็นความเครียด รวมทั้งยังกดระบบภูมิคุ้มกันและทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอลงด้วยค่ะ

   ▸โรคร้ายที่อาจทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร : ความเหงาไม่ทำให้ถึงตาย ( โดยตรง ) แต่ก็เป็นปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ และเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้นะคะ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือด โรคอัลไซเมอร์ ฯลฯ และเพิ่มโอกาสที่จะเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อง่ายขึ้นกว่าคนอื่นๆ จนเจ็บป่วยบ่อยและยาวนานขึ้น

   ▸ภาวะซึมเศร้า : คนเหงาที่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น หรือแยกตัวออกจากสังคมและใช้ชีวิตคนเดียวเพียงลำพังเป็นเวลานาน นอกจากจะทำให้รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวมากขึ้นแล้ว ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าตามมาได้ และมีโอกาสทำร้ายตัวเองหรือร้ายแรงถึงขั้นฆ่าตัวตายได้เลยด้วย