ข้อควรรู้ก่อนฉีด ! ทำความรู้จักกับ " โบท็อกซ์ " คืออะไร? ฉีดแล้วดียังไง?

สวัสดีค่าเพื่อนๆ ซิสต้าคาเฟ่ทุกคน หลายๆ คนที่ชื่นชอบในเรื่องความสวยความงามน่าจะต้องรู้จัก “ โบท็อกซ์ ” กันแน่ๆ เลยใช่ไหมคะ ซึ่งเพื่อนๆ ก็อาจจะมีคนใกล้ตัวที่ฉีด หรือเห็นคนอื่นฉีดมากมายแล้วเกิดความรู้สึกว่า “ โบท็อกซ์คืออะไร ฉีดแล้วดียังไง? ” ใช่ไหมคะ วันนี้เราเลยจะนำข้อควรรู้ก่อนทำโบท็อกซ์มาบอกเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อที่สำหรับคนที่สนใจจะทำแต่ลังเลจะได้มีเกร็ดความรู้ในการตัดสินใจทำที่ง่ายขึ้นนั้นเอง ถ้าอย่างนั้นเราก็มาเริ่มที่ข้อแรกกันดีกว่า

โบท็อกซ์ หรือ Botulinum toxin A เป็นแบคทีเรียที่ใช้และรู้จักในแวดวงของความสวยความงาม เพื่อลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบนผิวหนัง โดยเราสามารถฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดรอยย่นบนหน้า, ปัญหาไมเกรน ไปจนถึงลดปัญหาอาการเหงื่อออกเยอะเกินไปได้ แต่ถึงอย่างนั้นการฉีดโบท็อกซ์ ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ริ้วรอยบนหน้าเราหายไปตลอด การฉีดโบท็อกซ์เป็นแค่การช่วย หยุดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่จะหดตัวเท่านั้น เพราะฉะนั้นเวลาหลังฉีดโบท็อกซ์ เพื่อนๆ จะไม่มีรอยย่นที่เกิดจากการขยับตัวของกล้ามเนื้อเลย

เพื่อนๆ บางคนอาจจะคิดว่าการฉีดโบท็อกซ์ อาจจะทำให้หน้าเราดูเต่งตึงตลอดไปเลย แต่ไม่ใช่ค่ะ การฉีดโบท็อกซ์สามารถยับยั้งริ้วรอยบนหน้าได้ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งสำหรับแต่ละคนหรือกิจกรรมที่ทำจะทำให้ระยะเวลาการอยู่ของโบท็อกซ์ไม่เท่ากัน โดยเฉลี่ยแล้วการฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้ประมาณ 3 - 5 เดือน แต่สำหรับคนที่ ออกกำลังกายหรือใช้กล้ามเนื้อในส่วนที่ฉีดโบท็อกซ์เยอะ การฉีดโบท็อกซ์อาจจะอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่รู้ตัวว่า กลัวเข็ม, กลัวเจ็บ ขอบอกเลยว่าอย่ากลัว เพราะมันเจ็บแน่นอนนะคะ ใครที่บอกว่าเหมือนยุงกัดนี่ไม่ใช่เลย โดยระหว่างที่กำลังฉีดโบท็อกซ์จาก syringe บนหน้าอาจจะมีเสียงประหลาดๆ อย่างหลังการย่ำเท้าลงบนหิมะสักหน่อย ซึ่งเพื่อนๆ ที่รู้สึกเซนซิทิฟกับเสียงพวกนี้อาจเสียวๆ หูนิดหน่อนนะคะ แต่อย่ากังวลเพราะมันกินเวลาแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ส่วนหลังจากที่ฉีดโบท็อกซ์แล้ว เพื่อนๆ อาจรู้สึกเจ็บบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ประมาณครึ่งชั่วโมงและจะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ

หลังจากการฉีดโบท็อกซ์ก็มีสิ่งที่ห้ามทำเช่นกัน ดังเช่นการรักษาอื่นๆ ที่จะมีข้อห้ามข้อควรระยะยาวควบคู่กันไป โดยสิ่งที่เพื่อนๆ ควรหลีกเลี่ยงหลังการฉีดโบท็อกซ์ คือ ห้ามออกกำลังกาย, ห้ามนอนราบ, ห้ามก้มหน้า, ห้ามสูบบุหรี่, ห้ามให้หน้าโดนความร้อนและกินยา Ibuprofen หรือยาที่ทำให้เลือดจางเป็นเวลา 3 - 6 ชั่วโมง เพราะกิจกรรมเหล่านี้อาจทำให้เกิดการฟกช้ำบริเวณที่ฉีดได้ และนอกจากนี้ก็ยังมีอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดโบท็อกซ์ด้วย ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, อาหารหมักดอง, อาหารเผ็ด

หลังจากที่เพื่อนๆ ฉีดโบท็อกซ์แล้วกลัวว่าคนอื่นจะมองว่าเรา หุ่นยนต์ที่ไร้อารมณ์ หรืออาจดูไม่เป็นธรรมชาติ สำหรับเราคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดมากเลยค่ะ เราอยากให้เพื่อนๆ ลองมองในอีกแง่มุมที่ดีแล้วทำให้เรา feel good ได้ เช่น การฉีดโบท็อกซ์เป็นการเสริมความงามที่ทำให้ตัวเรารู้สึกมั่นใจขึ้น หรือทำให้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น เป็นต้น แถมในปัจจุบันก็มีคลีนิกมากมายที่มาพร้อมคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถให้คำแนะนำและฉีดโบท็อกซ์ให้เราได้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ต้องกลัวว่าหน้าจะตึงจนมีผลต่อการแสดงสีหน้าอีกต่อไป ยังไงทุกคนที่สนใจทำโบท็อกซ์ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลและเลือกคลีนิกที่มีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้วยน้า

เป็นยังไงบ้างคะกับ โบท็อกซ์คืออะไร ฉีดแล้วดียังไง ข้อควรรู้ก่อนทำโบท็อกซ์ เพื่อนๆ ได้ข้อมูลที่ต้องการกลับไปกันบ้างรึเปล่า สำหรับเราแล้วการฉีดโบท็อกซ์ ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินไป และมีข้อดีข้อเสียเช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ ถ้าหากเพื่อนๆ สนใจจะทดลองฉีดโบท็อกซ์เพื่อกระชับริ้วรอยก็ต้องลองตรวจทานเรื่องอาการแพ้ของตัวเองในการฉีดโบท็อกซ์ดูด้วยนะคะ สุดท้ายนี้อย่าอายที่จะฉีดโบท็อกซ์เลยค่ะ เพราะแค่เรามั่นใจในสิ่งที่เราต้องการและเป็นตัวเองก็เพียงพอแล้ว