

Original Content
มีอะไรบ้างนะ!? ชวนส่อง 5 ประเภท ' น้ำหอม ' ก่อนเลือกซื้อ พร้อม ' ทริค ' การเลือกใช้ให้ถูกสถานการณ์
จะซื้อน้ำหอมทั้งทีก็ต้องรู้ด้วยนะเออว่าน้ำหอมมี ' หลายประเภท ' ให้เลือกใช้เยอะมาก ๆ ซึ่งน้ำหอมแต่ละตัวก็มีความเหมาะสมกับการใช้แตกต่างกันไป แต่ตัวไหนจะเหมาะกับสถานการณ์อะไรก็ตามมาส่องกันโลด ♥

เลือกอ่านตามหัวข้อ
♡ น้ำหอมมีกี่ประเภท แล้วใช้ตอนไหนได้บ้างนะ? ♡
Eau Fraiche
Eau de Cologne ( EDC ) / Cologne
Eau de Toilette ( EDT )
Eau de Parfum ( EDP )
Parfum / Perfume
♥ TRICK! เลือกน้ำหอมประเภทไหนให้เหมาะกับสถานการณ์ ? ♥
เซย์ฮายยยยยยยยยยย ~
สวัสดีค่าชาว Sis ( tacafe ) กลับมาเจอกันอีกแล้วจ้า วันนี้ขอมาว่ากันด้วยเรื่องของน้ำหอมกันสักหน่อย ใครมือโปรเรื่องน้ำหอมแล้วก็น่าจะรู้กันดีเลยใช่ม้าว่าน้ำหอมเนี่ยมีหลากหลายประเภทมาก ๆ ความติดทนแต่ละประเภทก็แตกต่างกันไปด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าประเภทของน้ำหอมมีผลต่อการเลือกน้ำหอมและการใช้ในแต่ละสถานการณ์ด้วย และวันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนมารู้จัก 5 ประเภทน้ำหอมหลัก ๆ ที่คนในโลกนี้ใช้กัน แล้วก็จะมีแนะนำด้วยว่าแบบไหนควรใช้ตอนไหน เหมาะกับใครบ้าง เอาละ! พร้อมรึยังเอ่ย ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาเลยจ้า ♥
♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥
♡ น้ำหอมมีกี่ประเภท แล้วใช้ตอนไหนได้บ้างนะ? ♡
Eau Fraiche
เริ่มต้นกันด้วยน้ำหอมประเภท Eau Fraiche ( โอ แฟร้ช / โอ เฟรช) กันเลยค่า Fraiche เป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งมีความหมายเหมือนกับคำว่า Fresh ที่แปลว่า ' สดชื่น ' นั่นเองค่า โอ เฟรชเป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมหรือน้ำมันน้ำหอมน้อยมากที่สุด มีเพียงประมาณ 1 - 3% เท่านั้น ส่วนอีกประมาณ 97% ที่เหลือจะเป็นส่วนผสมของน้ำหรือแอลกอฮอล์ เมื่อความเข้มข้นของหัวน้ำหอมน้อยก็ทำให้กลิ่นน้ำหอมแบบโอ เฟรชเนี่ย บางเบาตามไปด้วย ความติดทนก็จะน้อยกว่าแบบอื่น ๆ อยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ กลิ่นก็จะเริ่มจางลง แล้วก็มีราคาที่ถูกกว่าแบบอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน หลายคนคงไม่ค่อยคุ้นน้ำหอมแบบโอ เฟรชใช่ม้า? เพราะมันไม่ค่อยมีขายมากสักเท่าไหร่ แต่ในประเทศฝรั่งเศสก็คือมีขายเยอะแยะมากมายเลยละค่ะ ถึงกลิ่นจะไม่ติดทน แต่ความหอมจาง ๆ บาง ๆ เบา ๆ หลายคนก็ชอบอะไรแบบนี้อะเนอะ แถมเติมได้บ่อย ๆ ไม่เบื่อด้วย ใครสนใจก็ลองไปหาซื้อกันดูน้า
Eau de Cologne ( EDC ) / Cologne
มาต่อกันที่ Eau de Cologne ( โอ เดอ โคโลญจน์ ) หรือ Cologne ( โคโลญจน์ ) กันเลยค่า น้ำหอมประเภทนี้จะมีความติดทนมากกว่าโอ เฟรชขึ้นมาซักหน่อย หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหูคุ้นตาน้ำหอมแบบ EDC หรือโคโลญจน์กันเยอะเลยใช่ม้า เพราะน้ำหอมแบบ EDC ค่อนข้างจะมีวางขายทั่ว ๆ ไป แถมมีราคาไม่แพงเช่นเดียวกันกับแบบโอ เฟรชเลยละค่ะ และที่มันไม่แพงก็เพราะว่า EDC มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมหรือน้ำมันน้ำหอมเพียงแค่ 2 - 6% เท่านั้น ความติดทนก็จะอยู่ที่ 3 - 4 ชั่วโมง หลังจากนั้นกลิ่นก็จะจางลง ส่วนกลิ่นของน้ำหอม EDC ก็จะกลิ่นบาง ๆ เบา ๆ ไม่ฉุนเหมือน ๆ กับโอ เฟรชเลยค่ะ เพียงแต่ว่ามีความติดทนมากขึ้นมาสักหน่อยเท่านั้นเอง แอบกระซิบว่า EDC วัยเรียนแอบฉีดนิดหน่อยไปโรงเรียนก็ถือว่าโอเคเลยแหละค่ะ ตัวจะได้หอม ๆ แถมราคาก็คุ้มค่ามากด้วย ♥
Eau de Toilette ( EDT )
เพิ่มความติดทนให้มากขึ้นอีกสเต็ป ก็ต้องเป็นน้ำหอมประเภท Eau de Toilette ( โอ เดอ ตัวเลตต์ ) เลยค่า หรือที่หลาย ๆ คนอาจจะเรียกสั้น ๆ กันว่า EDT นั่นเอง เห็นคำว่า Toilette หลายคนน่าจะเผลออ่านกันว่า ' ทอยเลตต์ ' กันเยอะแน่ ๆ เลยใช่ม้า? แต่การอ่านที่ถูกต้องคือการอ่านว่า ' ตัวเลตต์ ' ตามภาษาฝรั่งเศส ซึ่งก็จะแปลประมาณว่าน้ำหอมที่ใช้ฉีดหลังอาบน้ำนั่นเองค่ะ ตัวนี้เป็นน้ำหอมอีกประเภทที่ฮอตฮิตม้ากมาก มีกลิ่นให้เลือกหลากหลายสุด ๆ ความติดทนอยู่ที่ 4 - 6 ชั่วโมง จะฉีดไปเที่ยว ไปทำงาน ไปเรียนก็ตอบโจทย์ทั้งหมด ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมหรือน้ำมันน้ำหอมอยู่ที่ 5 - 15% ส่วนมากก็จะอยู่ที่ประมาณ 10% ราคาก็เลยจะแพงว่า EDC และ Eau Fraiche มากหน่อย แต่บอกเลยว่า EDT ตอบโจทย์กับสาวกน้ำหอมทั้งหลายมาก ๆ เพราะความติดทนอยู่ประมาณกลาง ๆ ราคาไม่แพงเวอร์ ( แต่ก็มีบางตัวราคาแพงเวอร์อยู่นะเออ ) กลิ่นไม่ฉุนเกินไป ฉีดได้บ่อย ๆ ทำให้ครองใจใครหลาย ๆ คนไปได้เยอะสุด ๆ > _ <
Eau de Parfum ( EDP )
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดOriginal Content)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe