เราเข้าใจดีนะคะว่าในบางครั้งเวลาโดนความหิวเข้าครอบงำ ก็คงทำให้หลายคนรีบตักอาหารเข้าปากรัวๆ อย่างมูมมาม เหมือนไม่ได้ผ่านการเคี้ยวก่อนกลืนยังไงยังงั้น ซึ่งพฤติกรรมการกินแบบนี้นอกจากมันจะดูไม่สุภาพ และเป็นภาพที่ไม่น่ามองสำหรับคนอื่นๆ รอบตัวแล้วเนี่ย ยังอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้อ้วนง่ายขึ้นด้วยนะ เพราะการติดนิสัยกินเร็วอาจทำให้สมองสั่งการให้หยุดกินไม่ทัน ร่างกายไม่รู้ตัวว่าถึงจุดที่อิ่มแล้ว จนเผลอกินอาหารในปริมาณที่มากเกินความต้องการ ทั้งที่จริงๆ แล้วต้องใช้เวลานานถึง 20 นาทีกว่าที่สมองจะสั่งการให้ร่างกายรู้สึกอิ่ม ดังนั้น ควรเปลี่ยนพฤติกรรมการกินด้วยการ กินให้ช้าลง ไม่ต้องรีบร้อน และเคี้ยวอาหารให้ละเอียดทุกคำก่อนกลืน ด้วยนะคะ

ยุคนี้เป็นยุคที่หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่บนความเร่งรีบ ไหนจะต้องปั่นงานดึกๆ ดื่นๆ ทุกวัน ไหนจะต้องรีบตื่นเช้ามาเตรียมตัวออกไปทำงาน ไหนจะต้องรีบออกจากบ้านไปฝ่าฟันรถติดหลายชั่วโมง จนทำให้ไม่มีเวลากินอาหารมื้อเช้าก่อนออกไปทำกิจกรรมต่างๆ นอกบ้าน แล้วการอดมื้อเช้าเป็นประจำมันก็ไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดลงเลยสักนิดนะคะ แต่มันจะทำให้คุณสาวๆ ขาดพลังงาน รู้สึกอ่อนเพลีย สมองไม่แล่น แถมยังรู้สึกหิวหนักกว่าเดิม จนต้องกินอาหารในมื้อเที่ยงมากกว่าที่ควรกิน และอยากกินของว่างจุบจิบระหว่างวันบ่อยขึ้นด้วย รู้แบบนี้แล้วต่อให้รีบขนาดไหนก็ควรกินอาหารเช้าทุกๆ วันด้วยนะคะ

สำหรับคนที่ตั้งใจไดเอทมาอย่างดี เลือกกินแต่อาหารดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แล้วยังห้ามใจไม่ให้กินขนมขบเคี้ยวระหว่างวันได้… แต่ถ้ามาตกม้าตายเพราะความหิวยามดึก จนต้องลุกขึ้นแล้วเดินเข้าครัวไปหาอาหารมื้อดึกมากินก่อนนอนแบบจัดเต็มแทบทุกวัน ก็ไม่น่าแปลกใจที่น้ำหนักตัวจะพุ่งสูงปรี๊ดหรอกนะคะ เพราะการกินมื้อดึกจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณอาหารมากเกินพอดี แถมการล้มตัวลงนอนหลังจากที่เพิ่งกินอาหารอิ่มๆ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อนได้ด้วย ทางที่ดีแนะนำให้ จัดตารางเวลาการกินไว้เลยว่าควรกินมื้อเย็นในช่วงเวลา 17.30 - 18.00 น. จะได้ไม่ใกล้กับเวลานอนจนเกินไปค่ะ

หนึ่งในเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยลดปริมาณการกินอาหารในแต่ละมื้อลงได้ก็คือ การเปลี่ยนขนาดจาน / ชาม / ถ้วยที่ใช้ให้เล็กลง นั่นเองค่ะ เหตุผลก็เป็นเพราะว่าการที่คุณสาวๆ เลือกใช้ภาชนะใส่อาหารที่มีขนาดใหญ่ ก็อาจทำให้เผลอตักอาหารใส่จานในปริมาณที่มากเกินพอดี แถมยังตักเพลินๆ เพราะคิดว่าที่ตักมายังไม่เต็มจานอีกด้วยนะ แต่หาก เปลี่ยนมาใช้ภาชนะที่มีขนาดเล็กลง เวลาตักอาหารใส่จานก็จะทำให้ดูเยอะๆ ล้นๆ ส่งผลให้กินอาหารเข้าไปในปริมาณที่น้อยลงแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ