เคล็ด (ไม่มีคำว่า) "ลับ" อีกต่อไป แชร์เทคนิคเก่งภาษาอังกฤษแบบเพื่อนบอกต่อเพื่อน ไปไหนไปกัน

การจะเก่งอะไรสักอย่าง มันช่างยากเย็นจริง ๆ เรียนภาษาอังกฤษมาก็หลายปีแล้วแต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงยังไม่มั่นใจซักที เราก็เป็นเหมือนกันนะ แต่หลัง ๆ มานี้เรารู้สึกมั่นใจขึ้นมากแล้ว บอกเลยว่าเทคนิคพวกนี้
มันจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป! 5 เทคนิคนี้จะช่วยให้เราเก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้จริง ๆ 
(แบบมีความสุขด้วย) ไม่เชื่อเหรอคะ? ลองเลย!

ถ้าอยากจะเก่งภาษาอังกฤษ อย่างแรกที่เราต้องทำก็คือ คืออออ ตั้งค่าภาษาในโทรศัพท์ โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ ไอแพด ทุกอย่างรอบตัวเป็นภาษาอังกฤษให้หมดเลย จะเข้าใจ ไม่เข้าใจก็ตั้งไปก่อนค่ะทุกคน ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนค่อยว่ากัน เราเปิด Dictionary บ่อย ๆ เดี๋ยวก็จำได้เองเนอะ แต่แนะนำว่าถ้าคำไหนดูบริบทได้ให้พยายามลองเดาความหมายของคำด้วยนะคะ ฝึกไปเรื่อย ๆ อ้อแล้วก็ไม่ว่าจะเขียน
short note เวลาเรียน หรือเขียนจดอะไรก็ตาม พยายามเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ลองนึก
ลองคิดเป็นภาษาอังกฤษอยู่เรื่อย ๆ ช่วยได้นะคะ 

ลองหาอะไรก็ได้ที่ทำให้เราอยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษทุก ๆ วันนะคะ เช่น บางคนชอบดูหนัง/ซีรีย์พยายามหาเรื่องที่เราดูได้นาน ๆ บ่อย ๆ เยอะ ๆ หลาย ๆ เรื่องเลยยิ่งดี เช่นซีรีส์ฝรั่ง Friends
ที่มีหลายตอนมาก ๆ แถมฮาสุด ๆ ดูได้ทุกวันไม่เครียด ไม่เบื่อเลย เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้างก็ไม่เป็นไรน้า
ขอแค่รู้สึกติดใจกับมัน^^ รักมัน หลงมัน! จะเป็นเพลงโปรดที่ชอบหรือยูทูบต่างชาติในเรื่องที่ชอบก็ได้หมดเลยค่ะ รับรองไม่มีคำว่าหมดไฟก่อนแน่นอน

การจับคำศัพท์ภาษาอังกฤษเป็นร้อย ๆ คำ เป็นพัน ๆ คำนั้นจะแค่ท่องไปมาแบบนี้ มันก็จำยากน้า
เราก็เคยนะ แปะโพสอิทไปมาเต็มห้องเลย สุดท้ายแล้วเราก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี เอ๊ะ! หรือเป็น
เป็นคนเดียวนะ! เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนก็คงเป็นเหมือนกันเนอะ อีกอย่างมันก็ค่อนข้างน่าเบื่อนะคะ
แถมเราก็ลืมง่ายอีกต่างหาก แต่ถ้าเพื่อน ๆ ลองจำเป็นคำคมไปเลย จะจำง่ายขึ้นจริง ๆ นะ แถมได้
คำศัพท์หลายคำในเวลาแปปเดียวเอง แล้วมาเป็นประโยคเลย ยกตัวอย่างว่าเราดูคำคมทุก ๆ วัน
เราก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันยากเกินไปใช่ไหมคะ ลองดูนะ! 

ข้อนี้้เราอยากบอกว่าสำคัญมากกกกกกกกก ถ้าเพื่อน ๆ อยากเห็นผลเร็วต้องห้ามข้ามข้อนี้เด็ดขาดค่ะ
เคยได้ยินไหมคะว่าทักษะภาษาอังกฤษแต่ละอย่าง มันจะเชื่อมกันหมด ถ้าอยากพูดได้ก็ต้องฟังออก ถ้าอยากเขียนได้ก็ต้องอ่านให้รู้เรื่อง ดังนั้นการฝึกทุกสกิลไปพร้อม ๆ กัน ด้วยการทำกิจกรรมที่เราชอบไม่ว่าจะเป็นฟังเพลง ดูหนัง เปิด EN subtitles หรือลองตอบคำถามเล่น  ๆ ง่าย ๆ กับตัวเองหน้ากระจก
อ่านภาษาอังกฤษทุกครั้งที่เจอ ฝึกเขียนเรียบเรียงออกมาในไดอารี่ หรืออะไรก็ตาม ทุกอย่างมันมีความหมายมาก ๆ นะคะ ถ้าทำได้ เพื่อน ๆ จะรู้สึกทันทีว่า เนี่ยแหละ
เรามาถูกทางแล้ว เรากำลังพัฒนาจริง ๆ นะ!

มีหลาย ๆ ครั้งที่ท้อใจในการฝึกภาษาอังกฤษของตัวเอง ? ฝึกเท่าไหร่ก็ไม่เก่งซักที!? ลองมองรอบตัวนะคะว่าทุกคนก็ล้วนพยายามเหมือนกับเราทั้งนั้นเลย ถ้าเราเห็นคนที่เก่งกว่าให้คิดไว้เสมอค่ะว่าเขาฝึกมาหนักมาก ๆ แล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งเก่งเมื่อวานแน่ ๆ เราแค่ยังชั่วโมงการฝึกไม่เท่าเขาเท่านั้นเอง ไม่ได้แปลว่าเราไม่เก่ง และไม่ได้แปลว่าเราจะไปถึงจุดนั้นไม่ได้ ดังนั้นฝึกไปเรื่อย ๆ นะคะ เอาที่เราสนุกกับมัน ถ้ารู้สึกเหนื่อยเกินไปก็ให้พักก่อนเนอะ อย่าให้มันกลายเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ เหนื่อย เครียด ให้มันเป็นสิ่งที่เรารัก
และเราสนุกกับมันดีกว่า เพราะว่าตราบใดที่ไม่หยุด เราจะเก่งได้แน่นอนค่ะ มั่นใจได้เลย!

สุดท้ายแล้ว ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้(ขอบคุณทุกคนมากนะคะ^^) และยินดีด้วยค่ะ คุณเข้าใกล้คำว่าสำเร็จมากขึ้นทุกทีแล้ว อย่าลืมขอบคุณตัวเองที่อดทนมาขนาดนี้ด้วยน้า อีกอย่างนะคะ ถ้าเราอยากจะ Fluency in English เราต้องกำหนดเองว่าแบบไหนคือเก่งแล้ว สำหรับเราแค่มีความมั่นใจมากขึ้น
พอสื่อสารได้คล่องก็โอเคแล้ว แล้วเราค่อยพัฒนาไปเรื่อย ๆ ต่อไป เพราะภาษาอังกฤษคือเครื่องมือสื่อสาร
ไม่จำเป็นที่เราจะต้อง perfect ตั้งแต่ต้นนะคะ สู้ ๆ ค่าาาา