ผมพังก็เปลี่ยนให้ปังได้! ด้วย Moltobene Deep Layer ทรีตเมนต์บำรุงผมจากญี่ปุ่น

เลือกอ่านตามหัวข้อ
ผมพังก็เปลี่ยนให้ปังได้! ด้วย Moltobene Deep Layer ทรีตเมนต์บำรุงผมจากญี่ปุ่น
ขั้นตอนที่ 1 : Penetrating Repair (ฟื้นฟูเส้นผมโดยการดูดซึมส่วนที่สึกหรอ)
ขั้นตอนที่ 2 : Bonding Repair (ซ่อมแซมพันธะของเส้นผม)
ขั้นตอนที่ 3 : Enhanced Repair (เพิ่มพลังในการซ่อมแซม)
ขั้นตอนที่ 4 : Moist Hyalo Film (เคลือบเกล็ดผมครั้งที่ 1)
ขั้นตอนที่ 5 : W Hyaluronic Acid Coating (เคลือบกรดไฮยาลูโรนิก 2 ชนิด)
1 STEP (Low Damage) : ทำเฉพาะขั้นตอนที่ 5
2 STEP (Light Damage) : ทำเฉพาะขั้นตอนที่ 4 และ 5
3 STEP (Middle Damage) : ทำเฉพาะขั้นตอนที่ 1, 2 และ 5
5 STEP (High Damage) : ทำครบทั้ง 5 ขั้นตอน
ผมพังก็เปลี่ยนให้ปังได้! ด้วย Moltobene Deep Layer ทรีตเมนต์บำรุงผมจากญี่ปุ่น
สวัสดีค่ะทุกคน ^o^
ช่วงนี้เราเชื่อว่าด้วยเทรนด์สีผมโทนหม่นสุดฮิต สาวๆ หลายคนก็คงฟอกสีผมเพื่อให้ได้ทำผมสีสวยๆ กันใช่ไหมล่ะคะ แต่ปัญหาที่ตามมาอย่างแน่นอนหลังจากการฟอกผมก็คือ ผมของเราจะแห้งเสีย จนบางทีก็ถึงกับกรอบไปเลย ทำเอาใครหลายๆ คนถึงกับเข็ดเลิกฟอกสีผมไปเลยก็มี T^T

“บูสเตอร์” จะช่วยปรับสภาพเส้นผมชั้นนอกให้เราก่อนที่จะลงมือทำทรีตเมนต์ โดยมันจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการดูดซึมของทรีตเมนต์ ทำให้ทรีตเมนต์เข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเส้นผมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ภายในเส้นผมด้วยค่ะ

สำหรับเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ Moltobene Deep Layer ก็จะมีความเข้มข้น เนื้อแน่น ทำให้เกิดจุดเด่นที่สำคัญคือ เวลาสระผม ตัวแชมพูจะกลายเป็นมาสก์ฟองที่เนื้อนุ่ม แต่ก็แน่นและละเอียดค่ะ
มาสก์ฟองจะช่วยทำให้เส้นผมไม่ฝืดและไม่เสียดสีกัน ทำให้ผมของเราไม่พันกันเวลาสระ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาผมเสียได้ค่ะ ตัวมาสก์ฟองจะคอยโอบล้อมส่วนผสมของแชมพูที่ช่วยบำรุงเส้นผมเอาไว้ ทำให้สารบำรุงซึมซาบเข้าสู่เส้นผมชั้นนอกได้ง่ายขึ้น และเข้าไปซ่อมแซมผมที่เสียได้อย่างเต็มที่ค่ะ
นอกจากนี้ Moltobene Deep Layer ยังเป็นทรีตเมนต์ที่มีกลิ่นหอมมากๆ ด้วยนะ! เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย เบาสบาย เรานอนทำผมไปก็รู้สึกหอมจนเคลิ้ม แทบจะหลับไปเลยค่ะ ฮ่าๆ ทั้งนี้ พนักงานบอกว่าทรีตเมนต์ตัวนี้เป็นกลิ่น Classic Pear และ Freesia ค่ะ เป็นกลิ่นลูกแพร์ที่หอมหวาน ละมุน มีความสดชื่นแบบซิตรัสนิดๆ ผสมกับความสดชื่นของดอก Peony
สำหรับวันนี้ ด้วยสภาพเส้นผมของเราที่แห้งเสียอย่างมากจากการฟอกสี เราเลยเลือกที่จะบำรุงแบบจัดเต็ม ด้วยการทำทรีตเมนต์ของ Moltobene Deep Layer ครบทั้ง 5 ขั้นตอนค่ะ ขั้นตอนการทำทรีตเมนต์ทั้งห้านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผมได้ในระดับสูงสุด เรียกได้ว่าจากผมที่เคยแห้งฟูก็จะกลายเป็นผมคุณหนูที่ทั้งนุ่มทั้งเงาสลวยกันไปเลยจ้าาา ❤️
ร้านทำผมในกรุงเทพฯที่ให้บริการทำทรีตเมนต์ผมด้วยผลิตภัณฑ์ Moltobene Deep Layer ก็คือร้าน TomoTomo ที่อยู่ในอาคาร UR Build ซอยทองหล่อ 11 และ 13 ค่ะ ถ้ามาทางรถไฟฟ้า BTS ก็สามารถนั่งมาลงที่สถานีทองหล่อ แล้วต่อรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์เข้ามาได้เลยค่ะ

มาถึงหน้าร้านแล้ว~

บรรยากาศภายในร้าน TomoTomo ดูโปร่งโล่ง มีความมินิมอล สบายตามากๆ เลยค่ะภายในร้านก็สะอาดมากเลย
มีโซฟาให้นั่งรอทำผมชิลล์ๆ ด้วยค่ะ

ก่อนทำทรีตเมนต์ ช่างจะมาอธิบายขั้นตอนการทำให้เราฟังคร่าวๆค่ะ เขาจะให้คำแนะนำว่าสภาพเส้นผมแบบเราควรทำกี่ขั้นตอน เพราะว่าการทำทรีตเมนต์ Moltobene Deep Layer นั้นไม่จำเป็นต้องทำครบทั้ง 5 ขั้นตอนค่ะ
ช่างจะช่วยวัดระดับความแห้งเสียของเส้นผมเรา โดยดูด้วยสายตา สอบถามประวัติการทำผม และลองสัมผัสเส้นผมของเราค่ะ จากนั้นเขาก็จะกำหนดขั้นตอนการทำ รวมถึงเลือกสูตรแชมพูและทรีตเมนต์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของเราค่ะ
สำหรับเราที่ผมค่อนข้างเสียจากการฟอกสีก็จัดเต็ม 5 ขั้นตอนไปเลยค่าาา (พนักงานร้าน TomoTomo ใจดีและสุภาพมากเลยค่ะ พี่เขาให้คำแนะนำดีมากๆ แล้วเราก็แอบเห็นว่าพนักงานที่นี่คุยภาษาอังกฤษกับลูกค้าต่างชาติได้ด้วยนะคะ ดังนั้นใครอยากพาเพื่อนคนต่างชาติมาทำผมที่นี่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสารเลยค่ะ)

สำหรับทรีตเมนต์ Moltobene Deep Layer ที่เราจะมาทำกันในวันนี้ ก็จะมีให้เลือก 2 สูตรค่ะ คือ สูตร S และ สูตร G แต่ด้วยความสงสัย เราก็เลยถามพี่พนักงานว่าสองสูตรนี้มันต่างกันยังไง
พี่พนักงานอธิบายว่าสูตร S (Extra Sleek) เป็นสูตรที่ใช้สำหรับผมเส้นเล็กบางที่ต้องการเพิ่มน้ำหนักและความนุ่มลื่นค่ะ

ส่วนสูตร G (Extra Glossy) ใช้สำหรับผมเส้นใหญ่หนา แห้ง แข็งกระด้าง หรือผมชี้ฟูที่ต้องการความนุ่มสลวยและความเงางามค่ะ


อันดับบทความประจำวัน
(หมวดผม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe