แชร์วิธีการลดน้ำหนัก🔥 ฉบับคนขี้เกียจ! ทำคีโตเจนิค + if 🍳✨ลดน้ำหนักได้จริงหรือป่าวนะ? 🧐

วันนี้เรามาแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักให้ทุกคนอ่านกัน เป็นประสบการณ์ของเราเอง! ในระยะเวลา 3 เดือน เราลดไปได้ทั้งหมด 21กก. !! แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าวิธีการลดน้ำหนักของเราอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกหลักการ ( หรือเปล่านะเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ) และมันขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนด้วย ว่าจะลดได้มากน้อยแค่ไหน แต่เราอยากมาแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักเพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนกัน! 

คิดว่าสาว ๆ หลายคนต่างก็เคยตั้งเป้าหมายอยากมีหุ่นสวย ๆ เราก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน~ แต่ ๆ วิธีที่ใช้ในการลดน้ำหนักมีหลากหลายมาก ๆ ทั้งกินคลีนเอย ออกกำลังกายเอย แต่ส่วนตัวเราเป็นคนไม่ค่อยมีเวลาบวกกับเป็นคนขี้เกียจด้วย! ซึ่งไม่ค่อยดีกับร่างกายเท่าไหร่ เราจึงเลือกลดน้ำหนักด้วยวิธีการกิน คีโตเจนนิค + if

เราขอแนะนำแบบคร่าว ๆ ก่อนว่าเจ้าคีโตเจนนิค เป็น การกินไขมันเพื่อลดไขมัน ให้ร่างกายเรียนรู้ว่าไขมันคือพลังงาน ลดแป้ง น้ำตาล แบบเด็ดขาด ปกติแล้วเวลาเรากินข้าวร่างกายเราจะจดจำว่าข้าว หรือแป้งเป็นพลังงานหลักของร่างกาย เพราะฉะนั้นเวลาที่เรากินของมันหรือของทอดมันจะไปสะสมทำให้เราอ้วนขึ้นใช่มั้ยทุกคน แต่กระบวนการของการกินคีโตคือการเน้นกินไขมันที่ดีเข้าไปเยอะ ๆ เมื่อเรางดแป้ง งดน้ำตาลแล้ว เน้นกินแค่ไขมันดีเท่านั้น! ทำให้ร่างกายจดจำว่าไขมันคือพลังงานหลักของร่างกาย เพราะฉะนั้นมันจะดึงไขมันสะสมในร่างกายเรามาเป็นพลังงานหลักในแต่ละวัน ทำให้ไขมันส่วนเกินลดลงได้!

แต่ไม่ได้บอกว่าเราลดน้ำหนักจนผอมเลยนะ แต่เป็นการลดน้ำหนักที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้ผอมลงมากขนาดนั้น ตัวเล็กลงกว่าเดิม รู้สึกตัวเบาลง ทำอะไรทะมัดทะแมงมากยิ่งขึ้น ถือเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ ขอบอกว่าไซส์เสื้อผ้าก็ลดลงด้วย เราใช้ระยะเวลาในการลดน้ำหนักครั้งนี้ทั้งหมด 3 เดือนเต็ม ๆ

♥ วิธีที่เราเริ่มการลดน้ำหนักคือ เราเริ่มกินไขมันดีแบบเพรียว ๆ เรากินติดต่อกันเป็นระยะเวลาสองอาทิตย์เต็ม ๆ อาหารที่เน้นกินหลัก ๆ เลยคือไขมันหมูที่ได้จากหมูสามชั้น เรากินหมูสามชั้นย่างกับกะทะแบบไม่ใส่อะไรเลยเพราะน้ำมันจากหมูจะออกมาเอง เรากินหมูสามชั้นหนึ่งอาทิตย์ พอเข้าอาทิตย์ที่สองก็สลับไปกินสามชั้นบ้าง สันคอหมูบ้าง รวมไปถึงอกไก่กับเนื้อวัวด้วย ช่วงสองอาทิตย์แรกเราจะกินคีโตควบคู่กับการทำ if 16/8 คือการอด 16 ชั่วโมง กิน 8 ชั่วโมงนั้งเอง

เราเลือกกินข้าวแต่ตอนช่วง 09:00-15:00 หลักจากนั้นเราจะกินแค่น้ำเปล่าอย่างเดียว และมีการออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยคือการเดินบนลู่วิ่งทุกวัน วันละ 30 นาที แนะนำว่ายังไงก็ต้องออกกำลังกาย ขยับร่างกายบ้างนะคะ อย่างน้อยก็เดินให้ร่างกายได้เผาพลาญสักหน่อย และที่สำคัญคือต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ ด้วยนะ! ผลที่ได้ในช่วงเดือนแรกน้ำหนักเราลดไปทั้งหมด 7 กิโล

♥♥ หลังช่วงเดือนที่สองร่างกายเราก็เริ่มเข้าสู่คีโตแบบเต็มตัวแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือห้ามหลุดออกจากคีโตเด็ดขาด เรามีการปรับเปลี่ยนอาหารให้มีประโยชน์มากขึ้นมาบ้าง ด้วยการเพิ่มผักเข้ามาควบคู่ในเมนูอาหาร เพิ่มโปรตีนจากไข่ไก่ แต่ยังเน้นไปที่ไขมัน จากหมูสามชั้นเป็นหลักอยู่ แต่วันไหนรู้สึกเลี่ยนมันหมู เราจะเปลี่ยนไปกินอกไก่แทน แต่จะเพิ่มเนยแท้เข้าไปด้วยเพื่อให้ยังมีไขมันอยู่ กินคีโตก็สามารถกินเนยได้นะคะแต่ต้องเป็นเนยแท้เท่านั้นนะ

ช่วงเดือนที่สองเป็นช่วงที่เราเริ่มกินคีโตควบคู่กับการทำ if ด้วยการปรับเวลาแบบหักดิบมาก ๆ คือการทำ if 23/1 เป็นการกินเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง และอดอาหารเป็นเวลา 23 ชั่วโมง เราไม่แนะนำถ้าใครที่ร่างกายยังไม่พร้อมนะคะ เพราะอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เรากินเมนูเดียวคือเป็นเนื้อ ผัก ไข่ และทำ if ไปด้วยน้ำหนักเราลดรวมทั้งหมด 16 กิโล 

♥♥♥ พอเข้าสู่ช่วงเดือนที่สาม เริ่มปรับเปลี่ยนอาหารจากการกินแค่เนื้อ ผัก ไข่ วนซ้ำแบบเดิมเป็นการทำอาหารคีโตเอง จริง ๆ เป็นคนทำอาหารไม่เป็นเลยนะ แต่พอกินอาหารเดิม ๆ หลายเดือนจึงเริ่มเบื่อคิดถึงอาหารรสชาติใหม่ ๆ เดือนที่สามเราเลยศึกษาเกี่ยวกับเครื่องปรุงคีโต จริง ๆ มีให้เลือกเยอะมาก ๆ พริกแกงคีโต โคชูจังคีโต กิมจิคีโต หรือพวกน้ำจิ้มสุกกี้คีโตก็มีเหมือนกัน เพราะงั้นในเดือนที่สามเราเลยทำอยู่สามเมนูคือ แกงเขียวหวานอกไก่ พะโล้หมูสามชั้น และก็หมูย่างเกาหลีห่อผัก แต่ ๆ เรายังเลือกที่จะทำ if 23/1 ไปด้วย 

มีการปรับการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้น ด้วยการเข้าฟิตเนส แต่ไม่ได้ออกกำลังกายทุกวันนะ ถ้าวันไหนออกเราจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงเลย เพื่อให้ร่างกายได้เผาพลาญให้ได้มากที่สุด ช่วงเดือนที่สามน้ำหนักเราลดไปทั้งหมด 21 กิโล