ยื้อแค่ไหนก็ไม่รอด! 7 สัญญาณเตือน “ คนที่ไม่ใช่ ” ฝืนคบต่อไปก็ไม่มีความสุข มีแต่เรื่องเสียใจรายวัน #แยกย้ายด่วน

เริ่มต้นด้วยวิธีเช็กแบบง่ายๆ ข้อแรกว่าความรักครั้งนี้มันเวิร์ก หรือเขาคนนี้เป็นคนที่ใช่จริงๆ รึเปล่า ก็ให้ลองสังเกตดูสิคะว่า ตั้งแต่ที่เริ่มต้นคบหากันมา เธอยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข หรือหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนคนอมทุกข์มากกว่ากันแน่?! ถ้าคำตอบคืออย่างหลัง… อาจถือเป็นสัญญาณเตือนว่าเธอกำลังไม่แฮปปี้กับชีวิตรักหรือคนรักก็ได้นะ เพราะหากคนรักเขาเป็นคนที่ใช่สำหรับเธอ เวลาอยู่ด้วยกันก็จะทำให้เธอรู้สึกมีความสุขและสบายใจ แล้วถึงแม้ว่าในบางครั้งอาจมีเรื่องไม่เข้าใจกันหรือทะเลาะกันบ้างก็ตาม แต่ถ้าลองเปรียบเทียบกันแล้ว ความสัมพันธ์ที่ดีมันควรมีช่วงเวลาแห่งความสุขมากกว่าความทุกข์นะ

สาวๆ คะ รู้รึเปล่าว่า “ การได้ยิน ” กับ “ การรับฟัง ” มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยนะ แล้วก็สามารถนำความแตกต่างในเรื่องนี้มาเช็ก #คนที่ใช่ ของตัวเองได้เหมือนกัน หากคนรักหรือหนุ่มคนที่เธอกำลังคุยๆ ด้วยอยู่ในตอนนี้ เวลาเธอพูดคุยหรือบอกเล่าอะไรให้เขาฟัง แล้วอีกฝ่ายแค่ได้ยินแบบเข้าหู้ซ้ายทะลุหูขวา ไม่ได้สนใจเรื่องที่เธอพูดเลยสักนิดเดียว พฤติกรรมแบบนี้อาจตีความหมายได้ว่า เขาเป็นคนที่ไม่ใช่สำหรับเธอก็ได้นะ เพราะหากเขารักและให้เกียรติเธอจริงๆ ก็ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจกับคำพูดของเธอ ไม่ว่าเรื่องนั้นๆ มันจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ที่สำคัญการที่ฝ่ายหนึ่งพูดแต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่รับฟัง ก็อาจทำให้คนสองคนขาดการสื่อสารกัน ในอนาคตชีวิตรักคงมีปัญหาและไปต่อได้ไม่นานแน่ๆ

การทุ่มเทให้ความรักและคนรักอย่างเต็มที่ มันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีอยู่หรอกนะคะ แต่ในบางครั้งหากฝ่ายคนรักคาดหวังว่าเธอจะต้องยอมเสียสละทุกอย่างในชีวิตเพื่อเขา หรือต้องให้ความสำคัญกับเขาเป็นอันดับหนึ่งในทุกๆ สถานการณ์ นี่ถือเป็นสัญญาณเตือนขั้นรุนแรงว่าเขาคือคนที่ไม่ใช่ แล้วยังเป็นคนที่ไม่น่าคบหาอีกต่างหากนะ เพราะนอกจากมันจะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายเป็นคนเห็นแก่ตัว ที่นึกถึงแค่ความสุขและความพึงพอใจของตัวเองแล้ว หากต้องทนคบกันต่อไป มันก็จะทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยใจและไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ด้วยนะ แนะนำว่าให้รีบถอยห่างออกมาจะดีที่สุด!!!

มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยนะคะ ถ้าในบางครั้งสาวๆ จะรู้สึกไม่พอใจในพฤติกรรมหรือนิสัยบางอย่างของคนรัก เพราะการที่คนสองคนต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นเวลานานๆ ก็อาจมีเรื่องที่เข้ากันไม่ได้บ้าง ถือเป็นเรื่องธรรมดาสุดๆ แต่หากเมื่อไหร่ก็ตามที่มีความรัก แล้วเธอคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงคนรักอยู่เสมอ เช่น การแต่งตัว, ทรงผม, นิสัย, ความชอบ, ไลฟ์สไตล์ ฯลฯ เรียกง่ายๆ ว่าเปลี่ยนแฟนน่าจะง่ายกว่าเปลี่ยนเขาเยอะ… มันก็เป็นสัญญาณเตือนระดับรุนแรงว่าเขาคนนี้อาจไม่ใช่คนรักที่เธอต้องการ เพราะหากคนสองคนรักกันจริงๆ ก็จะค่อยๆ ปรับจูนเข้าหากันทีละนิด ไม่ใช่คิดอยากจะเปลี่ยนแปลงอีกฝ่ายให้เป็นอย่างที่ตัวเองต้องการ หรือบังคับให้ทำในสิ่งที่เธอพึงพอใจโดยที่ไม่ถามความเห็นของเขาแบบนี้