ผิวสวย หน้าใสแบบไอดอล ส่อง Night Skincare Routine ของสาว Lee Su-hyun ใช้อะไร ทำไมหน้าใสและเด็กจัง!

สกินแคร์ที่ไอดอลใช้วันนี้ เราจะพาเพื่อนๆ ไปส่องสกินแคร์เด็ดๆ ของสาว Lee Suhyun ซึ่งขอบอกตรงนี้เลยว่า ผิวหน้าของเธอดีมาก ทั้งเนียนใส แถมหน้าเด็กสุดๆ เห็นแล้วอิจฉาตาร้อน! เท่าที่เราได้เข้าไปดูมา สกินแคร์ที่สาว Suhyun ใช้ ไม่ได้มากมายอะไร เชื่อว่าทุกๆ คนสามารถใช้ตามกันได้อยู่ สำหรับวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆ ไปดู Night Skincare Routine ของสาว Lee Su-hyun กันค่ะ จะมีสกินแคร์ตัวไหนน่าใช้ และหาซื้อได้บ้าง เดี๋ยวจะได้เห็นไปพร้อมๆ กันค่ะ ไปดูกันเลย!

มาดูกันที่สกินแคร์ตัวแรก ในขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า สาว Lee Su-hyun จะใช้เป็น Nivea Micellar Wate สำหรับการคลีนผิว ซึ่งเธอบอกว่า ในวันที่เธอแต่งหน้าหนักๆ ต้องเช็ดทั้งเมคอัพตาและปาก เธอจะเลือกใช้เป็น Nivea Micellair Expert Micellar Wate ซึ่งตัวนี้เป็นสูตรพิเศษ ที่ใช้สำหรับเช็ดพวกเมคอัพติดทนและกันน้ำ สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด แม้ซิลิโคนตกค้างจากเครื่องสำอางที่มองไม่เห็น ทั้งยังไม่ทิ้งคราบมันและสิ่งตกค้างไว้บนผิวหน้าด้วย เขาอุดมไปด้วยสารสกัดแบล็กที ที่จะช่วยลดการเกิดริ้วรอยจากแสงแดด และเพิ่มความสดชื่นให้แก่ผิว พร้อมบำรุงผิวรอบดวงตา ทั้งยังมีสารสกัดบิลเบอร์รี ที่ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น นอกจากเช็ดเมคอัพได้หมดจดแล้ว ยังไม่ทำให้ดวงตาระคายเคือง แถมบำรุงไปได้ในตัวอีก ปังมาก!

ทั้งนี้ เธอยังบอกอีกว่า วันไหนที่เธอทำงานหนัก หรือวันไหนที่ผิวต้องเจอกับสิ่งเร้ามากๆ ผิวเธอจะค่อนข้างอ่อนแอ เธอก็จะใช้เป็น Nivea Micellair Skin Breathe Micellar Water For Sensitive Skin แทน เช่นวันที่เธอไม่แต่งหน้าเลย ก็จะใช้ตัวนี้เช็ดทำความสะอาดผิวเช่นกัน ซึ่งตัวนี้ เป็นสูตรอ่อนโยน แต่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก เช็ดได้ทั่วทั้งหน้าเลย แม้แต่เมคอัพตาและปาก ก็สามารถคลีนออกได้อย่างหมดจด โดยไม่ทิ้งสิ่งตกค้างไว้บนผิว ทั้งเขายังมีส่วนช่วยปลอบประโลมผิว และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของเราอีกด้วย หลังเช็ดเสร็จ ผิวไม้แห้งตึง แต่กลับสัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้น อ่อนนุ่ม จริงๆ เช็ดเสร็จแล้ว สามารถใช้ชีวิตต่อได้เลย ไม่จำเป็นต้องล้างออกก็ได้ ที่สำคัญคือ เขาปราศจากน้ำหอมด้วย สาวผิวแพ้ง่ายใช้แล้วแฮปปี้!

หลังจากทำความสะอาดผิวเสร็จแล้ว ก็ล้างหน้าตามปกติ จากนั้นก็เช็ดผิวอีกครั้งด้วย Cleaderm Dr. Lacto SOS Calming Toner ตัวนี้เป็นโทนเนอร์ที่จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนผิวและน้ำมันส่วนเกิน พร้อมปรับสีผิวให้แลดูกระจ่างใส ทั้งยังมีส่วนช่วยผลัดเซลล์อย่างอ่อนโยนอีกด้วย ซี่งเขาประกอบไปด้วย Lacto-7 Barrier ™ และ Centella Asiatica Extract ที่จะมาช่วยปลอบประโลมผิวบอบบางและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังมี ANTIOXELL ™ ที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย ด้วยคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ทั้งยังอ่นโยนด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งโทนเนอร์น่าตำ ที่อยากให้ลองไปตำมาใช้กันดู

ตัวนี้เป็นดับเบิ้ลเซรั่ม ที่มาพร้อมกับเนื้อสัมผัส 2 อย่าง เป็นเซรั่มกับน้ำมัน ก่อนจะใช้ ให้เขย่าขวดก่อน ซึ่งเขาอุดมไปด้วยสารสกัดจาก เห็ดทรัฟเฟิลขาว โทโคฟีรอล สารสกัดจาก Royal Jelly และสารสกัดจากพรอพโพลิส ที่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งก็จะช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง และมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้ ตัวชั้นที่เป็นน้ำมันของเขาอะ จะอุดมไปด้วยส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ 10 ชนิดที่ไม่ระคายเคืองผิว และส่วนผสมจากธรรมชาติอีก 31 ที่จะมาช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เรียบเนียน ผิวแลดูเปล่งประกาย สุขภาพดี ริ้วรอยแลดูลดเลือนลงด้วยนะ ที่สำคัญคือ เขาผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ระคายเคืองผิว เพราะงั้นคนผิวแพ้ง่าย ใช้ได้แน่นอนค่ะ

ถัดมาที่ครีมบำรุงผิวกันบ้าง เธอจะใช้เป็นของ Kiehl's ตัวนี้ถือว่าเป็นครีมบำรุงผิวในตำนานเลยก็ว่าได้ เขามาพร้อมกับคุณสมบัติโดดเด่นที่เนื้อครีมบางเบา ไม่หนักหน้า ซึ่งเขาอุดมไปด้วยสารสกัดที่จะมาช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว โดยไม่ทำให้ผิวหน้ามันวาว แม้ในช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็นจัด ความชุ่มชื่นในอากาศน้อย ผิวหน้าก็ยังคงเนียนนุ่ม ไม่แห้งตึงหรือเป็นเป็นขุย ทั้งนี้ยังมีส่วนช่วยให้ผิวรู้สึกสบายและยังช่วยปรับสมดุลผิว ให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานขึ้น ที่สำคัญคือ ปราศจากส่วนประกอบของพาราเบน คาร์บาไมด์ และที. อี. เอ T.E.A. เป็นมิตรต่อผิวมากๆ คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้แน่นอน