บางครั้งต่อให้สาวๆ จะไม่ได้รู้สึกเศร้าใจ หดหู่ใจ หรือไม่พอใจกับเรื่องไหน แต่ถ้าเธออยู่ใกล้กับคนที่มีทัศนคติแง่ลบ วันๆ เอาแต่คิดไม่ดีกับคนอื่น หรือคำพูดแต่ละคำที่เอ่ยออกมาจากปากไม่เคยมีเรื่องดีๆ เลยสักครั้ง คนเหล่านั้นก็อาจส่งผลกระทบต่อความสุขของเธอได้แบบไม่ทันรู้ตัวเลยนะ เราเลยอยากแนะนำให้ใครก็ตามที่อยากมีความสุขกับชีวิตเพิ่มขึ้นอีกสักนิดว่า เธอควรรีบเฟดตัวออกห่างจาก ‘ คนที่เป็นพิษ ’ หรือ ‘ Toxic People ’ ทั้งหลายเหล่านั้น แล้วพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางคนที่มีทัศนคติที่ดี หรือมีออร่าแห่งความสุขกระจายรอบตัวแทน เธอจะได้ซึมซับพลังเชิงบวกหรือสิ่งดีๆ จากพวกเขาด้วยไงล่ะ

ลองจินตนาการว่า ‘ ความทุกข์ ’ เป็นก้อนหินดูสิคะ ถ้าเธอเก็บมันใส่กระเป๋าแบกขึ้นบ่าไปเรื่อยๆ มันก็จะทำให้เธอทั้งเหนื่อยล้าและหมดแรง จนแทบจะเดินหน้าต่อไปไม่ไหว ซึ่งทางออกเดียวที่ทำได้ก็คือการโยนความทุกข์เหล่านั้นออกไปจากใจนั่นเองค่ะ ซึ่งเราก็เข้าใจดีเลยนะว่าสำหรับบางคนการปล่อยวางไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะอดีตที่ฝังใจหรือกระทบจิตใจมากๆ แต่ขอให้เธอคิดไว้เสมอเลยนะว่าการปล่อยวางเรื่องแย่ๆ บางอย่างไป มันก็เหมือนเป็นการเปิดทางให้สิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่าเข้ามาแทนที่ แถมยังช่วยทำให้ตัวเธอเองรู้สึกสบายใจและมีความสุขในชีวิตมากขึ้นอีกต่างหาก

ขอให้รู้ไว้เลยนะคะว่าร่างกายและจิตใจของคนเรามันเชื่อมโยงกัน ถ้าสาวๆ อยากจะมีความสุข จิตใจเบิกบานแจ่มใส นิสัยอย่างหนึ่งที่จะละเลยไปไม่ได้เลยก็คือการหมั่นใส่ใจดูแลตัวเองเป็นอย่างดีค่ะ อย่างเช่นการเลือกกินอาหารดีมีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การนอนหลับอย่างเต็มอิ่ม หรือการได้พักผ่อนหย่อนใจไปกับสิ่งที่ตัวเองชอบ ก็ถือเป็นการดูแลตัวเองให้สุขกายสบายใจได้ทั้งเลยนะ สาวคนไหนที่ดูแลตัวเองดีก็จะสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่า พวกเธอเหล่านี้ดูแฮปปี้และเบิกบานอยู่ตลอดเวลา แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองก็จะเจ็บป่วยง่าย จนส่งผลให้จิตใจอ่อนแอตามไปได้ด้วยนะเออ