Kiehl’s Calendula Herbal Extract Alcohol-Free Toner โทนเนอร์ตัวดัง ปังสมคำร่ำลือจริงไหม? ต้องมาพิสูจน์กัน!


Kiehl’s แบรนด์นี้หลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างมาก
หรืออาจจะต้องมีคุ้นหูกันบ้างล่ะนัดก็เห็นพี่ ๆ บล็อกเกอร์หลายคนรีวิว บอกว่าตัวนี้ดี
แถมคนรู้จักยังคอนเฟิร์มอีกเสียงว่าดีอีกด้วย เป็นโอกาสดีของนัดที่ได้มีโอกาสได้ลองใช้ตัวนี้ แอบใช้มาสักพักแล้วเหมือนกันเลยขออนุญาต
มาบอกต่อว่าตัวนี้ดีจริงสมคำร่ำลือหรือเปล่า......

Kiehl’s Calendula Herbal Extract Alcohol-Free Toner
โทนเนอร์ สูตรไร้แอลกอฮอล์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในหมู่ลูกค้าคีลส์ตั้งแต่ 1960’s เป็นสูตรอ่อนโยน ซึ่งเป็นโทนเนอร์ที่มีส่วนประกอบที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ
เพื่อการดูแลผิวหน้าโดยเฉพาะ ผ่านการทดสอบทางคลินิก
ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังและทีมนักวิจัย นักเคมีของคีลส์
จึงมั่นใจได้ถึงความอ่อนโยนนุ่มนวลต่อผิว และผลลัพธ์ที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนผสม
ที่มีกลีบดอกคาเลนดูลาที่เก็บด้วยมือเป็นส่วนผสมหลัก
ดอกคาเลนดูลาที่คีลส์นำมาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ปลูกโดยไม่ใช้ยากำจัดศัตรูพืช
จากนั้นจึงนำมาคัดแยกด้วยมือ แล้วผึ่งแดดให้แห้งในที่โล่ง
โดยไม่มีการเพิ่มกระบวนการพิเศษหรือใช้ความร้อนจากแหล่งพลังงานอื่นที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น

ส่วนผสม
Allantoin สกัดได้จากรากสมุนไพรคัมฟรี
สรรพคุณบรรเทาอาการระคายเคือง
Great Burdock ช่วยปรับสภาพผิวที่แห้ง และยังมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการระคายเคือง
และยังช่วยควบคุมระดับการสร้างไขมันให้อยู่ในระดับปกติ
Calendula ช่วยให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง
รักษาผิวแพ้ง่าย และชะลออายุของผิว ทั้งยังช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ กรองเเสง
ลดการอุดตัน และอุดมไปด้วย Lutein

โทนเนอร์ช่วยในเรื่องไหนบ้าง?
- ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
- ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น โดยไม่ทำให้ผิวรู้สึกแห้งตึงหลังใช้
- ปลอบประโลมและฟื้นบำรุงผิว
- คืนความสดชื่น ความมีชีวิตชีวาสู่ผิว
- ลดการระคายเคือง เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
- มอบความชุ่มชื่นเย็นสบายผิว
- รู้สึกผิวผ่อนคลาย

การใช้โทนเนอร์เป็นขั้นตอนแรกสำหรับการเตรียมผิว
เพื่อให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
เห็นรีวิวมาเยอะ ทั้งจากการบอกต่อของกลุ่มเพื่อนที่บอกว่าดี ก่อนใช้นัดเป็นคนผิวผสมที่แพ้ง่าย คือตื่นเช้ามาถ้าแพ้ผดจะขึ้นเต็มหน้าเลยค่ะ แต่จากการศึกษาเพิ่มเติมทางแบรนด์บอกว่าตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวที่มีแนวโน้มแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ เลยไม่รอช้าที่จะลองใช้ค่ะ


วิธีใช้
- หยดโทนเนอร์ลงบนแผ่นสำลี และทาบริเวณผิวหน้า
หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา
- บางทีก็หยดลงบนฝ่ามือแล้วลูบไล้ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ
- หรือวันไหนที่ผิวหน้าดูอ่อนล้า ดูโทรม หรือผดขึ้น นัดจะหยดโทนเนอร์ลงบนสำลีแล้วแปะไว้บริเวณใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วค่อยลงสกินแคร์ตัวอื่นตามปกติ (นาน ๆ ทำ)

ขณะใช้งาน
กลิ่นเหมือนเก๊กฮวยเลย กลิ่นหอมเบา ๆ ผ่อนคลาย สำหรับเราไม่ฉุน ใช้แล้วรู้ว่าเป็นโทนเนอร์ที่อ่อนโยนมาก มีความสดชื่น เนื้อโทนเนอร์ใช้ผิวไม่แห้งตึงหรือทำให้หน้าเยิ้ม ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถลงสกินแคร์ตัวอื่นต่อได้เลยค่ะ

ผลลัพธ์หลังใช้งาน
ผิวหน้าจากที่แห้งลอก ไม่แข็งแรง ดูโทรม ๆ ( ยอมรับว่าช่วงนี้ไม่ค่อยดูแลตัวเองเลย ใช้สกินแคร์ได้แป๊บ ๆแล้วรู้สึกขี้เกียจทา ใบหน้าเลยดูโทรมไม่หายขาด ) ต้องยอมรับว่าสกินแคร์สำคัญทุกตัวเลยนะ อย่างโทนเนอร์ที่ตอนแรกคิดว่าไม่จำเป็น พอได้ลองใช้อย่างสม่ำเสมอเห็นได้ชัดว่าผิวหน้าดูแข็งแรงขึ้น จากผิวที่ดูขาดน้ำก็รู้สึกอิ่มน้ำ ดูชุ่มชื่นขึ้น ผดลดน้อยลง ผิวไม่ค่อยมี และการแต่งหน้าดูติดทนขึ้น เพราะปกติเป็นคนผิวผสม ครึ่งวันหน้าคือเริ่มเยิ้มแล้ว แต่รู้สึกว่าช่วงนี้หน้ามันน้อยลงด้วยนะ สงสัยไม่ใช่แค่กระแสแล้วแหละต้องยอมรับว่าของเค้าดีจริง ๆ ค่ะ

สรุปสั้น ๆ นะคะว่า ดีจริงสมคำร่ำลือค่ะ
นัดก็มัวแต่ลังเลไม่ได้ลองสักที จนแอบรู้สึกว่าพลาดมากที่เพิ่งได้ลองใช้
คือดีแบบไม่ต้องรีวิวเยอะ คุณภาพเค้าดีจริง ๆ สมราคาเค้าเลยค่ะ
แล้วขวดหนึ่งใช้ได้นานด้วยนะ คุ้มค่ามากค่ะ ใครที่ลังเล ไม่ต้องลังเลแล้วค่ะ
ต้องรีบจัดเดี๋ยวคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง!!!

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความงาม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe