อดทนให้เจ้าห่วงยางที่เอว เหนียงที่คาง ไขมันส่วนเกินตามต้นแขนต้นขาเกาะติดตามตัว บดบังความสวยมานานแสนนาน ขอฮึดลดน้ำหนักกับเขาบ้าง *-* มาเบิร์นรัวๆ กันโลดดดดดด

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. อยู่ให้ห่าง 'ที่ชั่งน้ำหนัก'
2. 'ค่อยๆ' ลดปริมาณแคลอรี่ต่อวัน
3. กำหนดให้ 'จำนวนแคลอรี่' ไม่เท่ากันในแต่ละวัน
4. ออกกำลังกายด้วยการ 'เวทเทรนนิ่ง'
5. ออกกำลังกายด้วยวิธี 'HIIT' ( High-Intensity Intervals )
ุ6. กิน 'ไขมัน' ให้มากขึ้น
7. ลดปริมาณ 'คาร์โบไฮเดรต'
8. เพิ่มอาหารประเภท 'โปรตีน'
9. กิน 6 มื้อย่อยๆ / วัน ( ไม่ใช่มื้อหนัก 2 มื้อ! )
บทความที่เกี่ยวข้อง
พูดถึง " ไขมัน " เชื่อว่าหลายคนร้องยี้ด้วยความกลัว! นึกถึงร่างกายตัวเองที่มีทั้งห่วงยางที่ต้นแขน ต้นขา เหนียงที่คางแล้วรู้สึกสยองขวัญรัวๆ T^T เผลอกินเพลินไปหน่อย หุ่นที่สวยงามก็เริ่มบวม ถ้าเพื่อนไม่ทักอีกไม่นานอาจจะเป็นบอลลูน กลิ้งแทนเดินกันเลยทีเดียว ฮือ เศร้าใจหนักมาก ไม่ได้การ ต้องรีบสลายไขมันด่วน!!!
วิธีไดเอทในบทความนี้ก็ยังคงยึดหลัก 'ควบคุมอาหาร + ออกกำลังกาย' เหมือนสากลโลกทั่วไป แต่ที่เพิ่มเติมคือทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วย 'ซิกแซก' การลดน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่มีคำว่า 'ทำไมลดไม่ลง' แน่นอน
มาเผาไขมันให้สลาย หลอมละลายเหมือนเนยร้อนๆ ทวงคืนหุ่นสวยกันเถอะ เริ่ม!
1. อยู่ให้ห่าง 'ที่ชั่งน้ำหนัก'
อย่าให้ตาชั่งทำให้เธอหงุดหงิด! เธออาจจะใช้ตัวเลขน้ำหนักคร่าวๆ เป็นแนวทางได้ แต่อย่ายึดติดกับมันมาก ยึดรูปร่างที่เห็นในกระจกแทนจะดีกว่า ถ้าเสื้อผ้าหลวมลง ตัวเบาขึ้น มีความสุขมากขึ้นก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะ
2. 'ค่อยๆ' ลดปริมาณแคลอรี่ต่อวัน
สาวๆ บางคนเมื่อคิดจะไดเอท ก็ตัดสินใจทำการ 'อดอาหาร' ทันที หรือจำกัดแคลอรี่ให้เหลือน้อยมากๆ เช่น 300 หรือ 500 แคลอรี่ กินแต่ผักทั้งวัน หรือกินแค่มื้อเดียว ในที่สุดก็ลงเอยด้วยการตบะแตก กินรัวๆ จนอ้วนกว่าเดิม พออ้วนก็อดอีก วนลูปไปเรื่อยๆ อย่างนี้แล~
ในทางกลับกัน ถ้าเธอมีความอดทนสูง ยอมกินอาหารปริมาณน้อยๆ เป็นระยะเวลานาน ร่างกายจะเข้าสู่โหมดจำศีล ( starvation mode ) ระบบเผาผลาญลดต่ำลง ทำให้สลายไขมันได้ยากขึ้น
เพื่อให้ระบบเผาผลาญยังคงเป็นปกติ ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ ค่อยๆ ลดจำนวนแคลอรี่ต่อวันลงทีละนิด เว้นระยะห่างทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายชินและปรับตัวได้ค่ะ
3. กำหนดให้ 'จำนวนแคลอรี่' ไม่เท่ากันในแต่ละวัน
นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วย 'หลอก' ระบบร่างกายให้เผาผลาญไขมันอย่างต่อเนื่อง ไม่ทำให้ระบบเมตาบอลิซึ่มลดต่ำลง กำหนดจำนวนแคลอรี่ต่อวันให้หลากหลาย อย่ากินอาหารที่ให้พลังงานเท่าเดิมซ้ำๆ กันทุกวันเด็ดขาด!
คุณหมอท่านหนึ่งกล่าวว่า ร่างกายของเราถูกออกแบบมาให้กักเก็บพลังงานไว้ให้มากที่สุด เพื่อใช้ยามขาดแคลน ระบบเมตาบอลิซึ่มของเราจึงขึ้นอยู่กับจำนวนพลังงานที่รับเข้าร่างกาย ถ้ากินอาหารทุกวันเหมือนๆ กัน ( เช่น เช้าโยเกิร์ต เที่ยงสเต๊ก เย็นสลัด ) จะทำให้ระบบเผาผลาญลดต่ำลง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเผาไขมันมากเกินไป
ดังนั้นจงเลือกกินอาหารแบบหลากหลาย มากบ้างน้อยบ้าง แต่ยังอยู่ในกรอบของพลังงานที่เหมาะสมเพื่อการไดเอทก็พอค่ะ
4. ออกกำลังกายด้วยการ 'เวทเทรนนิ่ง'
แม้เธอไม่ใช่คนอ้วน แค่อยากลดเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย เธอก็ต้องเล่นเวทอยู่ดี เพราะทำให้ร่างกายไม่สูญเสียกล้ามเนื้อที่มีอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ถ้าร่างกายเธอมีแต่ไขมัน สังเกตได้ที่ผิวหนัง จะนิ่มๆ ย้วยๆ แม้ทั้งตัวจะดูผอม ( skinny-fat )
5. ออกกำลังกายด้วยวิธี 'HIIT' ( High-Intensity Intervals )
HIIT คือการออกกำลังกายอย่างเข้มข้น หยุดพัก แล้วออกกำลังอีกครั้งสลับกันเป็นช่วงๆ ทำให้หัวใจเต้นเร็วและเผาผลาญไขมันได้เยอะในระยะเวลาสั้นๆ ( แต่ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ อาจเกิดอาการช็อก / หัวใจล้มเหลวระหว่างออกกำลังกายได้ )
การออกกำลังกายที่อยากแนะนำคือ 'กระโดดเชือก' หลังจากวอร์มร่างกายแล้ว ให้เธอกระโดดเชือกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นเวลา 10- 20 วินาที แล้วผ่อนลง ทำต่ออีก 30 วินาที ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าร่างกายจะไม่ไหว เท่านี้ก็เผาผลาญไขมันได้เยอะสุดๆ
ทั้้งนี้ทั้งนั้น กระโดดเชือกต้องใช้ข้อเท้าเยอะ จึงไม่เหมาะกับคนอ้วนมากๆ หรือขาไม่แข็งแรง ถ้ากลัวขาเจ็บ แนะนำเป็นคาร์ดิโอที่ความเข้มข้นน้อย-ปานกลางจะดีกว่า
ุ6. กิน 'ไขมัน' ให้มากขึ้น
ไขมันดี คือไขมันไม่อิ่มตัว ( โดยเฉพาะโอเมก้า 3 ) เช่นอาหารประเภทปลาและถั่ว เนยถั่ว น้ำมันมะกอก ไข่แดงและน้ำมันปลาค่ะ

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดสุขภาพ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe