Fluent in Deutsch! 7 เคล็ดลับเรียน 'ภาษาเยอรมัน' ให้เก่งอย่างรวดเร็ว ไม่ดำน้ำ แถมใช้งานได้จริง ♡

PAGE 2/2
» »
อยากเก่งภาษา ก็ต้องทำสภาพแวดล้อมทุกอย่างให้เหมือนอยู่ในประเทศที่ใช้ภาษานั้นๆ นี่คือเรื่องจริง! แม้ตอนนี้จะติดสถานการณ์โควิด ยังบินไปเยอรมันทันทีไม่ได้ แต่เราสามารถเซตสิ่งต่างๆ รอบตัวเราให้เป็นภาษาเยอรมันได้ เช่น ช่วงเรียนพื้นฐานแรกๆ ก็ทำบัตรคำท่องจำ แปะคำที่ใช้บ่อยในห้องน้ำ ห้องนอน พอเริ่มรู้ศัพท์เยอะขึ้น ก็เปลี่ยนเมนูภาษาในมือถือ คอมพิวเตอร์เป็นภาษาเยอรมัน ฟังเพลงเยอรมัน ดูคลิป ดูหนังพากย์เยอรมันซับอังกฤษ ถ้าเลเวลเก่งขึ้นแล้วก็เปลี่ยนจากซับอังกฤษเป็นซับเยอรมัน เป็นต้นค่ะ

ต้องขอบคุณปี 2021 เพราะยุคนี้มีเทคโนโลยีโซเชียลเน็ตเวิร์ก อินเทอร์เน็ตให้เข้าถึงภาษาเยอะมาก ที่สำคัญคือฟรี! เธอจะไปหาเพื่อนต่างชาติในแอป ในเว็บไซต์เพื่อนทางอีเมล์ก็ดี หรือจะแค่เลื่อนหาคลิปยูทูปที่พูดภาษาเยอรมันก็ได้ ไม่เสียเงินสักบาท ( นอกจากค่าไฟกับค่าเน็ต ) ช่วงแรกๆ ที่แกรมมาร์ยังไม่เป๊ะ ให้ดูคลิปแบบที่มีซับไตเติ้ลภาษาเยอรมันขึ้นด้วย หมายถึง ในคลิปพูดเยอรมัน และมีซับเยอรมันให้เราเช็กด้วยว่า ทักษะฟังของเราตรงกับประโยคที่เขาพูดจริงๆ รึเปล่า ถ้าแก่กล้าวิชาแล้ว ก็ลองฝึกฟังเพียวๆ ทั้งคลิปในรอบแรก แล้วเปิดซับรอบสองเพื่อรีเช็ก ก็เป็นวิธีที่ดีมาก ได้ทั้งไวยากรณ์และการฟังไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

6. เรียนรู้ 'คำบุพบท' ในภาษาเยอรมัน ผ่านรูปไวยากรณ์

ย้ำรอบที่พันล้านว่า ' ไวยากรณ์ ' นี่แหละเป็นตัวปราบเซียนในการเรียนภาษาเยอรมัน คนมาตกม้าตายไม่สามารถไปถึงระดับสูงได้ก็เพราะ grammatik เนี่ยละค่า #ร้องไห้หนักมาก ซึ่งในไวยากรณ์เองก็ยังแข่งกันว่าใครจะยากเป็นตัวท็อปๆ ซึ่งผู้ที่ได้มงกุฎไปก็คือ ' บุรุษ ' หรือการแยกแยะบุคคล ฉัน เธอ เขา เรา นาย ท่าน นั่นเองค่ะซิสสสส!

ในภาษาเยอรมัน ลำดับของคำในประโยคจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า คำคำนั้นเป็นบุรุษที่เท่าไหร่ เป็นฉัน เป็นเธอ หรือเป็นบุรุษที่สาม จะเป็น a an หรือ the ก็อยู่ที่ว่าคำนั้นเป็นประธาน กรรมตรง ( direct object ) หรือกรรมรอง ( indirect object ) ถ้าคำนามเป็นกรรมของบุพบท ก็จะเปลี่ยนบุรุษของคำนามไปด้วย ซึ่งคำบุพบทแต่ละคำก็จะใช้กฎแตกต่างกันออกไป ดังนั้นการจำบุรุษและบุพบทควบคู่กันไปเลย จึงช่วยประหยัดเวลาและชัวร์ว่าใช้ไวยากรณ์ได้ถูกต้อง พูดแล้วเข้าใจแน่นอน คำกริยาที่คำนามตามหลังเป็นกรรมตรง มีดังนี้

für ( เพื่อ ), gegen ( เพื่อ ), um ( ประมาณ ), durch ( กระทั่ง ), ohne ( โดยไม่มี ), bis ( จนกระทั่ง )

ส่วนบุพบทที่คำนามตามหลังเป็นกรรมรอง มีดังนี้

nach ( หลัง ), seit ( ตั้งแต่ ), aus ( จาก ), bei ( ที่ ), zu ( ถึง,ที่ ), von ( จาก ), mit ( กับ ), außer ( ยกเว้น, นอกเหนือจาก )

บุพบทบางคำใช้ได้ทั้งเป็นกรรมตรงและกรรมรอง แล้วแต่บริบท

ตัวอย่างประโยคเช่น ich gehe in den Laden ( ฉันไปร้านค้า ) กริยา gehen ( ไป ) บ่งชี้ว่ามีการสลับตำแหน่งในประโยค ดังนั้นคำนามที่ตามหลังบุพบทจะต้องเป็นกรรมตรง คำที่ต่อมาจึงผันเป็น den  แปลว่าฉันไปร้านค่ะ

ส่วนประโยค ich bin in dem Laden ( ฉันอยู่ในร้านค้า ) คำว่า bin บ่งชี้ว่าไม่มีการเปลี่ยนในตำแหน่งของประโยค ดังนั้น laden ก็จะเป็นกรรมรอง จึงผันเป็น dem แปลว่าฉันอยู่ในร้านค่ะ

7. ฝึกท่องคำนาม และเพศนำหน้าคำนาม ไปในเวลาเดียวกัน

แม้จะเป็นข้อสุดท้าย แต่ก็เรียกว่าเป็นโจทย์หินของผู้เรียนภาษาเยอรมันมากมาย นั่นคือ ' คำนาม และเพศนำหน้านาม ' นั่นเองค่ะ! ภาษาไทยกับอังกฤษไม่มีคำบอกเพศ, ภาษาฝรั่งเศสมีสองเพศ คือเพศชายกับเพศหญิง แต่ภาษาเยอรมันล้ำกว่านั้นจ้า มีสามเพศไปเลยเก๋ๆ! เพศชาย,เพศหญิง และเพศกลาง โดยนามชี้เฉพาะคือ der, die และ das ส่วนนามไม่ชี้เฉพาะคือ ein, eine และ ein ค่ะ

บอกตรงนี้เลยว่า ไม่ต้องถามหาหลักเหตุผลว่าคำนามนี้ ทำไมถึงใช้คำนำหน้าเพศนี้ เพราะไม่มีตรรกะที่ชัดเจนแต่อย่างใด เน้นความจำล้วนๆ แม้จะมีหลักที่พอแยกได้อยู่บ้าง ก็จะมีคำที่เป็นข้อยกเว้นอยู่ดี เช่น der mann ( ผู้ชาย ) die frau ( ผู้หญิง ) อันนี้เข้าใจได้เพราะเพศกับคำนามตรงกัน แต่ der junge ( เด็กชาย ) กับ das Mädchen ( เด็กหญิง ) อันนี้จะงง เพราะเด็กชายตรงตามเพศ แต่เด็กหญิงเป็นเพศกลาง!? ถ้าไม่อยากสับสน แนะนำว่าอย่าผูกติดความหมายของคำกับเพศนำหน้า ให้จำๆ มันไปว่าอันนี้ใช้กับอันนี้ รวบตึงเป็นก้อนเดียวกันไปเลย จบ!

ถ้าต้องการแยกกลุ่มคำตามเพศ แนะนำให้ทำบัตรคำ ( flash card ) โดยใช้สีบัตรแยกกัน เช่น สีเขียวคือคำเพศชาย แดงคือเพศหญิง และน้ำเงินคือเพศกลาง เป็นต้น แล้วเขียนคำนามที่จะท่องในสีบัตรตามเพศ สมองจะจดจำสีได้ดีกว่าตัวอักษร และทำให้เราจำคำศัพท์นั้นได้เร็วกว่า ลองไปฝึกทำกันดูนะคะ


-----------------------------------------
หากเธอกำลังสนใจจะเรียนภาษาเยอรมันและอ่านมาได้ถึงตรงนี้ ขอปรบมือให้เลยดังๆ เธอสอบผ่านขั้นแรกของการเรียนแล้ว! อย่างที่เห็นว่าภาษานี้ค่อนข้างยุ่งยาก ซับซ้อน ต้องอาศัยความจำ ความขยันท่อง และการฝึกนำไปใช้บ่อยๆ พอสมควร ถ้าเรียนแบบไม่ตั้งใจไปวันๆ หลายปีก็อาจจะยังไม่คล่อง เพราะมันยาก และต้องใช้ความพยายามสุดๆ !

แต่ถ้าเธอมีแพชชั่นกับการไปเรียนต่อประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน อยากให้มองว่าความยากของมันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง การได้เรียนรู้ไวยากรณ์และการแยกคำในประโยค จะทำให้เราเข้าใจวัฒนธรรมและนิสัยที่ทำตามกฎระเบียบของชาวเยอรมันได้มากขึ้น ยังไงเราก็เชื่อว่า ไม่มีภาษาไหนที่ยากเกินสาวๆ ซิสของเราจะเรียนรู้ได้ คนเยอรมันก็เป็นมนุษย์เหมือนเรา เขายังพูดได้ เราก็ต้องพูดได้เหมือนกัน ขอให้โชคดีค่ะ แล้วพบกันใหม่
Auf Wiedersehen!!

กิจกรรม SistaCafe