

#กินจุบจิบยังไงให้เอวเอส? 7 ' นิสัยเลือกของกินเล่น สไตล์คนหุ่นดี ' อิ่มทั้งวันแต่ผอมลง ลดได้สูงสุด 5 กิโล!
เหงาปาก กินจุ๊บกินจิ๊บไปเรื่อย แต่ทำแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะอ้วนเสมอไปนาจา ถ้าเลือกของกินเล่นให้เป็น ยิ่งกินยิ่งผอม เอ้า ไม่เชื่อ งั้นก็พิสูจน์ด้วยการทำตาม 7 นิสัยกินจุบจิบ ( แบบสุขภาพดี ) ในบทความนี้กันเลย!

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. เลือกของกินเล่นที่มี ' โปรตีน ' เป็นส่วนประกอบหลัก
2. แพ็กอาหารใส่กล่อง / ถุงมาจากบ้าน แทนที่จะแวะซื้อตามร้านมินิมาร์ท
3. ถ้ารู้ตัวว่ากินจุบจิบบ่อย เลือกของกินเล่นที่ ' แคลอรีต่ำที่สุด ' ไว้ก่อน
4. เลือกอาหารที่ ' ปรุงแต่งน้อยที่สุด ' ถ้ากินดิบ กินสดได้ ยิ่งควรกิน!
5. ถ้าหิวไม่รู้สาเหตุ บางทีแค่ ' ดื่มน้ำเปล่า ' ก็อิ่มได้แล้วนะ
6. พยายามอย่า ' เคี้ยวไป ทำอย่างอื่นไป ' จะยิ่งเพลิน กินเกินจำเป็น
7. อย่าพยายาม ' หาขนมใส่ปาก ' เพียงเพราะสุข เศร้า เหงา โกรธ
สวัสดีค่าา สาวๆ SistaCafe ที่ชอบ ' กินจุ๊บกินจิ๊บ ' ทั้งหลาย!
ก็รู้นะว่าหุ่นอวบแล้ว น้ำหนักพุ่ง ห่วงยางเริ่มมา เอวก็ขยายจนเสื้อผ้าตัวเดิมจะใส่ไม่ได้ละ แต่ทำไงได้ ก็เมืองไทยของกินอร่อยมันเยอะ แก้นิสัยตามใจปากยากจริงๆ มีให้สั่งกินได้ 24 ชั่วโมง แค่เข้าแอปก็มีทุกอย่างให้เลือก หรือจะเดินไปร้านสะดวกซื้อ ตลาดหน้าปากซอยก็มีของกินเป็นสิบๆ จะให้เดินมองน้ำลายไหลแล้วกลับมานอนท้องร้องโอดโอยที่บ้านก็คงไม่ไหว ทรมานเกิน TT แต่ถ้าปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไป ได้เดบิวต์จากหมูน้อยเป็นหมูยักษ์แน่ๆ ทำไงดี??
ก่อนอื่นต้องหยุดความเชื่อที่ว่า ' กินหลายมื้อแล้วจะอ้วน ' ซะก่อน เพราะมันไม่จริง! การที่คนคนหนึ่งจะอ้วนขึ้น หลักๆ ไม่ได้อยู่ที่กินกี่มื้อ กินกี่โมง แต่อยู่ที่ว่ากินอะไรเข้าไปมากกว่า! ถึงกิน 5-6 มื้อต่อวัน ( ที่คนทั่วไปคงเรียกว่ากินไม่หยุดปาก ) แต่เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ กระตุ้นการเผาผลาญ เผลอๆ ยิ่งกินยิ่งผอมด้วยซ้ำ ในบทความนี้เราเลยมาชวนสาวๆ กินเก่งทุกคนมาปรับการกินตาม ' 7 นิสัยเลือกของกินเล่น สไตล์คนหุ่นดี ' ที่กินทั้งวันแต่ดันผอมลง ถ้ามีวินัยอาจลดได้สูงสุดถึง 5 กิโลกรัมเลยทีเดียว =w= จะต้องเริ่มจากตรงไหนบ้างเรามาดูกันค่ะ
1. เลือกของกินเล่นที่มี ' โปรตีน ' เป็นส่วนประกอบหลัก
แทนที่จะซัดแต่แป้งให้ตัวบวม ตัวหนาไปกว่านี้ เราขอแนะนำให้เธอเปลี่ยนไปกินอาหารที่มี ' โปรตีนสูง ' แทน ในที่นี้ก็ไม่ใช่ว่าวิ่งฝ่าไปสั่งไก่ทอด หมูทอดนะ แต่ต้องเป็นโปรตีนแบบเพียวที่มาจากธรรมชาติ ผ่านการปรุงแต่งให้น้อยที่สุด ไม่โรยผงเครื่องปรุง ไม่ใส่น้ำจิ้ม เพื่อป้องกันแคลอรี่แอบแฝง เช่น อกไก่ไร้หนัง, ปลานึ่ง, กรีกโยเกิร์ต, คอตเตจชีส หรือง่ายสุดเลยก็คือไข่ต้ม ไม่เหยาะซีอิ๊วหรือซอสใดๆ ช่วงแรกอาจจะรู้สึกฝืดคอ ฝืดลิ้นบ้างเพราะยังไม่เคยชิน แต่สักพักเธอจะรู้ซึ้งว่า อาหารปกติที่เธอเคยกินมา รสชาติมันเค็มปี๋ เปรี้ยวจี๊ด มันย่อง แคลอรีสูงมากๆ จนมองย้อนกลับมายังงงว่า ฉันกินเข้าไปได้ยังไงมากมายขนาดนี้?
2. แพ็กอาหารใส่กล่อง / ถุงมาจากบ้าน แทนที่จะแวะซื้อตามร้านมินิมาร์ท
อยู่ในช่วงคุมน้ำหนัก ควรตัดปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ออกไปให้มากที่สุด ข้อแรกเลยก็คืออาหารที่ซื้อเขากินข้างนอกนี่แหละ ใส่อะไรลงไปบ้างก็ไม่รู้ ถ้าเราคิดว่าขนมชิ้นนี้ 100 แคล แต่ที่จริง 500 แคลล่ะจะทำยังไง แพลนรวนไปหมด ไม่ดีต่อการลดน้ำหนักในระยะยาวแน่ๆ ดังนั้นฝึกนิสัยซื้อของสดจากซูเปอร์ แล้วมาทำอาหารกินเองที่บ้านดีกว่า ทั้งประหยัดและคุมคุณภาพของวัตถุดิบได้ 100% แม้จะทำครัวไม่เป็น แค่ประกอบร่างแซนด์วิช ขนมปังกับแฮม ราดซอสนิดหน่อย, หุงข่าวใส่ไข่ต้ม, โยเกิร์ตกับขนมปังปิ้งทาแยม ก็ยังคุมแคลอรีได้ดีกว่าซื้อเขากินแน่นอนค่ะ
3. ถ้ารู้ตัวว่ากินจุบจิบบ่อย เลือกของกินเล่นที่ ' แคลอรีต่ำที่สุด ' ไว้ก่อน
ต้องยอมรับว่ามันจะไม่ฟินเท่ากินชานมไข่มุกหวานเน้นๆ หรือเค้กช็อกโกแลตเนื้อแน่นๆ อยู่แล้วละนะ แต่ถ้ากินขนมพลังงานต่ำ มันสามารถกินในปริมาณที่เยอะกว่ามากๆ เพื่อให้ท้องอิ่ม เช่น กินเค้กชิ้นเดียวก็หมดโควต้าแล้ว แต่ถ้ากินโยเกิร์ตน้ำตาลน้อย จะกินได้ 3-4 ถ้วยในจำนวนแคลอรีที่เท่ากัน หรือถ้ากินบุกหญ้าหวาน ก็จะกินได้ 10-20 ถุง ( ถ้ากินไหว ไม่ท้องแตกไปซะก่อน ) ก็ถือเป็นหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ในการลดน้ำหนักแบบไม่ทรมานค่ะ
.
4. เลือกอาหารที่ ' ปรุงแต่งน้อยที่สุด ' ถ้ากินดิบ กินสดได้ ยิ่งควรกิน!
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ เราจึงแนะนำให้สาวๆ เลือกเป็นของกินที่มาจากธรรมชาติให้มากที่สุด หรือเรียกง่ายๆ ก็คือเป็น ' ของดิบ / ของสด ' ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปใดๆ มาเลย ข้อดีคือไม่มีพลังงานส่วนเกินแอบแฝง และในบางชนิดเช่นผักผลไม้สด ถั่ว ธัญพืชไม่โรยเกลือ ไม่เคลือบน้ำเชื่อม หากกินสดก็จะมีคุณค่าทางอาหาร แร่ธาตุและวิตามินที่ครบถ้วนมากกว่า
5. ถ้าหิวไม่รู้สาเหตุ บางทีแค่ ' ดื่มน้ำเปล่า ' ก็อิ่มได้แล้วนะ
ถ้าจะไดเอทอย่างจริงจัง หากแน่ใจว่ากินมื้อหลักอย่างพอดีแล้ว แต่กลับมีอาการอยากขนม ปากอยากเคี้ยว ให้ดื่มน้ำเปล่าลงท้องไปก่อนเลย 1-2 แก้ว แล้วสังเกตตัวเองอีกทีว่ายังหิวอยู่หรือเปล่า ถ้าอิ่มก็แปลว่าหิวน้ำจริงๆ แต่ถ้ายังโหยไม่หยุด เป็นไปได้ว่าวันนั้นร่างกายต้องการพลังงานเพิ่ม แนะนำให้กินอาหารเน้นโปรตีนเพื่อดับหิวให้เร็วที่สุด เช่น ไข่ต้ม โยเกิร์ต ถั่ว ชีส เต้าหู้ ข้าวโอ๊ต อัลมอนด์ เป็นต้นค่ะ
6. พยายามอย่า ' เคี้ยวไป ทำอย่างอื่นไป ' จะยิ่งเพลิน กินเกินจำเป็น

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดสุขภาพ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe