ความงาม

#สวยฉ่ำมงสู้แดด! 7 ทริคเมคอัพ ' กันน้ำกันเหงื่อ ช่วงซัมเมอร์ ' Makeup Artist คอนเฟิร์ม หน้าไม่เยิ้มชัวร์

แม้ไทยแลนด์จะขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อนระอุ เหงื่อชุ่มอยู่แล้ว แต่ในช่วงซัมเมอร์ ที่ว่าร้อนๆ น่ะทีเซอร์ มันยังร้อน เมือก เยิ้มกว่านี้ได้อีกจ้า! สายเมคอัพทั้งหลาย ถ้าไม่อยากหน้าเป็นเค้กหลอมละลายกลางแดด ก็มาเก็บทริคแต่งหน้าที่นี่ด่วน!!!

Home » ความงาม » หน้าร้อน - วิธีดูแลผิวหน้า - วิธีการแต่งหน้า » หน้ามัน - ทริคแต่งหน้า » #สวยฉ่ำมงสู้แดด! 7 ทริคเมคอัพ ' กันน้ำกันเหงื่อ ช่วงซัมเมอร์ ' Makeup Artist คอนเฟิร์ม หน้าไม่เยิ้มชัวร์

เลือกอ่านตามหัวข้อ

[แสดง]

[ซ่อน]

1. เริ่มต้นด้วย ' มอยส์เจอไรเซอร์ ' ให้ถูกประเภท
2. ' ครีมกันแดด ' เป็นไอเทม A Must ในหน้าร้อนนี้! ( ที่จริงก็ควรทาทั้งปี )
3. ใช้ ' ไพรเมอร์ ' เตรียมผิวให้เรียบเนียน เมคอัพติดแน่นกว่าเดิม
4. เลี่ยงเมคอัพทุกชนิดที่มีเนื้อสัมผัส ' มันวาวๆ เลื่อมๆ เป็นประกาย '
5. เลือกเฉดสีตา แก้ม ปากในโทนสี ' อ่อนๆ เบาๆ ' ไว้ก่อน
6. ใช้ ' อายแชโดว์ไพรเมอร์ ' หรือแป้งฝุ่นโปร่งแสง ก่อนแต่งตาทุกครั้ง
7. ใช้ลิปสติกแบบ ' ทินท์ / Lip Stain ' เท่านั้น ( เนื้อครีม เนื้อกลอส หลบไปก่อน! )

ฮัลโหลค่าา สาวๆ SistaCafe คนน่ารักทุกคนเลย! ＼(￣▽￣)／

ในที่สุดก็เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนกันแล้วนะคะ! ( สาวซิสบางคนอาจจะแอบแย้งในใจว่า ประเทศนี้ไม่ได้มีหน้าร้อนทั้งปีหรอกเหรอ T_T ) อากาศจากที่ร้อนตับแตกอยู่แล้ว ก็ยิ่งทวีความร้อนแบบ #สุดปัง แค่นั่งอยู่เฉยๆ ในที่ร่มด้วยซ้ำ ก็ยังเหงื่อชุ่ม เสื้อเปียกได้ง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงใบหน้า มันเมือก เยิ้มตั้งแต่ออกจากบ้าน 10 นาทีแรกแล้ว.... กระดาษซับมันต้องมา สเปรย์น้ำแร่ต้องมี ถึงไม่อยากผิวดิวอี้ ก็ต้องมีลุคฉ่ำวาวในฤดูนี้กันแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แฮ่

และอย่างที่รู้กันว่า มันคือฤดูของเหงื่อ ความมัน ความชื้น ขั้นตอนการแต่งหน้าก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนสักหน่อย ถ้าแต่งปกติเหมือนช่วงอากาศเย็นชื้นๆ แห้งๆ ลิปกลอส บลัชครีมจัดเต็ม ช่วงเที่ยงๆ บ่ายๆ หน้าได้ละลายเป็นขนมปังสังขยาแน่นอน กรี๊สส ดังนั้นในบทความนี้เราจึงมาแนะนำ ' 7 ทริคเมคอัพ กันน้ำ กันเหงื่อในช่วงซัมเมอร์ ' ให้หน้ายังแน่นตั้งแต่เช้าจรดเย็น ปากไม่ซีด รองพื้นไม่หลุด และทริคเหล่านี้ไม่ได้มโนมาเองเล่นๆ นาจา เพราะ makeup artist เขาคอนเฟิร์มเองเด้อ (°◡°♡) จะมีความรู้อะไรบ้าง ก็เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลย ><

1. เริ่มต้นด้วย ' มอยส์เจอไรเซอร์ ' ให้ถูกประเภท

www.img.in.th

สาวๆ หลายคน โดยเฉพาะมือใหม่หัดแต่งหน้าอาจคิดว่า ' ขั้นตอนแรกก็ต้องลงด้วยรองพื้นสิ! ' แต่ที่จริงแล้ว เมคอัพอาร์ทติสต์ชื่อดังได้บอกไว้ว่า จะแต่งหน้าได้สวยปังอลังเวอร์ เราต้องมีพื้นผิวหน้าที่ชุ่มชื้นเรียบเนียน มีความสมดุลผิว ไม่มันไป ไม่แห้งไปเป็นอันดับแรก จึงจะเริ่มขั้นตอนอื่นๆ ได้ ก็เหมือนการสร้างบ้านหรือปลูกต้นไม้นั่นแหละค่ะ ถ้ายังไม่ลงเสาเข็มให้แน่น หรือใส่ปุ๋ยดีๆ ให้ก่อน ปักบ้านหรือกิ่งชำลงไปโต้งๆ ก็อาจจะพอดูได้ แต่ไม่เพอร์เฟกต์แน่นอน

ดังนั้นขอให้ทุกคนเริ่มต้นด้วยสกินแคร์ ซึ่งควรเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับฤดูร้อน นั่นคือเนื้อเจล และถ้าจะให้ดีต้องเป็นสูตร oil-free หรือไม่มีน้ำมัน เพื่อป้องกันความมันเมือก ฝุ่นควัน มลภาวะ หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่จะมาอุดตันบนใบหน้า อย่างไรก็ตาม หากเธอเป็นสาวผิวแห้งมากหรือกำลังกินยารักษาสิว ที่จะทำให้ผิวแห้งลอกเป็นขุย สามารถผสมกับเนื้อครีมได้แต่ทาเลเยอร์บางๆ หน่อย และรองพื้นที่ใช้ ก็ควรเป็นเนื้อเหลวที่เป็นสูตร oil-free เช่นกัน รับรองว่าหน้าเนียนกริบทั้งวันชัวร์!

2. ' ครีมกันแดด ' เป็นไอเทม A Must ในหน้าร้อนนี้! ( ที่จริงก็ควรทาทั้งปี )

www.img.in.th

เมื่อลงมอยส์เจอไรเซอร์ให้ผิวชุ่มชื้นเรียบร้อยแล้ว อันดับต่อมาก็เป็นคิวของ ' ครีมกันแดด ' ที่ยังไงก็ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะในฤดูร้อน! ( แต่อันที่จริงก็ควรทาทั้งปีนั่นแหละค่ะ ยิ่งเมืองไทยที่แสงแดดตามติดชีวิตเป็นเจ้ากรรมนายเวรขนาดนี้ ) ย้ำว่าต้องทาทุกวัน สาวๆ บางคนต้องแต่งหน้า กลัวว่าทากันแดดแล้วจะอุดตัน เหนียวหนักหน้า บอกเลยว่าไม่ต้องห่วง ยุคนี้มีกันแดดเนื้อเหลวไม่ต่างจากน้ำเปล่าให้ทามากมาย แลกกับที่ผิวไม่ไหม้ ไม่คล้ำเสีย กระฝ้าไม่ขึ้น ยังไงก็คุ้มกว่าไม่ทาอย่างแน่นอน

ตามหลักแล้ว สาวๆ ทุกคนควรทากันแดดซ้ำทุกสองชั่วโมง แต่ถ้าแต่งหน้าทับไปซะแล้วก็อาจจะเติมหน้าลำบาก เราเสนอให้สองทางเลือก คือช้อยส์แรก ซื้อกันแดดแบบสเปรย์หน้ามาใช้ และช้อยส์สอง ใช้ครีมกันแดดผสมในตลับคุชชั่นแล้วนำมาทัชอัพระหว่างวัน ก่อนจะใช้กระดาษซับมันซับส่วนที่มันเยิ้มเกินไปออก ลองเลือกแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองดูนะคะ

3. ใช้ ' ไพรเมอร์ ' เตรียมผิวให้เรียบเนียน เมคอัพติดแน่นกว่าเดิม

www.img.in.th

ไอเทม ' เมคอัพไพรเมอร์ ' เป็น must have ของฝั่งสายฝ. มากมาย แต่น่าแปลกใจที่สาวเอเชียไม่ค่อยสนใจ หรือมองข้ามไพรเมอร์กันค่อนข้างเยอะ เพราะคิดว่าทำหน้าที่ไม่ต่างจากรองพื้น อันที่จริงแล้วแม้จะมีสีเนื้อคล้ายๆ กัน แต่ไพรเมอร์จะมี texture เนื้อสัมผัสที่ช่วยเกลี่ย ปรับสีผิวหน้าให้เรียบเนียนเหมือน ' แทร็กเตอร์ไถดิน ' ที่ปรับหน้าดินให้เสมอกัน ทำให้รองพื้นติดทนแน่นกว่าเดิมด้วย สังเกตง่ายๆ ถ้าเทียบวันที่ทาไพรเมอร์ กับวันที่ไม่ทา จะรู้เลยว่าวันที่ทาหน้าจะเมือกช้ากว่า ลองสังเกตดู

ในฤดูร้อนที่การแต่งหน้าไม่ควรพลาด เพราะถ้าโป๊ะที ความพังจะเยอะกว่าฤดูหนาวเป็นพิเศษ หน้าเยิ้มเป็นไอติมละลายแบบนี้ ก็ขอให้สละเวลาสัก 1-2 นาทีลงไพรเมอร์ให้ทั่วหน้าก่อนทารองพื้นจะดีกว่า เมคอัพอาร์ทติสได้แนะนำว่า ถ้าเธออายุ 25+ แล้ว เริ่มมีริ้วรอยหรือมีจุดด่างดำ รอยสิว ให้ใช้ไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมของ hyaluronic acid เพื่อช่วยกลบรอยต่างๆ ให้ดูเบลอ เนียนใสยิ่งขึ้นค่ะ

4. เลี่ยงเมคอัพทุกชนิดที่มีเนื้อสัมผัส ' มันวาวๆ เลื่อมๆ เป็นประกาย '

www.img.in.th

ก็อย่างที่รู้กันเนอะว่าหน้าร้อนเนี่ย แค่นั่งๆ นอนๆ หายใจเข้าออกเฉยๆ เหงื่อก็ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดบนใบหน้าแล้ว คนผิวแห้งยังสลับมามันได้เลยในช่วงซัมเมอร์ ยิ่งเมืองไทยไม่ใช่ประเทศที่ร้อนแห้ง แต่เป็นร้อนชื้น วันดีคืนดีฝนตก ความมันเยิ้มจึงมาเยือนได้ง่ายมาก เมือกทั้งหน้าเมือกทั้งตัว จึงเป็นข้อห้ามอย่างเด็ดขาดว่า ' อย่าใช้เมคอัพใดๆ ที่มีลักษณะชิมเมอร์ วิ้งค์เป็นประกาย ' เลื่อมๆ เหมือนลูกนิมิต พักก่อน ฉันขอให้เธอพักก่อน เพราะเดี๋ยวจะได้เป็นลูกนิมิตจริงๆ ไม่จ้อจี้!

ไม่ว่าจะเป็นรองพื้นเนื้อครีม ไฮไลท์ บรอนเซอร์ ไม่ต้องหาทำอยากเน้นกรอบหน้า แรเงาหน้าผาก สันจมูกใดๆ เพราะเลอะแน่นอน ยิ่งช่วงนี้ต้องใส่แมสก์ออกนอกบ้านด้วย ไม่รอดจ้า แต่ถ้าเป็นสายวิ้งค์จริงๆ อยากให้มีชิมเมอร์สักนิดบนใบหน้าก็ยังดี อนุญาตให้ใช้อายแชโดว์แต้มกึ่งกลางเปลือกตาได้ ( เพราะอย่างน้อยก็ไม่โดนแมสก์คลุม ) แต่ถ้าเหงื่อเยอะแล้วหล่นลงมาโดนตา เช็ดออกก็คือลบออกเกลี้ยงเหมือนกัน ถ้าอยู่ห้องแอร์ทำงานทั้งวัน ความเสี่ยงต่ำก็ไม่มีปัญหาค่ะ

5. เลือกเฉดสีตา แก้ม ปากในโทนสี ' อ่อนๆ เบาๆ ' ไว้ก่อน

www.img.in.th

ย้ำครั้งที่ 999 แล้วว่า หน้าร้อนเป็นสภาวะที่ทุกอย่างเสี่ยงละลาย หน้าเมือก และถ้าเลอะมันจะดูไม่จืดแน่เพราะผสมกับทั้งน้ำ ( เหงื่อ ) และน้ำมัน ( ความมันบนผิว ) ถ้าซิสแต่งหน้าด้วยโทนสีเข้ม เวลามันเลอะแล้วเธอเผลอปาดแรง ก็มีสิทธิ์ที่สีจะไหลไปกองรวมกันแล้วบ้งทั้งหน้า ต้องมาลบแต่งใหม่ อีกเหตุผลนึงคือบรรยากาศโดยรวมของซัมเมอร์ ทั้งแสงแดดที่เจิดจ้า สีเสื้อผ้า สถานที่ต่างๆ มันจี๊ดจ๊าดอยู่แล้ว ยิ่งเธอแต่งสีเข้มมันจะยิ่งดูดุ ดูเยอะเกินไปด้วย

ดังนั้นเราแนะนำให้สาวๆ ทุกคนเลือกโทนสีแต่งหน้าที่ ' อ่อนๆ บางๆ ' ไว้ก่อนโดยเฉพาะส่วนตาและปาก ไม่ถึงกับต้องทาปากซะซีด หรือปัดแก้มซะจางจนมองไม่เห็น แค่เลือกเฉดสีที่อ่อนลงมาจากปกติก็พอ เชื่อเราเถอะว่า พอไปใช้ชีวิตข้างนอก เจอแสงแดด ผิวหน้าไปบ่มแดดจนหน้าแดงเองตามธรรมชาติ สีเมคอัพมันจะดูเข้มขึ้นจนดูพอดี เป็นทริครู้ไว้ใช้ว่าที่หลายคนไม่ค่อยรู้ค่ะ

6. ใช้ ' อายแชโดว์ไพรเมอร์ ' หรือแป้งฝุ่นโปร่งแสง ก่อนแต่งตาทุกครั้ง

www.img.in.th

เพราะตอนนี้สถานการณ์โควิดยังไม่จางหาย ผู้คนทั่วโลกรวมถึงไทยก็ยังต้องใส่แมสออกไปไหนมาไหนกันอยู่ ถ้าจะแต่งหน้า ส่วนดวงตาก็ควรเป็นบริเวณที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นส่วนเดียวที่โดดเด่นและโผล่มาให้เห็นนอกแมสก์ ถ้าแต่งตาไม่ถูกวิธี ปัดอายแชโดว์แบบฝุ่นไปแค่ชั้นเดียวในช่วงซัมเมอร์ ถ้าไม่ใช่คนผิวแห้งจริงๆ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง จะเกิดอาการอายแชโดว์ ' เป็นรอยพับ ' เพราะเปลือกตามันจนสีตาแยกเป็นสองชั้น ซึ่งมันเสียบุคลิกมากๆ เลยละค่ะ

ใครที่ติดนิสัยทาอายครีมที่เปลือกตาช่วงเช้า ขอให้พักไว้ก่อน แล้วใช้เป็น ' อายไพรเมอร์ ' เพื่อเตรียมผิวดวงตาให้สีติดทน แน่นกว่าเดิมแทน อย่าคิดว่าเป็นไอเทมไร้สาระเชียว เพราะแค่ทาๆ เกลี่ยๆ รอยพับจากความมันก็จะหายวับไปสนิท สีที่ทาลงไปก็จะดูชัดเจนขึ้น อยู่ทนตั้งแต่เช้าจรดค่ำแบบไม่ต้องสืบ แต่ถ้าไม่มีจริงๆ และไม่อยากใช้ไพรเมอร์หน้ากับดวงตาเพราะแพ้ง่าย แนะนำให้ใช้แป้งฝุ่นตบเบาๆ แทน เพื่อซับความมันออกก่อนทาอายแชโดว์แทนนะคะ