

สุขภาพ
#ผอมยากจนเป็นท้อ! 7 สัญญาณเตือนว่าเธอมี ' เมตาบอลิซึ่มต่ำ ' อาจมีปัญหาสุขภาพแฝงโดยไม่รู้ตัว T^T
ที่กินอาหารคลีน ออกกำลังกายดียังไงก็ไม่ผอมเร็วเท่าเพื่อนสักที
อาจจะไม่ได้ผิดที่เธอ แต่เป็น ' ร่างกายของเธอ ' ก็เป็นได้

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. น้ำหนักพุ่ง อ้วนขึ้น ทั้งที่คุมอาหารอยู่ตลอด
2. อ่อนเพลีย อยู่ดีๆ ก็หน้ามืด มือไม้อ่อนแรงจะเป็นลม
3. มีสภาพผิวแห้งมาก แห้งจนผิดปกติ
4. เล็บมือเล็บเท้าอ่อนแอ เปราะบาง แตกหักง่าย เป็นดอกขาว
5. รู้สึกหนาวสั่น อุณหภูมิในร่างกายต่ำ ทั้งที่อากาศไม่เย็น
6. ชีพจรต่ำ ความดันต่ำ
7. อยากกิน ' แป้งและน้ำตาล ' ตลอดเวลา ทำยังไงก็ไม่อิ่มสักที
สวัสดีค่า สาวๆ SistaCafe ที่ฝันมีหุ่นเป๊ะทุกคน ~(^з^)-♡
ใครๆ ก็อยากกินเยอะแล้วไม่อ้วน แต่ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่เป็นแบบนั้น เมื่ออยากผอมนะ แต่ก็ทนความยั่วยวนของอาหารไม่ไหว เมื่ออ้วนขึ้นจึงต้องพยายามไดเอท ออกกำลังกาย เลือกกินอาหาร นอนพักให้พอ แต่พยายามมาสักพักแล้ว เคร่งครัดสุดๆ ยังไงน้ำหนักก็ไม่ลดลงสักที บางทีเธออาจไม่ใช่คนผิดในเรื่องนี้ แต่ระบบเผาผลาญในร่างกายของเธอนั้น ' ต่ำกว่าปกติ ' ก็เป็นได้
เมตาบอลิซึ่มหรือระบบเผาผลาญ เป็นกระบวนการที่ร่างกายเบิร์นพลังงานเป็นการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพของสมอง, การเต้นของหัวใจ, การหายใจ จะมีพลังงานได้ก็ต้องเบิร์นจากอาหารเป็นเชื้อเพลิง ใครมีอัตราเผาผลาญสูงก็จะเข้าตำรา ' กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ' แต่ถ้าคนที่เป็นตรงกันข้ามล่ะ? กินน้อยยังไงก็อ้วน หรือถึงลดได้ก็คุมให้คงที่ยากมากๆ หลายครั้งไม่ได้เกิดจากการไดเอทผิดวิธี แต่เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้! ใครสงสัย ลองมาเช็กกันใน ' 7 สัญญาณเตือนว่าเธอมีเมตาบอลิซึ่มต่ำ อาจมีปัญหาสุขภาพแฝงอยู่ไม่รู้ตัว ' ในบทความนี้กันได้เลยค่ะ
1. น้ำหนักพุ่ง อ้วนขึ้น ทั้งที่คุมอาหารอยู่ตลอด
สัญญาณแรกที่สำคัญที่สุด เห็นชัดที่สุดของเมตาบอลิซึ่มต่ำก็คือ ' น้ำหนักขึ้นแบบไม่มีสาเหตุ ' ไม่ได้เผลอกินแหลกมื้อดึก ไม่แตะแป้งขาว น้ำตาล ไขมันทรานส์ใดๆ อาหารคลีนทุกมื้อ ออกกำลังก็หนัก แต่น้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากใครกำลังเจอสถานการณ์ผิดปกตินี้ อาจเกี่ยวข้องกับ ' เมตาบอลิซึ่ม ' ในร่างกายโดยตรงค่ะ
เวลาผู้หญิงน้ำหนักขึ้น เรามักโทษตัวเองไปก่อนว่าคงกินเยอะแหละ อยู่ดีๆ มันจะขึ้นมาเองได้ไง แต่บางครั้งถ้าโชคร้ายหรือมีพันธุกรรม ' ไฮโปไทรอยด์ ' ในครอบครัว ก็จะทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ มีฮอร์โมนออกมาน้อยเกินไป ซึ่งจะชะลอการเผาผลาญขั้นต่ำในแต่ละวันลง จึงทำให้แม้ว่าจะใช้ชีวิตปกติ กินพอดี หรือลดน้ำหนักอยู่ ก็อาจอ้วนขึ้นอยู่ดี หรือลดยากมากๆ นั่นเอง
เวลาผู้หญิงน้ำหนักขึ้น เรามักโทษตัวเองไปก่อนว่าคงกินเยอะแหละ อยู่ดีๆ มันจะขึ้นมาเองได้ไง แต่บางครั้งถ้าโชคร้ายหรือมีพันธุกรรม ' ไฮโปไทรอยด์ ' ในครอบครัว ก็จะทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ มีฮอร์โมนออกมาน้อยเกินไป ซึ่งจะชะลอการเผาผลาญขั้นต่ำในแต่ละวันลง จึงทำให้แม้ว่าจะใช้ชีวิตปกติ กินพอดี หรือลดน้ำหนักอยู่ ก็อาจอ้วนขึ้นอยู่ดี หรือลดยากมากๆ นั่นเอง
2. อ่อนเพลีย อยู่ดีๆ ก็หน้ามืด มือไม้อ่อนแรงจะเป็นลม
เมื่อร่างกายมีอัตราเผาผลาญต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ก็จะทำให้เบิร์นพลังงานในระดับที่เฉื่อย การเคลื่อนไหวของร่างกายก็จะมีประสิทธิภาพต่ำลงไปด้วย แทนที่จะขยับแขนขาได้คล่องแคล่ว เดิน วิ่งได้สบายๆ เหมือนคนทั่วไป เธอจะมีอาการเหนื่อยล้า เพลีย เมื่อยล้าบ่อยๆ บางวันถ้าเผลอออกแรงเยอะเกินไป ก็หน้ามืดพาลจะเป็นลมได้เลยทีเดียวค่ะ
ถ้าไม่ได้อยู่ในช่วงมีประจำเดือน ไม่ได้กินยารักษาโรคที่มีผลข้างเคียงอะไรอยู่ ไม่ได้มีความเครียดหรือซึมเศร้า และไม่ได้ออกกำลังหนักจนกล้ามเนื้อเมื่อยล้าจริงๆ แต่ยังเพลียตลอดเวลา เพลียจนน่าสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็ควรไปเช็คที่โรงพยาบาลว่ามีโรคอะไรแฝงอยู่หรือเปล่า เพื่อความอุ่นใจค่ะ
ถ้าไม่ได้อยู่ในช่วงมีประจำเดือน ไม่ได้กินยารักษาโรคที่มีผลข้างเคียงอะไรอยู่ ไม่ได้มีความเครียดหรือซึมเศร้า และไม่ได้ออกกำลังหนักจนกล้ามเนื้อเมื่อยล้าจริงๆ แต่ยังเพลียตลอดเวลา เพลียจนน่าสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็ควรไปเช็คที่โรงพยาบาลว่ามีโรคอะไรแฝงอยู่หรือเปล่า เพื่อความอุ่นใจค่ะ
3. มีสภาพผิวแห้งมาก แห้งจนผิดปกติ
ข้อนี้เชื่อว่าสาวๆ หลายคนอาจมองข้ามไป เพราะคิดว่าสภาพผิวไม่น่าเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ แต่ที่จริงมันมีความเชื่อมโยงกันอยู่ค่ะ! เมื่อเธอมีระบบเผาผลาญที่เฉื่อยช้า เซลล์ต่างๆ ในร่างกายก็จะทำงานไม่ค่อยมีคุณภาพ เหมือนคนอู้งาน ทำงานส่งไม่ตรงเวลา ซึ่งในแง่ของเซลล์ผิว เมื่อทำงานไม่ดี ก็จะได้เลือดมาหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ จึงไม่ได้สารอาหารที่จำเป็นมากพอ จึงทำให้ผิวเสียความอ่อนนุ่มชุ่มชื้นไป กลายเป็นผิวแห้งกร้านได้
อีกทั้งร่างกายยังต้องการกักเก็บความร้อน เพราะไม่อยากเผาผลาญมากเกินไป จึงทำให้ออกกำลังหนักๆ เหงื่อก็ไม่ค่อยออก ซึ่งส่งผลให้ผิวแห้งแตก สัมผัสแล้วรู้สึกถึงความหยาบชัดเจน ถ้าเป็นสาเหตุนี้จริง การทามอยส์เจอไรเซอร์จะแค่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เธอต้องเปลี่ยนชนิดอาหารที่กินให้มีอัตราส่วนของไขมันดีมากขึ้น และเช็กปัญหาสุขภาพแฝงด้วย ผิวจึงจะดีขึ้นได้ในระยะยาวค่ะ
อีกทั้งร่างกายยังต้องการกักเก็บความร้อน เพราะไม่อยากเผาผลาญมากเกินไป จึงทำให้ออกกำลังหนักๆ เหงื่อก็ไม่ค่อยออก ซึ่งส่งผลให้ผิวแห้งแตก สัมผัสแล้วรู้สึกถึงความหยาบชัดเจน ถ้าเป็นสาเหตุนี้จริง การทามอยส์เจอไรเซอร์จะแค่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เธอต้องเปลี่ยนชนิดอาหารที่กินให้มีอัตราส่วนของไขมันดีมากขึ้น และเช็กปัญหาสุขภาพแฝงด้วย ผิวจึงจะดีขึ้นได้ในระยะยาวค่ะ
4. เล็บมือเล็บเท้าอ่อนแอ เปราะบาง แตกหักง่าย เป็นดอกขาว
เพราะระบบในร่างกายทั้งหมดเชื่อมโยงถึงกัน ทั้งตับ ไต หัวใจ สมอง ลำไส้ ระบบขับถ่าย กล้ามเนื้อ ผิวหนัง แม้แต่เล็บซึ่งเป็นส่วนที่ไม่น่ามีผลกระทบมาก ถ้าระบบเผาผลาญต่ำก็จะทำให้สภาพเล็บเปลี่ยนแปลงเช่นกัน! เพราะเล็บก็คือโปรตีนเคราตินชนิดแข็งที่แสดงให้เห็นสุขภาพร่างกายในขณะนั้น ถ้าสุขภาพดี เล็บก็จะเงางาม เป็นชั้นสวย
ถ้าร่างกายไม่ได้ดูดซึมสารอาหารอย่างเพียงพอ เพราะระบบเผาผลาญไม่ยอมทำงานเป็นปกติ เล็บจะบาง เปราะง่าย เจอแรงกระแทกนิดเดียวก็เกิดรอยร้าว หรือหักครึ่งได้ง่ายๆ หากยังไม่หนักมากก็อาจจะขึ้นเป็นดอกขาวๆ ที่จมูกเล็บ เป็นต้น นี่คือสัญญาณชัดว่าระบบภายในกำลังมีปัญหา ถ้ากินสารอาหารดีๆ เน้นโปรตีนแล้ว ดอกเล็บก็ยังไม่หายไปสักที ก็อาจถึงเวลาต้องไปหาหมอแล้วละค่ะ
ถ้าร่างกายไม่ได้ดูดซึมสารอาหารอย่างเพียงพอ เพราะระบบเผาผลาญไม่ยอมทำงานเป็นปกติ เล็บจะบาง เปราะง่าย เจอแรงกระแทกนิดเดียวก็เกิดรอยร้าว หรือหักครึ่งได้ง่ายๆ หากยังไม่หนักมากก็อาจจะขึ้นเป็นดอกขาวๆ ที่จมูกเล็บ เป็นต้น นี่คือสัญญาณชัดว่าระบบภายในกำลังมีปัญหา ถ้ากินสารอาหารดีๆ เน้นโปรตีนแล้ว ดอกเล็บก็ยังไม่หายไปสักที ก็อาจถึงเวลาต้องไปหาหมอแล้วละค่ะ
5. รู้สึกหนาวสั่น อุณหภูมิในร่างกายต่ำ ทั้งที่อากาศไม่เย็น
อย่างที่บอกไปในข้อต้นๆ ว่า เมื่อระบบเผาผลาญในร่างกายเข้าสู่โหมด ' ขี้เกียจ ' หรือประหยัดพลังงาน จะไม่ค่อยเบิร์นเชื้อเพลิงหรือแคลอรี่จากอาหารมาใช้ แต่เน้นกักเก็บ ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง ทำให้รู้สึกหนาวสั่น ตัวเย็นอยู่ตลอดเวลา และนี่คือสัญญาณที่ค่อนข้างชัดว่าเธอเป็นโรค ' ไฮโปไทรอยด์ '
หากอยู่ในสถานที่ปกติ กึ่งไปทางร้อนด้วยซ้ำ แต่เธอกลับรู้สึกหนาวยะเยือกแบบไม่มีเหตุผลอยู่บ่อยๆ ต้องใส่เสื้อผ้าหลายชั้น แค่ดื่มน้ำเย็นเข้าไปก็เหมือนจะตายซะให้ได้ ไม่ต้องพูดถึงอยู่ในห้องแอร์เลย ถ้าไม่ได้เป็นไข้ ก็อาจเป็นไปได้ว่าเธอเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ค่ะ
หากอยู่ในสถานที่ปกติ กึ่งไปทางร้อนด้วยซ้ำ แต่เธอกลับรู้สึกหนาวยะเยือกแบบไม่มีเหตุผลอยู่บ่อยๆ ต้องใส่เสื้อผ้าหลายชั้น แค่ดื่มน้ำเย็นเข้าไปก็เหมือนจะตายซะให้ได้ ไม่ต้องพูดถึงอยู่ในห้องแอร์เลย ถ้าไม่ได้เป็นไข้ ก็อาจเป็นไปได้ว่าเธอเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ค่ะ
6. ชีพจรต่ำ ความดันต่ำ
ตรวจวัดความดันแล้วชีพจรต่ำมีหลายสาเหตุ เช่น น้ำหนักน้อยเกินเกณฑ์, อายุมากขึ้น, ภาวะขาดน้ำในร่างกาย, เป็นเองโดยพันธุกรรมจากพ่อแม่, โรคโลหิตจาง, หัวใจ-ระบบประสาทผิดปกติ หรือ ' ต่อมไร้ท่อมีปัญหา ' หรือต่อมไทรอยด์จากโรคไฮโปไทรอยด์ ที่ทำให้เมตาบอลิซึ่มเฉื่อยชา เผาผลาญได้น้อยกว่าปกตินั่นเอง
การที่ความดันต่ำ เพราะหัวใจของสาวๆ เต้นช้าลง ซึ่งระบบเผาผลาญสัมพันธ์กับการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกายรวมถึงหัวใจด้วย ถ้าหัวใจเต้นช้า แปลว่าการเผาผลาญน้อย และอาจส่งผลถึงการที่เผาผลาญพลังงานขั้นต่ำต่อวัน ( BMR ) ผิดปกติด้วย ทางที่ดีควรไปเช็กให้ชัวร์ที่โรงพยาบาล ว่าความดันต่ำแบบนี้เกิดจากสาเหตุ ( หรือเป็นโรค ) อะไรกันแน่จะดีที่สุดค่ะ
การที่ความดันต่ำ เพราะหัวใจของสาวๆ เต้นช้าลง ซึ่งระบบเผาผลาญสัมพันธ์กับการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกายรวมถึงหัวใจด้วย ถ้าหัวใจเต้นช้า แปลว่าการเผาผลาญน้อย และอาจส่งผลถึงการที่เผาผลาญพลังงานขั้นต่ำต่อวัน ( BMR ) ผิดปกติด้วย ทางที่ดีควรไปเช็กให้ชัวร์ที่โรงพยาบาล ว่าความดันต่ำแบบนี้เกิดจากสาเหตุ ( หรือเป็นโรค ) อะไรกันแน่จะดีที่สุดค่ะ
7. อยากกิน ' แป้งและน้ำตาล ' ตลอดเวลา ทำยังไงก็ไม่อิ่มสักที
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดสุขภาพ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe