ความงาม

#โดดเด่นสุดในงานแต่ง! 7 ทริคดูแลผิวสำหรับ 'ว่าที่เจ้าสาว' ให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ออร่าปังระดับสิบ

มาดูแลผิวให้สวยออร่าปิ๊งสุด ในงานแห่งความรักที่มีครั้งเดียวในชีวิต จนเจ้าบ่าวต้องตกหลุมรักซ้ำๆ กันค่ะซิสส #เขิน (μ‿μ) ❤

Home » ความงาม » วิธีดูแลผิวหน้า - วิธีดูแลผิว - เจ้าสาว - คู่รัก » แต่งงาน » #โดดเด่นสุดในงานแต่ง! 7 ทริคดูแลผิวสำหรับ 'ว่าที่เจ้าสาว' ให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ออร่าปังระดับสิบ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

[แสดง]

[ซ่อน]

1. ก่อนอื่น เช็คสภาพผิวหน้าปัจจุบันว่ามี ' ปัญหา ' อะไรบ้าง
2. ใช้โทนเนอร์แผ่น ( peel pads ) ช่วงกลางคืน ให้ผิวไบรท์ ใสปิ๊ง
3. บูสต์หน้าโทรมให้กลับมาออร่า ' มาสก์หน้าทุกวัน ' ช่วยได้!
4. ใช้อายครีมสูตรเน้นความชุ่มชื้น และลดบวมใต้ตา
5. ' สครับผลัดเซลล์ผิวเก่า ' ตั้งแต่หัวจรดเท้าไปเลย!
6. ใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิว ทั้งช่วงเช้าและกลางคืน
7. กินอาหารมีประโยชน์กับสุขภาพ ถ้าภายในดี ผิวก็จะดีตาม!

media4.giphy.com

สวัสดีค่าาา สาวๆ SistaCafe ว่าที่เจ้าสาวทุกคนนน (♡´❍`♡)*✧ ✰ ｡*

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับซิสทุกคนที่กำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์นะคะ เนื่องจากเป็นงานสำคัญงานแรกและงานเดียวที่เธอกับเขาจะประกาศว่าใช้ชีวิตร่วมกันแล้วอย่างเป็นทางการ จึงต้องใส่ใจกับรายละเอียดในงานเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าไม่จ้างออแกไนเซอร์ จัดการกันเองก็เตรียมหัวหมุนได้เลย! ทั้งการจองสถานที่ ปักวันเวลาตามฤกษ์ จองร้านอาหาร ของชำร่วย เป็นต้น แต่สุดท้าย สิ่งที่ต้องให้น้ำหนักมากที่สุดก็ต้องเป็น ' เจ้าสาว ' หรือตัวเธอเองค่ะ!

ถ้าเจ้าสาวไชน์ โดดเด่นมีออร่า งานนั้นก็จะเป็นโมเมนต์ที่แสนประทับใจไม่ลืมเลือน การดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งนอกจากการเลือกชุดเจ้าสาว หรือโทรบุ๊กคิวช่างแต่งหน้าแล้ว เธอควรเริ่มใส่ใจสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุดอย่าง ' ผิว ' ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ถ้าผิวไม่สวย หมองคล้ำ ออร่าก็คงเปล่งประกายได้ยาก ดังนั้นในบทความนี้ เราจึงขอมาบอกต่อ ' 7 ทริคดูแลผิวสำหรับว่าที่เจ้าสาว ' ให้วันสำคัญนั้นผิวสวยโกลว์ ปังระดับสิบ ให้เจ้าบ่าวต้องตกหลุมรักซ้ำอีกครั้ง จะต้องทำยังไงบ้างเราไปดูกันเลยดีกว่าา

1. ก่อนอื่น เช็คสภาพผิวหน้าปัจจุบันว่ามี ' ปัญหา ' อะไรบ้าง

www.img.in.th

ก่อนจะลงมือทำการดูแลผิว ลองเช็คตัวเองก่อนว่ามีปัญหาผิวใดๆ ที่ชัดเจนและควรเป็นกังวลหรือไม่ เพื่อจะได้แก้ไขอย่างตรงจุด เช่น ใต้ตาคล้ำ รูขุมขนกว้าง มีฝ้ากระ มีสิวอักเสบ เพราะการบำรุงแบบหว่านแห ไม่ได้ทำให้ปัญหาเฉพาะจุดเหล่านั้นหายไป ในวันงานเธอก็อาจมานั่งห่วงจุดนั้น กลัวแต่งหน้าแล้วออกมาไม่ดี ทำให้บรรยากาศในงานกร่อยลงได้

ถ้าปัญหาค่อนข้างเยอะ เวลาเตรียมตัวน้อยและมีงบมากพอ เราแนะนำให้เธอไปคลินิกรักษาผิว ทำการเลเซอร์ ทรีทเมนต์โดยตรงเลยจะเห็นผลเร็วกว่า แต่ถ้ายังพอมีเวลา และปัญหาไม่หนักมาก แค่เพิ่มสกินแคร์บางตัวเข้ามาใน skincare routine ของตัวเอง หรือเปลี่ยนสกินแคร์บางขั้นตอนให้เป็นสูตรที่เข้มข้นมากขึ้น ให้ผลดีมากขึ้นก็พอ เช่น ถ้ามีจุดด่างดำจางๆ บนผิวหน้าก็เพิ่มวิตามินซี หรือถ้ามีรอยสิวก็ทายาลบรอยสิวเตรียมไว้แต่เนิ่นๆ ถ้ามีรอยคล้ำใต้ตาก็ทาอายครีมควบคู่กับนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้นค่ะ

2. ใช้โทนเนอร์แผ่น ( peel pads ) ช่วงกลางคืน ให้ผิวไบรท์ ใสปิ๊ง

www.img.in.th

สำหรับสาวๆ ที่ตอนนี้พื้นฐานผิวหน้าค่อนข้างคล้ำเสีย หรือมีความหมอง ไม่ค่อยกระจ่างใส อาจจะเพราะชีวิตประจำวันไม่ค่อยทาครีมกันแดด หรืออยู่กลางแจ้งเจอแสงแดดแรงบ่อยๆ หากไม่สะดวกในการทำเลเซอร์ซึ่งราคาแพงรากเลือดพอตัว ก็สามารถใช้สกินแคร์อย่าง ' โทนเนอร์แผ่น ( peel pads ) ' ได้เช่นกัน ไอเทมนี้จะมีส่วนผสมของ glycolic acid ช่วยผลัดลอกเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องจะทำให้ผิวหน้าสว่าง กระจ่างใสขึ้นทีละขั้นแบบไม่ดูหลอกตา และยังช่วยปรับผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้เนียนเรียบมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

หลังล้างหน้า ซับผิวหน้าที่เปียกให้พอหมาดๆ แล้วใช้โทนเนอร์แผ่นเช็ดผิวหน้าก่อนนอนทุกวัน และเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีค่า SPF กันแดด ควบคู่กับครีมกันแดดที่มี SPF50+ PA++++ ขึ้นไปในขั้นตอนสกินแคร์ตอนเช้า เพื่อป้องกันไม่ให้รังสียูวีทำลายผิวจนหมองคล้ำกว่าเดิม และป้องกันผิวแสบแดง เพราะ glycolic acid จะทำให้ผิวหน้าไวต่อแสงแดดมากขึ้นค่ะ

3. บูสต์หน้าโทรมให้กลับมาออร่า ' มาสก์หน้าทุกวัน ' ช่วยได้!

www.img.in.th

หนึ่งในไอเทมดูแลผิวยอดฮิตของว่าที่เจ้าสาวทั้งหลาย จะคนธรรมดา หรือดาราเซเลบ ถ้าอ่านบทสัมภาษณ์การดูแลตัวเอง หรือดู vlog แนะนำสกินแคร์ สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือ ' มาสก์หน้า ' โดยเฉพาะมาส์กแบบแผ่น เจ้าสาวบางคนต้องการผิวหน้าที่ชุ่มชื้นสูงสุด มาสก์กันสดๆ ก่อนแต่งหน้าวันงานเลยก็มี เพราะมาสก์เหล่านี้เรียกว่าเป็นทางลัด ที่ช่วยบูสต์ผิวโทรมจากการทำงานหนัก หรือผิวที่ถูกละเลย บำรุงไม่เพียงพอ ให้กลับมานุ่มเนียน อิ่มฟูได้ง่ายและเร็วอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดแล้วล่ะค่ะ

ถ้ามีงบเหลือ ไปสปานวดหน้าและคลินิกผิวหน้า เพื่อทรีทเมนต์ผิวให้ชุ่มชื้นก็เป็นเรื่องที่แนะนำ แต่ถ้าไม่อยากเสียเงินแพง ก็ใช้มาสก์แผ่นอย่างเดียวก็ได้ เน้นสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นสูง มีส่วนผสมของ hyaluronic acid เป็นพื้นฐาน ถ้ามีปัญหาผิวอย่างอื่นก็ค่อยเลือกสูตรที่ผสมสารที่ช่วยรักษาเพิ่มเข้าไป เช่น ถ้ากังวลจุดด่างดำ ก็เลือกมาสก์ที่ผสมทั้ง hyaluronic + vitamin c เป็นต้น และควรมาสก์แต่เนิ่นๆ! ฉุกเฉินสุดคือ 7 วันก่อนวันงาน แต่ถ้าจะให้ดี ควรมาสก์ล่วงหน้าเป็นเดือน เพื่อเตรียมผิวหน้าให้มีสุขภาพดีที่สุดค่ะ

4. ใช้อายครีมสูตรเน้นความชุ่มชื้น และลดบวมใต้ตา

www.img.in.th

ช่วงที่ต้องจัดเตรียมงานแต่ง เชื่่อว่าเจ้าสาวแทบทุกคนนอนหลับไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ เพราะต้องมีเรื่องให้ต้องจัดการ ตัดสินใจ ลงพื้นที่ดูหน้างาน แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ตลอดเวลา เมื่ออดนอน นอนน้อยจึงส่งผลให้ใต้ตาบวม หรือหมองคล้ำเป็นแพนด้ากินไม้ไผ่ได้ ซึ่งถ้าปล่อยไว้จนถึงวันงาน แม้แต่ช่างแต่งหน้าที่เก่งที่สุด ก็กลบรอยคล้ำได้ไม่มิด 100% เสี่ยงที่จะหน้าหมอง ดูตาเศร้าๆ หม่นๆ ( เพราะใต้ตาดำ ) ถ่ายรูปก็ไม่ปังเท่าที่ควร ยิ่งส่วนดวงตาเป็นส่วนที่แสดงอารมณ์มากที่สุดด้วย ถ้าช่างถ่ายซูมหน้าเยอะๆ แล้วใต้ตาพังทุกรูป ไม่โอเคแน่ๆ

แก้ปัญหาได้ด้วยการทา ' อายครีม ' สูตรที่ให้ความชุ่มชื้น มีส่วนผสมของ hyaluronic acid ให้ใต้ตาเนียนเรียบ อิ่มฟู ควบคู่กับการใช้เครื่องนวดใต้ตา หรือถ้าวิธีง่ายๆ ก็ใช้ช้อนสแตนเลสแช่ตู้เย็นประคบใต้ตา หรือจะใช้แตงกวา มะเขือเทศหั่นสไลด์แปะเพื่อลดรอยคล้ำใต้ตาก็ได้เช่นกัน แต่ถ้ามีงบเหลือ เดี๋ยวนี้ก็มีเทคโนโลยีความงามอย่างฟิลเลอร์ ที่ช่วยให้ใต้ตาดูดีขึ้นได้ เลือกเอาตามสไตล์และความชอบของตัวเองได้เลย

5. ' สครับผลัดเซลล์ผิวเก่า ' ตั้งแต่หัวจรดเท้าไปเลย!

www.img.in.th

จะเป็นเจ้าสาวในวันสำคัญทั้งที ผิวสวยฉ่ำวาวทั้งตัวคือ a must แม้ชุดเจ้าสาวหลายแบบจะเป็นกระโปรงยาวฟูฟ่อง แทบจะไม่เห็นส่วนล่างของร่างกายก็ตาม แต่เราไม่รู้ว่าจะเกิดโมเมนต์อะไรในงานบ้าง อาจจะมีการต้องนั่ง ต้องสะบัด หรือการเคลื่อนไหวที่ทำให้เห็นผิวใต้ชุด ถ้าเตรียมพร้อมผิวไว้ก่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าก็จะดีกว่า ซึ่งไอเทมที่ช่วยได้ดีที่สุดก็คือ ' สครับ ' ที่ขจัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้เนียนใส นุ่มเหมือนผิวเด็กไปทั้งตัวค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นสาวๆ ผิวแพ้ง่ายหรือไม่ก็ตาม ควรใช้สครับแยกส่วนผิวหน้ากับผิวกาย เพราะสครับผิวกายจะใช้เม็ดสครับที่ค่อนข้างใหญ่และหยาบกว่า ถ้าใช้รวมกับผิวหน้าอาจเกิดบาดแผลระคายเคืองได้ เน้น
สครับช่วงเข่า ข้อศอกและเท้าเป็นพิเศษ เพราะเป็นส่วนที่ดำง่าย แอบกระซิบว่าอย่าลืมสครับริมฝีปากด้วยนะคะ จะได้พร้อมสำหรับทาลิปสติกหรือลิปกลอสสวยๆ เวลามีโมเมนต์ให้จุ๊บแก้มหรือเวลาพูดทักทายแขกในงาน จะต้องมีคนโฟกัสที่ส่วนปากแน่ๆ ดังนั้นทำให้ปากสุขภาพดีไว้ก่อนจะดีกว่าเนอะ ♡(｡- ω -)