

ความงาม
#ีรีแล็กซ์ผิวแบบไม่มีอะไรกั้น! 7 ทริคใช้ 'มาส์กหน้า' แบบมือโปร ดูแลผิวชิลล์ๆ ที่บ้าน ก็ฟินเหมือนอยู่สปาได้!
สาวๆ มากมายที่อยากไปสปาหน้า นวดหน้านวดตัวให้ชื่นใจ คลายเครียดจากการทำงาน แต่เห็นราคาต่อชั่วโมงก็แอบใจห่อเหี่ยวอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ปัญหา แค่นำทริคในบทความนี้ไปใช้ ก็ฟินล่องลอยได้เหมือนอยู่สปา (ノ◕ヮ◕)ノ*:・゚✧

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. ใช้ 'มาส์กหน้าสูตรถ่านชาร์โคล' กระตุ้นให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
2. ใช้มาส์กหลายประเภทบนใบหน้า (Multi-Masking) ในครั้งเดียว
3. อายุมากขึ้น ควรใช้มาส์กหน้าที่ 'ผสมสครับ' ไปด้วยในตัว
4. ใช้แปรงทารองพื้น ทามาส์กให้ทั่วผิวหน้าได้ ป้องกันมือเลอะ!
5. ใช้มาส์กพอกหน้าข้ามคืน (Overnight Mask) เป็นประจำ
6. เก็บรักษา 'มาส์กแผ่น (Sheet Mask)' ในที่เย็นเสมอ
7. ใช้มาส์กตา (Eye Mask) และมาส์กปาก (Lip Mask) เพิ่มความปัง!
ฮัลโหลค่าา สาวๆ SistaCafe คนรักการดูแลผิว ' ขั้นเทพ ' ทั้งหลาย (* ̄▽ ̄)b
ใครที่เข้าวงการสกินแคร์ บำรุงให้รางวัลผิวอยู่บ่อยๆ น่าจะต้องเคยทำ ' สปาผิว ' อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต! เข้าร้านสปาอโรม่าหอมผ่อนคลาย นอนให้พนักงานนวดหน้าเบาๆ ลงผลิตภัณฑ์ออยล์ มาส์ก ปนกับเสียงเพลงกล่อมในสปา จนบางทีก็เคลิ้มหลับไป ฟินสุดอะไรสุด แต่ถ้าไม่ใช่คนเงินเหลือเก็บมากมาย จะไปสปาบ่อยๆ ก็กลัวจะได้กินแกลบแทนข้าวซะก่อน ตอนนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ไม่อยากถลุงเงิน หลายคนจึงเริ่มหาวิธีปรนนิบัติผิวแบบชิลล์ๆ ที่บ้านแทน save cost กว่าเยอะ! ヽ(>∀<☆)ノ
ในบทความนี้ เราขอมาแนะนำวิธีรีแล็กซ์ผิว ดูแลให้ผิวนุ่มนิ่มกระจ่างใสแบบไม่มีอะไรกั้น ด้วยผลิตภัณฑ์ ' มาส์กหน้า ' ทั้งแบบพอกและแบบแผ่นในกรุที่มี ให้ผลลัพธ์ไม่ต่างกับการไปสปา แต่ไม่ต้องเสียค่าชั่วโมงแพงๆ ไม่ต้องหงุดหงิดการเดินทาง เพราะสามารถทำเองได้ที่บ้านแบบชิลล์ๆ! จะต้องทำอะไรบ้าง ก็มาอ่าน ' 7 ทริคใช้มาส์กหน้าแบบมือโปร ' มายกเลเวลความปั๊วะของผิวขึ้นไปอีกระดับกันเถอะ!
1. ใช้ 'มาส์กหน้าสูตรถ่านชาร์โคล' กระตุ้นให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
สาวๆ ส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย คงต้องเผชิญกับฝุ่น สิ่งสกปรกและมลภาวะที่รบกวนผิวหน้าทุกวัน แค่เดินออกไปนอกบ้าน ก็เจอฝุ่น PM2.5 มลภาวะต่างๆ ท่อไอเสียจากรถเมล์และมอเตอร์ไซค์ ควันจากแผงขายหมูปิ้งแล้ว ยังไม่นับน้ำมันส่วนเกินบนผิวระหว่างวันอีก เมื่อเจอแบบนี้ซ้ำๆ ทุกวันหน้าที่เคยใสก็หมองคล้ำลงเรื่อยๆ ส่องกระจกแล้วแอบตกใจ ทำไมหน้าฉันดูเหนื่อยขนาดนี้นะ บางทีก็ดูร่วงโรยกว่าวัยซะงั้น เพราะมลภาวะนี่แหละ ตัวกัดกร่อนผิวเลย!
เพียงสาวๆ ใช้ ' มาส์กหน้าสูตรชาร์โคล ' ที่โด่งดังในด้านสรรพคุณดูดจับสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้า ทำหน้าที่คล้ายแม่เหล็ก จับคราบที่ตกค้าง อุดตันรูขุมขนออกมาให้สิ้นซาก และยังช่วยดีท็อกซ์ผิวให้สะอาดหมดจด เมื่อใช้มาส์กสูตรนี้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น สิวอักเสบก็ลดลงเพราะไม่มีสิ่งสกปรกกระตุ้นให้ผิวระคายเคือง เพียงพอกมาส์กทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ก็เป็นอันเสร็จพิธี
เพียงสาวๆ ใช้ ' มาส์กหน้าสูตรชาร์โคล ' ที่โด่งดังในด้านสรรพคุณดูดจับสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้า ทำหน้าที่คล้ายแม่เหล็ก จับคราบที่ตกค้าง อุดตันรูขุมขนออกมาให้สิ้นซาก และยังช่วยดีท็อกซ์ผิวให้สะอาดหมดจด เมื่อใช้มาส์กสูตรนี้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น สิวอักเสบก็ลดลงเพราะไม่มีสิ่งสกปรกกระตุ้นให้ผิวระคายเคือง เพียงพอกมาส์กทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ก็เป็นอันเสร็จพิธี
2. ใช้มาส์กหลายประเภทบนใบหน้า (Multi-Masking) ในครั้งเดียว
สาวๆ มากมายมักเคยชินกับการใช้มาส์กโคลนแค่ชนิดเดียวทั่วหน้า แต่จริงๆ แล้ว ถ้าอยากใช้มาส์กให้เต็มประสิทธิภาพ ควรต้องใช้ผสมกัน 2-3 ชนิดในครั้งเดียวกัน! มาส์กโคลนแต่ละชนิด แต่ละสีก็มีสรรพคุณเด่นๆ แตกต่างกัน บางชนิดดูดซับสิ่งสกปรกได้ดี บางชนิดบำรุงให้ผิวนุ่ม บางชนิดกำจัดน้ำมันส่วนเกินโดยเฉพาะ จึงควรใช้ให้เหมาะสมกับผิวบริเวณนั้นๆ บนใบหน้าค่ะ
ตัวอย่างเช่น คนที่มีสภาพผิวที่มันแค่ช่วงทีโซน ก็ใช้มาส์กชาร์โคลสีดำแค่ส่วนของหน้าผากและจมูก ( ครึ่งบนของใบหน้า ) และใช้มาส์กสีเหลืองหรือชมพูที่ทำจาก Kaolin Clay ที่มีสรรพคุณดูดซับน้ำมัน ต่อต้านการอักเสบของผิว ที่ส่วนของแก้มและคาง เป็นต้น สามารถปรับแต่งได้ตามปัญหาผิวของสาวๆ แต่ละคนค่ะ อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดก่อนใช้มาส์ก พอกทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น เท่านี้ก็หน้าสวยใสได้ครบทุกส่วนของหน้าแล้ว!
ตัวอย่างเช่น คนที่มีสภาพผิวที่มันแค่ช่วงทีโซน ก็ใช้มาส์กชาร์โคลสีดำแค่ส่วนของหน้าผากและจมูก ( ครึ่งบนของใบหน้า ) และใช้มาส์กสีเหลืองหรือชมพูที่ทำจาก Kaolin Clay ที่มีสรรพคุณดูดซับน้ำมัน ต่อต้านการอักเสบของผิว ที่ส่วนของแก้มและคาง เป็นต้น สามารถปรับแต่งได้ตามปัญหาผิวของสาวๆ แต่ละคนค่ะ อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดก่อนใช้มาส์ก พอกทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น เท่านี้ก็หน้าสวยใสได้ครบทุกส่วนของหน้าแล้ว!
3. อายุมากขึ้น ควรใช้มาส์กหน้าที่ 'ผสมสครับ' ไปด้วยในตัว
เมื่อสาวๆ อายุมากขึ้น ร่างกายที่ปกติจะมีการผลัดเซลล์ผิวทุก 28 วัน ขจัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้ใสปิ๊ง จะเริ่มทำงานช้าลงเรื่อยๆ ทำให้ผิวเกิดการหมองคล้ำ เพราะเศษซากเซลล์ที่ตายแล้วยังติดค้างอยู่บนผิวหน้า เราจึงต้องมีตัวช่วยอย่าง ' สครับ ' ที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวยังดูสว่างใสอยู่เสมอ หรือจะเป็นสูตรผสมกรดผลไม้ AHA ที่ช่วยลอกผิวตามธรรมชาติก็ได้เช่นกันค่ะ
มาส์กเหล่านี้จะค่อยๆ ขจัดเซลล์ผิวเก่าออกจากชั้นบนสุดของผิวหนังที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้ผิวสะอาด สดชื่นขึ้นในทันที เพียงทามาส์กหน้าผสมสครับลงบนผิวหน้าที่ล้างสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ 5 นาที ( อย่านานเกินไป สครับบางสูตรมีฤทธิ์เป็นกรด จะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้ ) ก่อนจะใช้นิ้วนวดสครับวน เป็นวงกลมบนผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำ 2 ครั้ง/ สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะซิส
มาส์กเหล่านี้จะค่อยๆ ขจัดเซลล์ผิวเก่าออกจากชั้นบนสุดของผิวหนังที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้ผิวสะอาด สดชื่นขึ้นในทันที เพียงทามาส์กหน้าผสมสครับลงบนผิวหน้าที่ล้างสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ 5 นาที ( อย่านานเกินไป สครับบางสูตรมีฤทธิ์เป็นกรด จะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้ ) ก่อนจะใช้นิ้วนวดสครับวน เป็นวงกลมบนผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำ 2 ครั้ง/ สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะซิส
4. ใช้แปรงทารองพื้น ทามาส์กให้ทั่วผิวหน้าได้ ป้องกันมือเลอะ!
มาส์กบางชนิดมีส่วนผสมของ AHA ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด หากใช้มือเปล่าๆ ทามาส์กเป็นประจำ อาจมีผลข้างเคียงทำให้มือลอก มือแห้ง หรือถึงเป็นมาส์กสูตรธรรมดา สาวๆ บางคนก็ไม่อยากเอามือจุ่มลงไปให้เลอะ เสี่ยงเนื้อมาส์กผสมกับเชื้อโรคบนมือ แล้วนำมาป้ายทั่วหน้า สรุปแทนที่หน้าจะใส กลับสิวบุกกว่าเดิมแทน ร้องไห้ T^T
ตัวช่วยที่จะแก้ปัญหานี้ก็ง่ายๆ แค่ใช้ ' แปรงทารองพื้น ' ที่มีลักษณะแบบแบน นำมาทามาส์กให้ทั่วผิวหน้าแทน ( แนะนำให้ซื้อแบบใหม่เอี่ยมถอดด้าม เพราะหากเคยใช้ลงรองพื้นมาแล้ว ก็เสี่ยงที่จะมีเชื้อโรคติดค้างบนขนแปรงอยู่ดี และถ้าใช้ทามาส์กแล้ว จะไม่สามารถนำกลับไปลงรองพื้นได้อีก เพื่อสุขอนามัยที่ดี ) เมื่อใช้อุปกรณ์ช่วย ก็มั่นใจได้ว่าเนื้อมาส์กที่อยู่บนหน้าสะอาด ไม่เลอะเปรอะเปื้อน และยังเกลี่ยมาส์กบนหน้าได้ง่ายขึ้น เรียบเสมอกันกว่าใช้นิ้วมือเพียวๆ อีกด้วยนะ
ตัวช่วยที่จะแก้ปัญหานี้ก็ง่ายๆ แค่ใช้ ' แปรงทารองพื้น ' ที่มีลักษณะแบบแบน นำมาทามาส์กให้ทั่วผิวหน้าแทน ( แนะนำให้ซื้อแบบใหม่เอี่ยมถอดด้าม เพราะหากเคยใช้ลงรองพื้นมาแล้ว ก็เสี่ยงที่จะมีเชื้อโรคติดค้างบนขนแปรงอยู่ดี และถ้าใช้ทามาส์กแล้ว จะไม่สามารถนำกลับไปลงรองพื้นได้อีก เพื่อสุขอนามัยที่ดี ) เมื่อใช้อุปกรณ์ช่วย ก็มั่นใจได้ว่าเนื้อมาส์กที่อยู่บนหน้าสะอาด ไม่เลอะเปรอะเปื้อน และยังเกลี่ยมาส์กบนหน้าได้ง่ายขึ้น เรียบเสมอกันกว่าใช้นิ้วมือเพียวๆ อีกด้วยนะ
5. ใช้มาส์กพอกหน้าข้ามคืน (Overnight Mask) เป็นประจำ
สาวๆ ผิวมันเกินครึ่งที่หวาดกลัวการใช้ overnight mask หรือมาส์กพอกหน้าข้ามคืนเป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อสัมผัสที่มีภาพจำว่าต้องเป็นครีมเข้มข้น เหนียวๆ หนึบๆ กลัวทาแล้วสิวจะบุก เลอะหมอน แต่ถ้าอยากบำรุงผิวอย่างเต็มที่จริงๆ การใช้มาส์กแผ่นหรือมาส์กโคลนอาจไม่พอ ต้องใช้มาส์กในช่วงกลางคืนขณะหลับด้วย ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้แบบครีมเท่านั้น เดี๋ยวนี้ก็มีมาส์กเนื้อเจลที่ทาแล้วสบายหน้า แต่ให้ความชุ่มชื้นสูงในท้องตลาดให้เลือกมากมาย
หลักๆ ของการทามาส์กชนิดนี้คือ ล็อคความชุ่มชื้นของผิวหน้าไว้ตลอด 8 ชั่วโมงของการนอน เพื่อให้ตื่นมาหน้ายังนุ่ม ยังดูเฟรช ไม่ได้เกี่ยวกับลักษณะของเนื้อครีมเสมอไป หากมีผิวมันหรือผิวผสม ก็เลือกใช้เจลมาส์กทาให้ทั่วผิวหน้า สันกราม ไล่ลงมาถึงลำคอ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการใช้สกินแคร์ นวดวนเบาๆ ให้เนื้อซึมเข้าผิวก่อนเข้านอน ตื่นเช้ามารับรองว่าผลลัพธ์ปั๊วะปังชัวร์ๆ
หลักๆ ของการทามาส์กชนิดนี้คือ ล็อคความชุ่มชื้นของผิวหน้าไว้ตลอด 8 ชั่วโมงของการนอน เพื่อให้ตื่นมาหน้ายังนุ่ม ยังดูเฟรช ไม่ได้เกี่ยวกับลักษณะของเนื้อครีมเสมอไป หากมีผิวมันหรือผิวผสม ก็เลือกใช้เจลมาส์กทาให้ทั่วผิวหน้า สันกราม ไล่ลงมาถึงลำคอ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการใช้สกินแคร์ นวดวนเบาๆ ให้เนื้อซึมเข้าผิวก่อนเข้านอน ตื่นเช้ามารับรองว่าผลลัพธ์ปั๊วะปังชัวร์ๆ
6. เก็บรักษา 'มาส์กแผ่น (Sheet Mask)' ในที่เย็นเสมอ
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความงาม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe