

อื่น ๆ
หัวตื้อ คิดงานไม่ออก! 7 'วิธีฝึกฝนสมองให้มีประสิทธิภาพ' ความจำดีขึ้น มีสมาธิจดจ่อได้นานกว่าเดิม (*¯︶¯*)
เชื่อว่าสาวๆ ต้องมีโมเมนต์ 'หัวตื้อ มึนมาก คิดอะไรไม่ออกเลย แต่ต้องส่งงาน/สอบพรุ่งนี้แล้ว ทำไงดี!!' มาฝึกฝนสมองตามวิธีเด็ดๆ ในบทความนี้กัน รับรองว่าหัวไบรท์ขึ้นกว่าเดิมชัวร์ๆ!

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. ร่างกายห้ามขาดความชุ่มชื้น ต้อง 'ดื่มน้ำ' บ่อยๆ
2. ดื่ม 'ชาโรสแมรี่' ช่วยให้ความจำดีขึ้นกว่าเดิม
3. คุยกับคนเก่งๆ หาความรู้ประดับตัวอยู่เสมอ
4. เล่นเกมแนว 'ลับสมอง' ฝึกการแก้ไขปัญหา
5. งีบหลับสั้นๆ ก็ช่วยเพิ่ม 'สมาธิ' ได้นานขึ้น
6. อ่านหนังสือนิยาย
7. ทำสมาธิ กำจัดเรื่องฟุ้งซ่านรบกวนจิตใจ
สวัสดีค่ะ สาวๆ SistaCafe ที่กำลังมึนๆ อึนๆ หัวตื้อทั้งหลาย!
จะเป็นเด็กเนิร์ดอยากหาทริคเรียนเก่ง สอบแล้วแต่ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ หรือเป็นสาวออฟฟิศธรรมดาที่ต้องส่งสตอรี่บอร์ดให้เจ้านายพรุ่งนี้ แต่ยังหัวเบลอ คิดอะไรไม่ออก บทความนี้จะมีทางออกให้พวกเธอแน่นอน เพราะเรากำลังจะพูดถึงการ ' ฝึกสมอง ' นั่นเอง โดยปกติสมองของมนุษย์ทั่วไป จะใช้งานได้ไม่ครบ 100% อยู่แล้ว ยิ่งพ่วงสภาพแวดล้อมที่แย่ อาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ความเครียด ผลกระทบต่อจิตใจ ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพของสมองแย่ลงได้ง่ายๆ เลยล่ะค่ะ
แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราสามารถบูสต์พลังความคิด ความสร้างสรรค์ของสมองที่เคยมีกลับมาได้ ด้วยการฝึกการทำงานของสมองตาม 7 ข้อในบทความนี้ รับรองว่าทำตามที่แนะนำ ความจำของเธอจะดีขึ้น แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้รวดเร็วขึ้น อารมณ์ฟุ้งซ่านจางหายไปได้ มากหรือน้อยแล้วแต่คน แต่ดีกว่านั่งเครียดอยู่เฉยๆ แน่นอน =w=b
จะต้องทำอะไรเพื่อพัฒนาสมองบ้างนั้น เราไปดูกันเลยดีกว่าค่า
1. ร่างกายห้ามขาดความชุ่มชื้น ต้อง 'ดื่มน้ำ' บ่อยๆ
อยากหัวแล่น หัวไบรท์ คิดงานออก ลองทบทวนตัวเองก่อนว่า ' ดื่มน้ำเพียงพอต่อวัน ' แล้วหรือยัง ต้องบอกก่อนว่า ร่างกายของเรามีปริมาณน้ำในร่างกายเกือบ 70% ซึ่งแยกเป็นน้ำในเซลล์ น้ำนอกเซลล์ ในเนื้อเยื่อ รวมถึงน้ำที่หล่อเลี้ยงสมองด้วย และเลือดที่ไหลเวียนทั่วร่างกาย ทุกวันจะมีการขับของเหลวออกมาในรูปแบบเหงื่อและปัสสาวะ จึงต้องดื่มน้ำเพื่อทำให้ระบบในร่างกายทำงานเป็นปกติ ของเหลวสมดุลค่ะ
หากขาดน้ำเป็นเวลานานๆ จะไม่มีของเหลวไปหล่อเลี้ยงสมอง การทำงานของสมองจะแย่ลงทันที ส่งผลให้หัวตื๊อ คิดอะไรไม่ออก ไม่มีสมาธิได้เป็นเรื่องปกติ ยิ่งขาดน้ำนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งปวดหัว มึนหัวมากเท่านั้น จึงต้องดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน ดื่มแก้วแรกตอนเช้าหลังตื่นนอนทันที เพื่อดีท็อกซ์สารพิษและของเสียในร่างกาย หลังจากนั้นก็จิบเรื่อยๆ ทั้งวันเพื่อเติมความชุ่มชื้น ถ้าตอนนี้มึนๆ เบลอๆ ลองดื่มน้ำไปแก้วสองแก้วดูค่ะ รับรองหัวโล่ง สดใสขึ้นชัวร์
หากขาดน้ำเป็นเวลานานๆ จะไม่มีของเหลวไปหล่อเลี้ยงสมอง การทำงานของสมองจะแย่ลงทันที ส่งผลให้หัวตื๊อ คิดอะไรไม่ออก ไม่มีสมาธิได้เป็นเรื่องปกติ ยิ่งขาดน้ำนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งปวดหัว มึนหัวมากเท่านั้น จึงต้องดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน ดื่มแก้วแรกตอนเช้าหลังตื่นนอนทันที เพื่อดีท็อกซ์สารพิษและของเสียในร่างกาย หลังจากนั้นก็จิบเรื่อยๆ ทั้งวันเพื่อเติมความชุ่มชื้น ถ้าตอนนี้มึนๆ เบลอๆ ลองดื่มน้ำไปแก้วสองแก้วดูค่ะ รับรองหัวโล่ง สดใสขึ้นชัวร์
2. ดื่ม 'ชาโรสแมรี่' ช่วยให้ความจำดีขึ้นกว่าเดิม
การได้ดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรดีๆ ก็ช่วยกระตุ้นความจำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ เราขอแนะนำเป็น ' โรสแมรี่ ' สมุนไพรที่ขึ้นชื่อเรื่องการเยียวยาภาวะความจำแย่ ให้กลับมาจำสิ่งต่างๆ ได้แม่นยำยิ่งขึ้น อีกทั้งกลิ่นของโรสแมรี่ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ความจำในอนาคตให้สมองได้อีกด้วย ซึ่งจะเกี่ยวกับความจำที่จัดการเหตุการณ์และแผนการต่างๆ ในวันข้างหน้าค่ะ
นอกจากอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรชนิดนี้แล้ว ดื่ม ' ชาโรสแมรี่ ' ที่ทำจากน้ำร้อนและใส่โรสแมรี่ลงไป ก็ช่วยเพิ่มความสามารถในการจำได้มากขึ้นเล็กน้อย หากรู้สึกขมหรือเฝื่อนปาก สามารถเติมน้ำผึ้งเพิ่มความหวานละมุนให้ดื่มง่ายยิ่งขึ้นได้ค่ะ
**หากหาโรสแมรี่ได้ยากและโหยหาคาเฟอีน อีกตัวเลือกที่อยากแนะนำคือ ' ชาเขียว ' นอกจากกระตุ้นระบบเผาผลาญ ลดน้ำหนักได้ดีแล้ว ยังมีกรดอะมิโนพิเศษที่เรียกว่า l-theanine ช่วยเพิ่มการทำงานของคลื่นสมองอัลฟ่า ทำให้จดจ่อมีสมาธิได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
นอกจากอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรชนิดนี้แล้ว ดื่ม ' ชาโรสแมรี่ ' ที่ทำจากน้ำร้อนและใส่โรสแมรี่ลงไป ก็ช่วยเพิ่มความสามารถในการจำได้มากขึ้นเล็กน้อย หากรู้สึกขมหรือเฝื่อนปาก สามารถเติมน้ำผึ้งเพิ่มความหวานละมุนให้ดื่มง่ายยิ่งขึ้นได้ค่ะ
**หากหาโรสแมรี่ได้ยากและโหยหาคาเฟอีน อีกตัวเลือกที่อยากแนะนำคือ ' ชาเขียว ' นอกจากกระตุ้นระบบเผาผลาญ ลดน้ำหนักได้ดีแล้ว ยังมีกรดอะมิโนพิเศษที่เรียกว่า l-theanine ช่วยเพิ่มการทำงานของคลื่นสมองอัลฟ่า ทำให้จดจ่อมีสมาธิได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
3. คุยกับคนเก่งๆ หาความรู้ประดับตัวอยู่เสมอ
มนุษย์เป็นสังคม เราแชร์ประสบการณ์ วัฒนธรรมและประเพณีผ่านสิ่งที่เรียกว่า ' การสนทนาพูดคุย ' มาตั้งแต่ยุคถ้ำเมื่อหลายแสนปีก่อน ดังนั้นถ้าเราอยากเพิ่มความเก่ง ความฉลาด ให้สมองได้พัฒนา ก็ต้องเอาตัวเองไปอยู่ในวงสังคมที่มีคนเก่งเยอะๆ ทั้งในด้านตรรกะและความคิดสร้างสรรค์ ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเรียนดีอย่างเดียว คนที่เก่งเฉพาะด้านในเรื่องต่างๆ ก็ถือว่าเป็นคนเก่งเหมือนกัน จะเป็นเพื่อน รุ่นพี่ คนรู้จัก อาจารย์ที่นับถือ ก็ได้หมด
เมื่อได้คุยบ่อยๆ แลกเปลี่ยนความคิดกัน ตามจิตวิทยาแล้วเราจะรู้สึกว่าต้องพยายามตามคนเหล่านั้นให้ทัน ทำให้เธอพัฒนาความสามารถและผลักดันตัวเองให้โฟกัสสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว แนะนำให้เวลาคุย เลือกหัวข้อที่ไม่ใช่แค่ดินฟ้าอากาศ แต่เป็นเรื่องลึกๆ ที่มีประเด็นไว้ถกเถียงกันได้ การหาข้อมูลสนับสนุนหรือโต้แย้งสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ก็เป็นเรื่องท้าทายของสมอง ทำให้สมองได้ใช้งานมากขึ้น แถมได้ความรู้เพิ่มด้วย มีแต่ได้กับได้ค่ะ
เมื่อได้คุยบ่อยๆ แลกเปลี่ยนความคิดกัน ตามจิตวิทยาแล้วเราจะรู้สึกว่าต้องพยายามตามคนเหล่านั้นให้ทัน ทำให้เธอพัฒนาความสามารถและผลักดันตัวเองให้โฟกัสสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นโดยไม่รู้ตัว แนะนำให้เวลาคุย เลือกหัวข้อที่ไม่ใช่แค่ดินฟ้าอากาศ แต่เป็นเรื่องลึกๆ ที่มีประเด็นไว้ถกเถียงกันได้ การหาข้อมูลสนับสนุนหรือโต้แย้งสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ก็เป็นเรื่องท้าทายของสมอง ทำให้สมองได้ใช้งานมากขึ้น แถมได้ความรู้เพิ่มด้วย มีแต่ได้กับได้ค่ะ
4. เล่นเกมแนว 'ลับสมอง' ฝึกการแก้ไขปัญหา
สาวๆ คนไหนสายเกมเมอร์ น่าจะรู้ดีว่าเกมหลายประเภทที่ผู้ใหญ่หัวโบราณในสังคมคิดว่าทำให้เด็กไม่สนใจเรียน ขี้เกียจ ก่อเหตุอาชญากรรม ล้วนเป็นความเข้าใจผิดๆ เพราะเกมมากมายคือจุดกำเนิดของการต่อยอดสิ่งดีๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือการลับสมองให้เฉียบคม รู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าผ่านเกม รู้จักการวางแผนผ่านเกมที่ต้องเล่นเป็นทีม หรือเล่นเพื่อผ่านด่านต่างๆ อันที่จริงเด็กเรียนเก่งระดับมันสมองเทพมากมาย ก็ใช้เกมนี่แหละช่วยพัฒนาความสามารถของพวกเขา แถมยังผ่อนคลาย ให้ความสนุกสนานไปด้วยในตัวค่ะ
ไม่ว่าจะเกมแบบใช้มือ หรือเกมออนไลน์ในสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ก็ช่วยขัดเกลาสมองได้ เลือกแนวที่ชอบจะดีที่สุด เราแนะนำเป็นแนว puzzle ใช้ความคิดแก้ปริศนา หรือจะเป็นแนว Strategy เน้นวางแผน, RPG เล่นตามบทบาทที่ได้รับ ทั้งหมดช่วยพัฒนาทั้งส่วนของตรรกะ ( logic ) และความคิดสร้างสรรค์ ( creative ) ได้ดีสุดๆ เลยล่ะค่ะ แต่ก็อย่าทุ่มให้เกมจนลืมใช้ชีวิตล่ะ แบ่งเวลาให้เป็นด้วย จะได้ไม่มีใครมาบ่นว่าภายหลังได้ค่ะ
ไม่ว่าจะเกมแบบใช้มือ หรือเกมออนไลน์ในสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ก็ช่วยขัดเกลาสมองได้ เลือกแนวที่ชอบจะดีที่สุด เราแนะนำเป็นแนว puzzle ใช้ความคิดแก้ปริศนา หรือจะเป็นแนว Strategy เน้นวางแผน, RPG เล่นตามบทบาทที่ได้รับ ทั้งหมดช่วยพัฒนาทั้งส่วนของตรรกะ ( logic ) และความคิดสร้างสรรค์ ( creative ) ได้ดีสุดๆ เลยล่ะค่ะ แต่ก็อย่าทุ่มให้เกมจนลืมใช้ชีวิตล่ะ แบ่งเวลาให้เป็นด้วย จะได้ไม่มีใครมาบ่นว่าภายหลังได้ค่ะ
5. งีบหลับสั้นๆ ก็ช่วยเพิ่ม 'สมาธิ' ได้นานขึ้น
แน่ะ รู้นะว่าสาวๆ หลายคนทำบ่อย ก็ลมมันเย็นสบายนี่เนอะ เจอสถานที่เหมาะๆ แถมเมื่อคืนก็ไม่ค่อยได้นอน อะ ทิ้งตัวหลับซะหน่อย! แม้จะโดนผู้ใหญ่บางคนมองว่าขี้เกียจ ขี้เซา แต่ที่จริงแล้วการได้งีบหลับในช่วงเวลาสั้นๆ มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับแล้วว่า ช่วยพัฒนาสมองในด้านของสมาธิได้ดีมาก และยังเพิ่มประสิทธิภาพให้สมองใช้งานได้ดีขึ้น ในวันที่สมองเฉื่อย เหนื่อยล้า คิดอะไรได้ไม่ราบรื่นเหมือนปกติ
สำหรับสาวๆ คนไหนที่ยังเป็นวัยเรียนนั้น การได้งีบสั้นๆ ยังช่วยเพิ่มอัตราความเร็วในการเรียนรู้ ทำให้ทบทวนบทเรียนได้เร็วขึ้น แต่การงีบนั้นต้องจำกัดเวลาไม่เกิน 20 นาที หากนอนนานเกินไปร่างกายจะเข้าสู่โหมดหลับลึก ร่างกายเปลี่ยนโหมดเป็นพร้อมนอนยาวแล้ว ซึ่งจะทำให้รู้สึกมึนงง และเบลอหลังตื่นได้
สำหรับสาวๆ คนไหนที่ยังเป็นวัยเรียนนั้น การได้งีบสั้นๆ ยังช่วยเพิ่มอัตราความเร็วในการเรียนรู้ ทำให้ทบทวนบทเรียนได้เร็วขึ้น แต่การงีบนั้นต้องจำกัดเวลาไม่เกิน 20 นาที หากนอนนานเกินไปร่างกายจะเข้าสู่โหมดหลับลึก ร่างกายเปลี่ยนโหมดเป็นพร้อมนอนยาวแล้ว ซึ่งจะทำให้รู้สึกมึนงง และเบลอหลังตื่นได้
6. อ่านหนังสือนิยาย
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดอื่น ๆ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe