ถ้าละเลยในการปฏิบัติตามหลัก 7 ข้อนี้ ก็ลืมคำว่าผิวสวยเพอร์เฟกต์ไปได้เลยจ้า

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. บำรุงผิวดีแค่ไหน ถ้าไม่ทา 'ครีมกันแดด' ทุกวัน ก็ไร้ค่า!
2. ทำความสะอาดผิวหน้า 'เช้า-เย็น' ห้ามขี้เกียจ
3. สครับ ผลัดเซลล์ผิวหน้า-ผิวตัว ทุกสัปดาห์ ถ้าไม่อยากผิวหมอง!
4. จะมีสภาพผิวแบบไหน ก็ต้องใช้ 'มอยส์เจอไรเซอร์' คนผิวมันก็ต้องทา!
5. น้ำเปล่า คือมอยส์เจอไรเซอร์แบบดื่มที่ราคาถูกที่สุดแล้ว ดื่มเยอะๆ!
6. สิวบนหน้าจะยั่วยวนใจแค่ไหน ก็ยั้งมือไว้ อย่าไปบีบเด็ดขาด
7. เช็ดเครื่องสำอางบนหน้าให้เกลี้ยง 'ทุกครั้ง' ก่อนเข้านอน
สวัสดีค่าา สาวๆ SistaCafe คนอยากผิวดี ผิวสวยทุกคน (*˘︶˘*).。.:*♡
ในยุคนี้มีสกินแคร์ส่วนผสมล้ำๆ แพงๆ ที่โฆษณาว่ามีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวแบบ 10 in 1 ออกมามากมาย คลินิกดูแลผิวก็มักมีคอร์สมหัศจรรย์ประเภทที่ว่า แค่ฉีดๆ ทาๆ ไม่กี่ครั้ง ( ในราคาสูงลิบลิ่ว ) ก็มีผิวสวยเรียบเนียนเหมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิดได้ ซึ่งสาวๆ มากมายที่ชีวิตเร่งรีบ ไม่มีเวลา และเอาจริงๆ ก็ขี้เกียจ จึงซื้อสกินแคร์ราคาฟันหัวแบะเหล่านี้มาใช้ หรือซื้อคอร์สเหล่านี้เพื่อหวังกู้ผิวตัวเอง ซึ่งระหว่างทำน่ะผิวก็ดูดีอยู่หรอก แต่พอจบคอร์ส หรือใช้ครีมหมดขวดเท่านั้นแหละ เหมือนฤทธิ์เวทมนตร์หายวับ ผิวหน้าผิวตัวก็กลับมาอยู่สภาพเดิม งง ที่ผ่านมาฉันแค่ฝันไปเหรอ //แต่จ่ายเงินไปจริงๆ นี่สิ... #ร้องไห้หนักมาก
ไม่ว่าเธอจะมีสภาพผิวแบบไหน การใช้ทางลัดเหล่านี้ก็ให้ผลได้เพียงชั่วเวลาสั้นๆ เท่านั้น อยากมีผิวสวยนานๆ ต้องปูพื้นบำรุงสภาพผิวตั้งแต่พื้นฐาน ด้วย ' 7 หลักพื้นฐานสำคัญใน SkinCare Routine ของสาวผิวสวย ' ควบคู่กับสกินแคร์ที่ไม่จำเป็นต้องแพง แต่ต้องมีวินัยใช้เป็นประจำเท่านั้นเอง อยากมีผิวสวยเป๊ะต้องทำยังไงบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่าค่า Let's Go Girl!
1. บำรุงผิวดีแค่ไหน ถ้าไม่ทา 'ครีมกันแดด' ทุกวัน ก็ไร้ค่า!
ถ้าต้องไปติดเกาะห่างไกล แล้วต้องเลือกสกินแคร์ไปด้วยได้แค่อย่างเดียว เรา recommend แรงๆ ให้เลือก ' ครีมกันแดด ' เพราะเป็นไอเทมช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวถึงชั้นในได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว! จะในวันแดดจัด วันฝนตก หรือวันฟ้าครึ้ม แสงแดดก็ยังส่องรังสียูวีผ่านชั้นบรรยากาศลงมาอยู่ดี เธอจึงต้องทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกายทุกวันให้ติดเป็นนิสัยค่ะ ห้ามลืมเด็ดขาด!
หากลืมทากันแดดเป็นเวลานาน จะสังเกตได้เลยว่าผิวจะหมองคล้ำและมีริ้วรอยมากขึ้น เรียกง่ายๆ ว่า ' ผิวดูแก่ลง ' เพราะรังสียูวีจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ถ้าเป็นเด็กๆ หรือวัยรุ่นยังกู้ผิวได้เร็ว แต่หากอายุ 25 ปีขึ้นไปเมื่อไหร่ล่ะก็ ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนน้อยลงเรื่อยๆ ผิวจะเริ่มแห้งกร้าน มีริ้วรอยและจุดด่างดำ ฝ้ากระก็มา ผิวไม่อิ่มเด้งเหมือนก่อน หากมีปัจจัยกระตุ้นอย่างแสงแดดเข้าไปอีก ผิวอาจพังถาวรเลยก็เป็นได้! โดยเลือกที่เหมาะกับสภาพผิว ถ้าผิวมันก็ใช้แบบเจลหรือโลชั่น ผิวแห้งก็ใช้แบบครีม ถ้าผิวผสมก็เลือกที่เหมาะกับสภาพผิวในช่วงนั้นๆ ค่ะ
หากลืมทากันแดดเป็นเวลานาน จะสังเกตได้เลยว่าผิวจะหมองคล้ำและมีริ้วรอยมากขึ้น เรียกง่ายๆ ว่า ' ผิวดูแก่ลง ' เพราะรังสียูวีจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ถ้าเป็นเด็กๆ หรือวัยรุ่นยังกู้ผิวได้เร็ว แต่หากอายุ 25 ปีขึ้นไปเมื่อไหร่ล่ะก็ ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนน้อยลงเรื่อยๆ ผิวจะเริ่มแห้งกร้าน มีริ้วรอยและจุดด่างดำ ฝ้ากระก็มา ผิวไม่อิ่มเด้งเหมือนก่อน หากมีปัจจัยกระตุ้นอย่างแสงแดดเข้าไปอีก ผิวอาจพังถาวรเลยก็เป็นได้! โดยเลือกที่เหมาะกับสภาพผิว ถ้าผิวมันก็ใช้แบบเจลหรือโลชั่น ผิวแห้งก็ใช้แบบครีม ถ้าผิวผสมก็เลือกที่เหมาะกับสภาพผิวในช่วงนั้นๆ ค่ะ
2. ทำความสะอาดผิวหน้า 'เช้า-เย็น' ห้ามขี้เกียจ
แม้จะขี้เกียจ หรือตื่นสายแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่ควรล้างหน้าต่ำกว่า 2 ครั้งต่อวัน คือช่วงเช้าและเย็น ยิ่งในสภาพอากาศร้อนชื้น ชวนให้ตัวเหนียวหนับอย่างประเทศไทย การปล่อยผิวสกปรกๆ ไว้หลายชั่วโมงต่อเนื่องโดยไม่ทำความสะอาด ทั้งฝุ่น น้ำมัน เหงื่อ สิ่งสกปรก คราบเมคอัพ มลภาวะใดๆ ยกทัพกันเข้ามาเกาะผิวแบบ non stop แน่นอน นานเข้าถ้าสิวไม่บุก ผิวก็จะหมองคล้ำ ดูไม่กระจ่างใสค่ะ
ทั้งนี้การล้างหน้าโดยใช้โฟม SLS ที่เป็นด่างเกินไป หรือล้างบ่อยเป็นสิบๆ ครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะผิวหน้าก็ยังต้องการน้ำมันมาหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติ สภาพผิวที่แห้งผากที่บางคนอาจคิดว่าดี อาจกระตุ้นให้ร่างกายคิดว่าผิวไม่สมดุล จึงระคายเคืองและมีสิวเกิดขึ้นใหม่ได้ ( ใช่ค่ะ สิวจะขึ้นไม่ใช่เพราะผิวมันอย่างเดียว ผิวแห้งก็เกิดได้เช่นกัน ) หากเป็นสาวผิวแห้งมาก ช่วงเช้าจะล้างด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว หรือใช้โฟมสูตรอ่อนโยนจะดีกว่า แล้วค่อยล้างด้วยรีมูฟเวอร์และโฟมล้างหน้าแบบจัดเต็มสองรอบ ( Double Cleansing ) ในตอนเย็นค่ะ
ทั้งนี้การล้างหน้าโดยใช้โฟม SLS ที่เป็นด่างเกินไป หรือล้างบ่อยเป็นสิบๆ ครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะผิวหน้าก็ยังต้องการน้ำมันมาหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติ สภาพผิวที่แห้งผากที่บางคนอาจคิดว่าดี อาจกระตุ้นให้ร่างกายคิดว่าผิวไม่สมดุล จึงระคายเคืองและมีสิวเกิดขึ้นใหม่ได้ ( ใช่ค่ะ สิวจะขึ้นไม่ใช่เพราะผิวมันอย่างเดียว ผิวแห้งก็เกิดได้เช่นกัน ) หากเป็นสาวผิวแห้งมาก ช่วงเช้าจะล้างด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว หรือใช้โฟมสูตรอ่อนโยนจะดีกว่า แล้วค่อยล้างด้วยรีมูฟเวอร์และโฟมล้างหน้าแบบจัดเต็มสองรอบ ( Double Cleansing ) ในตอนเย็นค่ะ
3. สครับ ผลัดเซลล์ผิวหน้า-ผิวตัว ทุกสัปดาห์ ถ้าไม่อยากผิวหมอง!
ไม่ว่าสาวๆ จะมีสีผิวแบบไหน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะดูผิวหมองลงได้ ไม่ใช่แค่สาวผิวขาวเพียงอย่างเดียว และสาเหตุก็คือเธออาจไม่ได้ ' ผลัดเซลล์ผิวหน้า ' ได้บ่อยมากพอ บางคนกลัวเจ็บจึงไม่ยอมแตะสครับเลย แต่ที่จริงอายุยิ่งมากขึ้น ยิ่งต้องเริ่มหัดใช้สครับ เพราะร่างกายผลัดเซลล์ผิวเก่าได้ช้ากว่าเดิม จากที่รอบปกติคือ 28 วัน ก็อาจนานกว่านั้น และบางทีก็ผลัดได้ไม่หมด มีสิ่งตกค้างหลงเหลือเพราะเซลล์ไม่แข็งแรงเหมือนสาวๆ วัยรุ่นนั่นเอง
สครับจึงถือเป็นตัวช่วยชั้นเยี่ยม ให้ผิวหน้า ผิวตัวกระจ่างใสอยู่เสมอ กระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าหลุดลอก กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ เลือกเป็นสูตรอ่อนโยน เกล็ดไม่ใหญ่บาดผิว แต่ก็ไม่ควรใช้บ่อยจนเกินไป ไม่ใช่ขัดหน้ามันทุกวัน กลัวหน้าไม่ใส อันนี้ก็เกินลิมิตไป เดี๋ยวผิวจะระคายเคืองจนเป็นแผลแทน แค่สัปดาห์ละครั้งก็นับว่าเพียงพอแล้ว! ( หากมีผิวที่ค่อนข้างแข็งแรงไม่แพ้ง่าย ถ้าอยากขัดทุกวันก็ใช้สครับเนื้อละเอียดและนุ่มนิดนึง แต่ยังไงก็แนะนำว่าสัปดาห์ละครั้งก็พอ )
สครับจึงถือเป็นตัวช่วยชั้นเยี่ยม ให้ผิวหน้า ผิวตัวกระจ่างใสอยู่เสมอ กระตุ้นให้เซลล์ผิวเก่าหลุดลอก กระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ เลือกเป็นสูตรอ่อนโยน เกล็ดไม่ใหญ่บาดผิว แต่ก็ไม่ควรใช้บ่อยจนเกินไป ไม่ใช่ขัดหน้ามันทุกวัน กลัวหน้าไม่ใส อันนี้ก็เกินลิมิตไป เดี๋ยวผิวจะระคายเคืองจนเป็นแผลแทน แค่สัปดาห์ละครั้งก็นับว่าเพียงพอแล้ว! ( หากมีผิวที่ค่อนข้างแข็งแรงไม่แพ้ง่าย ถ้าอยากขัดทุกวันก็ใช้สครับเนื้อละเอียดและนุ่มนิดนึง แต่ยังไงก็แนะนำว่าสัปดาห์ละครั้งก็พอ )
4. จะมีสภาพผิวแบบไหน ก็ต้องใช้ 'มอยส์เจอไรเซอร์' คนผิวมันก็ต้องทา!
หลักพื้นฐานในการบำรุงผิว จะผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ยังไงก็ต้องใช้ ' มอยส์เจอไรเซอร์ ' อยู่ดี หนีไม่พ้นหรอกค่ะซิส แค่ต้องเลือกประเภทเนื้อให้เหมาะกับผิวเท่านั้นเอง! เพราะผิวของเรามีการผลัดเซลล์เก่าออก และสูญเสียความชุ่มชื้นออกไปในทุกๆ วัน ยิ่งอายุที่ไม่ใช่เด็กแล้ว น้ำในผิวก็จะระเหยออกไปเยอะขึ้น น้ำมันบนผิวน้อยลง กลับมาเต่งตึงแบบเดิมได้ยากขึ้น จึงต้องใช้ครีมบำรุงอยู่เสมอทั้งเช้า-เย็น
สาวผิวมันหลายคนปฏิเสธที่จะทาครีม กลัวผิวเหนียวเหนอะหนะ กลัวสิวขึ้นด้วยความเชื่อใดๆ ก็ตาม ถ้าไปถามหมอผิวหนังจะรู้เลยว่าเป็นความคิดที่ผิดมาก! เพราะคนผิวมันมากมายที่ชั้นผิวข้างในแห้งมาก ต่อมไขมันจึงถูกกระตุ้นให้ผลิตออกมามากขึ้นเพื่อรักษาสมดุล ทำให้ผิวชั้นนอกดูมัน แต่จริงๆ มันขาดความชุ่มชื้นขั้นรุนแรงเลยล่ะ ดังนั้นอย่าลืมทาเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการใช้สกินแคร์ เพื่อให้ผิวสวยนุ่มเด้งทุกครั้งที่สัมผัสนะคะ
สาวผิวมันหลายคนปฏิเสธที่จะทาครีม กลัวผิวเหนียวเหนอะหนะ กลัวสิวขึ้นด้วยความเชื่อใดๆ ก็ตาม ถ้าไปถามหมอผิวหนังจะรู้เลยว่าเป็นความคิดที่ผิดมาก! เพราะคนผิวมันมากมายที่ชั้นผิวข้างในแห้งมาก ต่อมไขมันจึงถูกกระตุ้นให้ผลิตออกมามากขึ้นเพื่อรักษาสมดุล ทำให้ผิวชั้นนอกดูมัน แต่จริงๆ มันขาดความชุ่มชื้นขั้นรุนแรงเลยล่ะ ดังนั้นอย่าลืมทาเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการใช้สกินแคร์ เพื่อให้ผิวสวยนุ่มเด้งทุกครั้งที่สัมผัสนะคะ
5. น้ำเปล่า คือมอยส์เจอไรเซอร์แบบดื่มที่ราคาถูกที่สุดแล้ว ดื่มเยอะๆ!
นอกจาก ' น้ำเปล่า ' จะมีคุณประโยชน์มากมายในด้านสุขภาพ เช่น ช่วยดีท็อกซ์ระบบในร่างกายให้สะอาด, ทำให้ระบบเลือดไหลเวียนเป็นปกติ, รักษาสมดุลกรดด่างในเลือดแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ไม่ต่างกับครีมบำรุงผิวเคาน์เตอร์แบรนด์เลย จะบอกว่าน้ำเปล่าเป็นมอยส์เจอไรเซอร์แบบดื่มที่ราคาถูก ปลอดภัยสำหรับสาวๆ ทุกคนก็ยังได้
ใครที่ปกติดื่มน้ำน้อยในชีวิตประจำวัน อายุยังน้อยอาจยังไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน แต่เมื่ออายุเลย 25 ขึ้นไป จะเห็นเลยว่าสุขภาพร่างกายและผิวแย่ลง ผิวดูเหี่ยวๆ ริ้วรอยเยอะกว่าที่ควรเป็น จึงควรปรับนิสัยให้ชินซะตั้งแต่วันนี้ พยายามดื่มให้ได้อย่างน้อย 8 แก้วหรือ 2 ลิตร ( ถ้าเทียบกับน้ำขวดใหญ่ ก็ดื่มขวดครึ่ง ) ลองดื่มต่อเนื่องสักเดือน ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวจนรู้สึกได้แล้ว ผิวจะใสๆ เต่งๆ เด้งเหมือนมีน้ำห่อหุ้มอยู่ข้างใน ถ้าไม่เชื่อก็ทดสอบดูได้เลย ♡ ~('▽^人)
ใครที่ปกติดื่มน้ำน้อยในชีวิตประจำวัน อายุยังน้อยอาจยังไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน แต่เมื่ออายุเลย 25 ขึ้นไป จะเห็นเลยว่าสุขภาพร่างกายและผิวแย่ลง ผิวดูเหี่ยวๆ ริ้วรอยเยอะกว่าที่ควรเป็น จึงควรปรับนิสัยให้ชินซะตั้งแต่วันนี้ พยายามดื่มให้ได้อย่างน้อย 8 แก้วหรือ 2 ลิตร ( ถ้าเทียบกับน้ำขวดใหญ่ ก็ดื่มขวดครึ่ง ) ลองดื่มต่อเนื่องสักเดือน ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวจนรู้สึกได้แล้ว ผิวจะใสๆ เต่งๆ เด้งเหมือนมีน้ำห่อหุ้มอยู่ข้างใน ถ้าไม่เชื่อก็ทดสอบดูได้เลย ♡ ~('▽^人)
6. สิวบนหน้าจะยั่วยวนใจแค่ไหน ก็ยั้งมือไว้ อย่าไปบีบเด็ดขาด
รู้ว่าสิวอักเสบเม็ดใหญ่บนหน้าน่ะมันยั่วยวนใจ ชวนให้เอานิ้วมือไปบีบสุดๆ แต่ถ้าอยากผิวสวยเรียบเนียน ยังไงก็ต้องข่มใจไว้! เพราะรอยสิวบนผิวหน้าน่ะ ถ้าเกิดขึ้นแล้วโอกาสที่ผิวจะกลับมาเรียบเนียน 100% นั้นน้อยมากหากไม่ไปเลเซอร์ ซึ่งราคาสูงลิบลิ่วสำหรับนักเรียนนักศึกษา แก้ไขที่ต้นเหตุด้วยการไม่ไปบีบให้เกิดรอย เกิดแผลเป็นแต่แรกจะดีที่สุดค่ะ
ไม่ใช่แค่บีบสิวนะ แต่ไม่ควรเอามือไปสัมผัสเลยด้วยประการทั้งปวง! เพราะในวันๆ หนึ่ง เราใช้มือหยิบจับสิ่งของมากมาย ราวบันไดเอย กลอนประตูเอย โต๊ะทำงานเอย ที่แฝงไปด้วยสิ่งสกปรกและเชื้อโรคเต็มไปหมด ยิ่งจับหน้าบ่อยๆ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เชื้อโรคเข้าไปเกาะ อุดตันรูขุมขนกันเพลินเลย ดังนั้นอย่าเสี่ยงจะดีกว่า เอามือให้ห่างๆ ใบหน้าเข้าไว้ค่ะ ฮึบ!!
ไม่ใช่แค่บีบสิวนะ แต่ไม่ควรเอามือไปสัมผัสเลยด้วยประการทั้งปวง! เพราะในวันๆ หนึ่ง เราใช้มือหยิบจับสิ่งของมากมาย ราวบันไดเอย กลอนประตูเอย โต๊ะทำงานเอย ที่แฝงไปด้วยสิ่งสกปรกและเชื้อโรคเต็มไปหมด ยิ่งจับหน้าบ่อยๆ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เชื้อโรคเข้าไปเกาะ อุดตันรูขุมขนกันเพลินเลย ดังนั้นอย่าเสี่ยงจะดีกว่า เอามือให้ห่างๆ ใบหน้าเข้าไว้ค่ะ ฮึบ!!
7. เช็ดเครื่องสำอางบนหน้าให้เกลี้ยง 'ทุกครั้ง' ก่อนเข้านอน
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความงาม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe