298184aba7de97de60284052316f843f
Articles etc
อื่น ๆ

#เขาว่ากันว่า ep1 : เรียนมหาลัยสบายกว่าเรียนมัธยมเป็นไหนๆ จริงหรอ?

เปิดสตอรี่ใหม่อีกแล้ว! วันนี้มาที่เรื่องของ #เขาว่ากันว่า ซึ่งเป็นหมวดที่เราจะมาแชร์ประสบการณ์และความคิดส่วนตัวที่พบมา ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน วันนี้เริ่มเรื่องเบสิคๆ ที่เคยได้ยินคนพูดกันเยอะมากว่า เรียนมหาลัยสบายกว่าเรียนมัธยมเป็นไหนๆ เอ๊ะ! มันจริงหรอ


» » - - - » - »
Sistacafe button sharefb
Down

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • [แสดง]
  • [ซ่อน]
    • 1. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัย ไม่ต้องตื่นเช้าเท่าเรียนมัธยม

    • 2. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัยสบ๊ายสบาย ใช้ชีวิตได้ตามใจฉัน!

    • 3. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัยชิลล์เวอร์ การบ้านไม่เยอะเท่ามัธยม

    • 4. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัย อิสระเพียบ! ไม่ต้องยึดกฎเกณฑ์อะไรมาก

    • 5. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัย ครูไม่จิกเท่ากับมัธยม

    • 6. เขาว่ากันว่า เราจะค้นพบตัวเองได้ตอนเรียนมหาลัย

    • 7. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัยเท่ากับโตแล้ว!

     

    Hi Sis! เปิดสตอรี่ใหม่อีกแล้วจ้า สำหรับหมวดนี้ เราจะมาแชร์เรื่องราวทั้งหมดในชีวิต ที่ดิฉันประสบพบเจอมา ต้องบอกก่อนว่า สตอรี่ #เขาว่ากันว่า ทั้งหมด มาจากความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนตัว ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงกับเพื่อนๆ ก็ได้ ในวันนี้เรามากันในหัวข้อสุดฮิตในหมู่เด็กมัธยม เชื่อว่าต้องมีความคิดนี้แว็บเข้ามาในหัวเพื่อนๆ บ้างแหละตอนสมัยเรียน เราก็เคยเหมือนกัน! จริงหรือไม่ เรียนมหาลัยสบายกว่าเรียนมันธยมเป็นไหนๆ วันนี้ขอแชร์ความรู้สึกส่วนตัวหน่อย จะมาเล่าให้ฟังว่า สรุปแล้วความคิดแบบนี้ มันจริงมั้ย เผื่อว่าจะได้ช่วยไขข้อข้องใจให้กับเพื่อนๆ น้องๆ หลายๆ คนได้เนอะ เอางี้ เราไปอ่านพร้อมๆ กันเลย!

    1. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัย ไม่ต้องตื่นเช้าเท่าเรียนมัธยม

    เปิดมาที่ประเด็นแรก เรื่องของการตื่นนอน แน่นอนอยู่แล้ว ว่าเรียนมัธยมจะต้องตื่นเช้า หลายๆ คนเลยคิดว่า คนที่เรียนมหาลัยนั้น สบ๊ายสบาย! ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ก็ถือว่าจริงนะ เพราะพอเราเข้าเรียนมหาลัยอะ เวลาเรียนในแต่ละวันมันก็จะไม่เหมือนกัน มีเช้าบ้าง บ่ายบ้าง วันนึงเรียนสองตัว สามตัว คือถ้าเปรียบกับตอนที่เรียนมัธยม มหาลัยก็ถือว่าสบายกว่าจริงๆ แหละ แต่จุดที่เรารู้สึกว่า มัธยมดีกว่าคือ ถึงต่อให้เรามาช้า ก็อาจจะได้เข้าแค่แถวสาย มีทำโทษบ้างนิดหน่อย พอขึ้นห้องก็มีคาบโฮมรูม แค่มาให้ทันคาบแรก ก็จะได้เช็คชื่อเข้าเรียนปกติ แต่ถ้าเป็นมหาลัย มาสาย ถือว่าขาดนะจ๊ะ ก็ไม่แน่ใจว่าที่อื่นเป็นมั้ย แต่ที่ที่เราเรียนมา เป็นแบบนั้น ซึ่งมันก็จะมีผลต่อคะแนนจิตพิสัย ฉะนั้นต่อให้มหาลัยจะมีเรียนเช้าบ้าง บ่ายบ้างยังไง สุดท้ายแล้ว ก็ต้องมาให้ทันเวลาอยู่ดี

    2. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัยสบ๊ายสบาย ใช้ชีวิตได้ตามใจฉัน!

    ในความรู้สึกเรา ขึ้นชื่อว่า เรียน ไม่มีคำว่าสบาย เหมือนคนที่ทำงานทุกวันอะ มันก็มีทั้งช่วงเวลาที่หนักหน่วง และช่วงเวลาที่เราจำต้องพักร่างบ้าง เราว่าไม่ว่าจะเป็นมหาลัยหรือมัธยม มันก็เหนื่อยเหมือนกันหมด ในช่วงวัยเรียน ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน มันก็หนักเหมือนกันหมดค่ะ ช่วงเวลาของคนเรา ไม่ว่าจะมัธยมหรือมหาลัย มันจะมีโหมดสบ๊ายสบายเหมือนกัน นั่นก็คือ ช่วงปิดเทอม อย่างคิดว่าเรียนมหาลัยสบาย ใช้ชีวิตยังไงก็ได้ บอกเลยว่า NO! เพราะพอเราโตขึ้น ความรับผิดชอบเรามากขึ้น เรียนมหาลัย ไม่ได้มีแค่แก้โจทย์ในหนังสือเรียน เหมือนตอนเราเรียนมัธยมนะ แต่มันมีทั้งการทำโปรเจกต์งาน การทำพรีเซนต์งาน ซึ่งหนักกว่ารายเท่า ฉะนั้นจะบอกว่าสบ๊ายสบาย คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะเมื่อเวลางานรุม ก็ตายได้เหมือนกัน!

    3. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัยชิลล์เวอร์ การบ้านไม่เยอะเท่ามัธยม

    เราว่ามันเยอะเหมือนกัน แต่คนละแบบ คนละอารมณ์มากกว่า อย่างมัธยมอะ มันเยอะ เพราะทุกวิชาดันชอบสั่งการบ้านแบบพร้อมกัน แล้วบอกให้ส่งคาบถัดไป What! ซึ่งถ้าเปรียบกับมหาลัย ก็มีการบ้านเหมือนกัน อาจจะไม่ทุกวิชาและอาจจะน้อยกว่า แต่งานที่เข้ามาส่วนใหญ่ มักจะเป็นงานหนัก เช่นทำโปรเจกต์ ทำพรีเซนต์หน้าชั้นเรียน แต่มันก็จะดีตรงที่ งานชิ้นใหญ่ส่วนมากจะมีเวลาในการทำค่อนข้างมาก เครียดแหละ แต่ไม่กระชั้นชิดจนถึงขนาดจิตตก และอีกจุดที่หลายคนมักจะเถียงกันคือ เรียนมหาลัย หนังสือน้อย พกแค่ปากกาไปเรียน จบ! ซึ่งเราก็เคยคิดแบบนั้น แต่คุณค่ะ กระเป๋าดิฉันตอนเรียนมหาลัยกับมัธยม หนักไม่ต่างกันเลยค่ะ อาจจะไม่ใช่ทุกวิชาที่มี แต่ก็มีบางวิชาที่ต้องใช้หนังสือหรือชีทเรียนเหมือนกันนะ ฉะนั้นในส่วนของการบ้าน มัธยมก็หนัก เพราะต้องทำทุกวัน มีให้ส่งทุกวัน ไม่วิชานี้ ก็วิชานั้น ส่วนมหาลัยก็หนักเหมือนกัน อาจจะไม่เยอะเท่ามัธยม แต่ก็มากมายอยู่พอสมควร

    4. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัย อิสระเพียบ! ไม่ต้องยึดกฎเกณฑ์อะไรมาก

    ถ้าเทียบกันแล้ว มหาลัยได้อิสระมากกว่ามัธยมจริงๆ นะ คืออย่างสมัยนี้ เรื่องทรงผมมันก็ดูเหมือนจะไม่ได้เคร่งครัดเท่ากับตอนที่เราเรียนเมื่อก่อนแล้วอะเนอะ แต่ในเรื่องของการแต่งกาย ก็ยังคงต้องรักษาระเบียบเอาไว้อยู่ ซึ่งในตอนนั้น ใส่กระโปรงสั้นไม่ได้ ผมไม่ถูระเบียบไม่ได้ ก็จะมีครูคอยตรวจ คอยเตือนตลอดเวลา แต่พอเราเข้ามหาลัย โมเมนต์แบบนี้มันจะหายไป เครื่องแบบยังต้องใส่ แต่ก็จะได้อิสระมากขึ้น เช่น ใส่กระโปรงสั้นมาเรียนได้ ใส่รองเท้าอะไรก็ได้มาเรียน กระเป๋าจะใช้แบบไหนก็ได้ ทรงผมแบบไหนก็ไม่มีใครว่า จะแต่งหน้าหรือไม่ก็แล้วแต่ อะไรประมาณนี้ มันก็จะไม่มีคนมาคอยตรวจอะไรมากมาย แต่! มหาลัยเขาก็จะมีกฎในแบบของเขา ซึ่งมันก็จะแตกต่างจากมัธยม ด้วยความที่พอเราเข้าเรียนมหาลัย นั่นแปลว่าเราโตขึ้นมาอีกระดับ ความรับผิดชอบเยอะขึ้น อิสระมีมากกว่าก็จริง แต่ก็ต้องเคารพกฎและมีความรักผิดชอบในหน้าที่ไม่ต่างกัน

    5. เขาว่ากันว่า เรียนมหาลัย ครูไม่จิกเท่ากับมัธยม

    อันนี้ขอตอบในมุมมองตัวเองว่า ไม่จริง แต่มันก็จะเป็นความเหมือนที่แตกต่าง เอามุมที่แตกต่างก่อน ในเรื่องกฎระเบีย มัธยมจะมีครูฝ่ายปกครอง ที่คอยดูแล คอยจับจอง แต่ในมหาลัย ไม่มีอะไรแบบนี้ แต่ความเหมือนกันคือ ไม่มีครูคนไหนที่แย่ 100% หรือว่าดี 100% ถ้าถามว่าจริงหรอที่มหาลัยครูไม่จิกเท่ามัธยม เราคงตอบได้ไม่เต็มปาก เพราะครูแต่ละวิชาไม่เหมือนกัน มันก็จะมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป อย่างมัธยม เราเลือกไม่ได้ว่าจะต้องเจอครูแบบไหน คนไหน เพราะตารางเรียนมันวางมาแบบนั้น ยังไงมันก็ต้องเจอ แต่มหาลัยเราจะได้เห็นชื่อครูตอนลงทะเบียน ซึ่งถ้าถามว่า มันดีกว่ามั้ย เรามีสิทธิ์เลือกครูนะ ก็คงพูดแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรารู้แค่ชื่อไงค่ะ ไม่ได้รู้นิสัย สุดท้ายแล้วมันก็ต้องไปเสี่ยงดวงกันเอา ว่าจะได้ครูใจดีหรือเจ้ากี้เจ้าการ

    6. เขาว่ากันว่า เราจะค้นพบตัวเองได้ตอนเรียนมหาลัย

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    Content quotation bg
    Disclaimer : หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อทีมงานมาที่ [email protected]
    Content quotation bg


    ดาวน์โหลดแอพ
    ดาวน์โหลดแอพดาวน์โหลดแอพ
    Icon ranking

    อันดับบทความประจำวัน

    (หมวดอื่น ๆ)

    Variety By SistaCafe

    Icon feature 100x100

    Feature

    กิจกรรม SistaCafe