

สุขภาพ
ปวดหัว ตัวร้อนจี๋! รวม 8 'ทริคลดไข้แบบไม่กินยา' ด้วยวิธีธรรมชาติ หายไว ทำได้เองที่บ้าน (。’▽’。)♡
สาวๆ หลายคนร่างกายค่อนข้างเซนซิทีฟกับยา ไม่อยากรับสารเคมีเข้าร่างกายบ่อยๆ ซึ่งโรคที่เป็นแล้วหายเองได้อย่าง 'ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้' เราสามารถรักษาได้ด้วยวิธีธรรมชาติ ทำได้เองที่บ้าน ไม่ต้องกินยา หาหมอให้เปลืองเงิน!

เลือกอ่านตามหัวข้อ
-- จะรู้ได้อย่างไรว่าเรา 'เป็นไข้' แล้ว --
1. ชามะรุม ( Moringa )
2. น้ำขิง
3. พริกไทยดำ ( Black Pepper )
4. ขมิ้นใส่นมอุ่น (Turmeric Milk )
5. เติมน้ำให้ร่างกายมากขึ้น ดื่มน้ำเยอะๆ จิบน้ำทั้งวัน อย่าให้ขาด!
6. นอนหลับพักผ่อนให้มากๆ ยิ่งอดนอน ไข้ยิ่งไม่ลด
7. ความร้อนดับได้ด้วยความเย็น >> ทำร่างกายให้เย็นๆ เข้าไว้
สวัสดีค่ะ สาวๆ SistaCafe ที่กำลังปวดหัว ตัวร้อนทุกคน! //เปื่อย...
ที่ทักทายแบบนี้ เพราะเรากำลังจะพูดถึง ' อาการเป็นไข้ ' ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนกำลังมาด้วย หลายคนต้องเดินทางตากฝนกลับบ้าน กลับมาก็อาการออกละ... ซึ่งปกติถ้าเริ่มตัวร้อน คันคอ เมื่อยเนื้อตัว เราก็จะกินยาลดไข้ แอสไพรินบ้าง พาราเซตามอลบ้าง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ร่างกายจะกินยาได้บ่อยๆ บางคนอาจเป็นไข้เดือนละหนสองหน แถมร่างกายก็เซนซิทีฟกับสารเคมี กินมากก็กลัวมีผลกับตับไต อยากรักษาเองด้วยวิธีธรรมชาติมากกว่า จะทำยังไงได้บ้าง?
ที่จริงในต่างประเทศ หากไม่ใช่ไข้ที่ขึ้นสูงรุนแรงจริงๆ เขาก็มักจะลดไข้กันเองที่บ้านนี่แหละค่ะ ถ้าไม่หนักมากก็จะไม่กินยาเลย เพื่อกระตุ้นภูมิให้ร่างกายแข็งแรง ดังนั้นวิธีที่เราเอามาบอกต่อในวันนี้ เป็นสิ่งที่ฝรั่งต่างชาติหลายคนทำเป็นปกติ และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วย จึงคุ้มค่าที่จะลองทำตาม หากโชคร้ายเป็นไข้ขึ้นมา แต่ก่อนอื่น เราไปทำความรู้จัก ' อาการเป็นไข้ ' ที่สากลเขานิยามกันก่อนดีกว่าค่ะ
-- จะรู้ได้อย่างไรว่าเรา 'เป็นไข้' แล้ว --
โดยปกติแล้ว อาการไข้คือการที่อุณหภูมิของร่างกาย ' สูงกว่า 37 องศา ' ค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นต่อเนื่องไม่เกิน 7 วัน ( ถ้าไม่เป็นโรคร้ายแรง 1-2 วันก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ) มีทั้งแบบไข้ต่ำคือ 37.6-38.3 องศา, มีไข้ปานกลาง 38.4-39.4 องศา และ 39.5-40.5 องศาคือมีไข้สูงค่ะ
อาการส่วนใหญ่ของไข้ >> ปวดหัว, ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว เจ็บตามข้อ, เจ็บคอ, อาการขาดน้ำ, รู้สึกเย็น ตัวหนาวสั่น, มีอาการเจ็บตามร่างกาย, ( หากไข้สูง ) มีอาการเพ้อ เห็นภาพหลอน
เมื่อไหร่ควรไปหาหมอ >> ปกติคนเราจะเป็นไข้มากกว่า 1 ครั้งในชีวิตอยู่แล้ว ถ้าไข้ขึ้นประมาณ 36-37 ก็ยังถือว่าปกติ สามารถรักษาตัวได้เองที่บ้าน อย่างวิธีในบทความนี้ แต่เมื่อไข้เริ่มขึ้นสูงกว่า 38 และมีอาการเจ็บหน้าอก ปวดหัวรุนแรงมากขึ้น เจ็บกล้ามเนื้อ อาเจียนบ่อยๆ ให้รีบพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลโดยด่วนที่สุดค่ะ!เมื่อรู้ลักษณะและอาการคร่าวๆ ของการเป็นไข้แล้ว หากเป็นเพียงอาการตัวร้อน ไม่มีอาการข้างเคียงรุนแรง ก็ลองใช้ 8 ทริคลดไข้แบบไม่พึ่งยา ตามวิธีด้านล่างนี้กันได้เลยค่ะ ♥(ˆ⌣ˆԅ)
1. ชามะรุม ( Moringa )
' มะรุม ' เป็นสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันทั่วโลก เป็นยาแผนโบราณที่ใช้รักษาอาการไข้และไข้หวัดใหญ่ค่ะ มีสรรพคุณเด่นๆ คือต้านการอักเสบและยาต้านจุลชีพ ( antimicrobial ) ที่ช่วยลดอาการอักเสบ เพราะไข้ก็คือสัญญาณการอักเสบของร่างกายอย่างหนึ่ง เพื่อต่อสู้กับจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดไข้นั่นเอง ดังนั้นการดื่ม ' ชามะรุม ' ร้อนๆ สักถ้วย จะช่วยให้อาการไข้ดีขึ้นได้ค่ะ
เพียงเตรียมถุงชามะรุมกับน้ำร้อน นำถุงชาลงไปหย่อนในถ้วยที่ใส่น้ำร้อนๆ แช่ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วดื่มตอนที่ชายังอุ่นๆ ทำต่อเนื่องเช้าเย็น อุณหภูมิร่างกายจะค่อยๆ ลดลงกลับมาเป็นปกติ
เพียงเตรียมถุงชามะรุมกับน้ำร้อน นำถุงชาลงไปหย่อนในถ้วยที่ใส่น้ำร้อนๆ แช่ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วดื่มตอนที่ชายังอุ่นๆ ทำต่อเนื่องเช้าเย็น อุณหภูมิร่างกายจะค่อยๆ ลดลงกลับมาเป็นปกติ
2. น้ำขิง
' ขิง ' เป็นสมุนไพรที่นอกจากช่วยเรื่องอาการเจ็บคอแล้ว ยังมีสรรพคุณต้านอาการอักเสบและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย ส่วนประกอบที่มีในขิงจะช่วยต้านอาการติดเชื้อ ลดการอักเสบ ลดจุกเสียด ไมเกรน ลดอาการภูมิแพ้ และในระยะยาวยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน และช่วยลดน้ำหนักอีกด้วยค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม >> ขิง, น้ำอุ่น 1 แก้ว
วิธีทำ : เพียงหั่นขิงเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปต้มในน้ำ ก็ได้น้ำขิงสดใหม่พร้อมดื่มแล้ว! ดื่มในขณะที่ยังอุ่นๆ จะได้ผลดีที่สุด ดื่ม 2 ถ้วยต่อวัน จะช่วยบรรเทาอาการไข้ได้ค่ะ
วิธีทำ : เพียงหั่นขิงเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปต้มในน้ำ ก็ได้น้ำขิงสดใหม่พร้อมดื่มแล้ว! ดื่มในขณะที่ยังอุ่นๆ จะได้ผลดีที่สุด ดื่ม 2 ถ้วยต่อวัน จะช่วยบรรเทาอาการไข้ได้ค่ะ
3. พริกไทยดำ ( Black Pepper )
' พริกไทยดำ ' ไม่ใช่แค่เครื่องปรุงรสอร่อยในอาหารเท่านั้น แต่ยังมีส่วนประกอบทางชีวภาพ ( bioactive ) ที่ช่วยลดอาการอักเสบ และมีฤทธิ์ระงับอาการปวดจากธรรมชาติ ช่วยลดอาการเจ็บกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยตามข้อ และอาการปวดหัวที่มาจากไข้ได้ด้วยค่ะ (♥ω♥ ) ~♪
สิ่งที่ต้องเตรียม >> เมล็ดพริกไทยดำบดหยาบ 1/2 ช้อนชา, น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำเปล่า 1 แก้ว
วิธีทำ : ต้มน้ำให้เดือด ใส่เมล็ดพริกไทยและน้ำผึ้งลงไป คนให้เข้ากัน น้ำผึ้งจะเพิ่มรสหวานให้ดื่มง่ายขึ้น รอให้เย็นลง ยกจากเตา เทใส่แก้วแล้วดื่มในช่วงที่ยังอุ่นๆ ดื่มวันละถ้วยทุกวันจนกว่าอาการไข้จะลดลง
สิ่งที่ต้องเตรียม >> เมล็ดพริกไทยดำบดหยาบ 1/2 ช้อนชา, น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำเปล่า 1 แก้ว
วิธีทำ : ต้มน้ำให้เดือด ใส่เมล็ดพริกไทยและน้ำผึ้งลงไป คนให้เข้ากัน น้ำผึ้งจะเพิ่มรสหวานให้ดื่มง่ายขึ้น รอให้เย็นลง ยกจากเตา เทใส่แก้วแล้วดื่มในช่วงที่ยังอุ่นๆ ดื่มวันละถ้วยทุกวันจนกว่าอาการไข้จะลดลง
4. ขมิ้นใส่นมอุ่น (Turmeric Milk )
ขมิ้นมีส่วนประกอบหลักคือ ' เคอร์คูมิน ( curcumin ) ' ซึ่งมีงานวิจัยออกมาแล้วว่า มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการอักเสบในร่างกายได้ หากสาเหตุมาจากไข้หวัดใหญ่หรืออาการเป็นไข้ ทั้งนี้ยังมีคุณสมบัติลดไข้ตามธรรมชาติ ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงโดยไม่ต้องกินยาแต่อย่างใดค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม >> ผงขมิ้น 1 ช้อนชา, นมอุ่น 1 แก้ว
วิธีทำ : ต้มนมให้เดือด ใส่ผงขมิ้นลงไป คนให้เข้ากัน แล้วรีบดื่มขณะที่ยังอุ่นๆ ดื่ม 1 ถ้วยตอนเช้า และ 1 ถ้วยตอนเย็น ไม่กี่วันอาการไข้ก็จะค่อยๆ หายไปค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม >> ผงขมิ้น 1 ช้อนชา, นมอุ่น 1 แก้ว
วิธีทำ : ต้มนมให้เดือด ใส่ผงขมิ้นลงไป คนให้เข้ากัน แล้วรีบดื่มขณะที่ยังอุ่นๆ ดื่ม 1 ถ้วยตอนเช้า และ 1 ถ้วยตอนเย็น ไม่กี่วันอาการไข้ก็จะค่อยๆ หายไปค่ะ
-- ตัวช่วยอย่างสมุนไพรลดไข้จบลงเพียงเท่านี้ แต่การดูแลตัวเองเพิ่มเติมในด้านอื่นๆ ก็สำคัญ
ดังเช่นข้อข้างล่างดังต่อไปนี้เลยค่ะ --
ดังเช่นข้อข้างล่างดังต่อไปนี้เลยค่ะ --
5. เติมน้ำให้ร่างกายมากขึ้น ดื่มน้ำเยอะๆ จิบน้ำทั้งวัน อย่าให้ขาด!
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดสุขภาพ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe