ไม่อยากเสี่ยงกับสารเคมีรุนแรง กลัวผมร่วง หนังศีรษะลอก แสบคัน แต่ปัญหาเส้นผมก็อีรุงตุงนังเหลือเกิน มาลองใช้ 7 วัตถุดิบจากธรรมชาติ เพื่อแก้ปัญหาเส้นผมทั้ง 7 ข้อ กันดีกว่าค่ะซิส (●´□`)♡

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. ผมยาวช้า : แก้ได้ด้วย 'Castor Oil'
2. หนังศีรษะ-เกล็ดผมแห้งลอก : แก้ได้ด้วย 'อะโลเวร่า'
3. เส้นผมแห้งเป็นไม้กวาด ไม่เงางาม : แก้ได้ด้วย 'น้ำส้มสายชูขาว'
4. ผมลีบลู่ อ่อนแอเกินต้าน : แก้ได้ด้วย 'น้ำมันมะพร้าว'
5. เส้นผมมันเยิ้มง่าย เสียบุคลิกสุดๆ : แก้ได้ด้วย 'เกลือ'
6. เส้นผมสีเข้มไป อยากกัดสีให้อ่อนลงหน่อย : แก้ได้ด้วย 'น้ำผึ้ง'
7. ผมบาง ขาดวอลลุ่ม : แก้ได้ด้วย 'ข้าว'
สวัสดีค่าา สาวๆ SistaCafe ที่อยาก ' ผมสวยนุ่มลื่น ' ทุกคน!
ถ้าแต้มบุญไม่สูงปรื๊ด หรือเป็นคนดูแลผมดีมากจริงๆ เราว่าผู้หญิงทุกคนต้องเจอกับ ' ปัญหาเส้นผม-หนังศีรษะ ' อย่างน้อยหนึ่งอย่าง! ผมแห้งชี้ฟู ผมมันเยิ้มเหมือนทอดไข่ดาว ผมแตกปลาย ผมยาวช้า ตัดผมมาจะครึ่งปีแล้วยังยาวไม่ถึงไหน รังแคเอย ผมลีบลู่ไม่มีวอลลุ่มเอย สารพัดที่ต้องมาแก้ไข บางคนก็เจอแค่อย่างเดียว บางคนก็คอมโบ้ปัญหาเส้นผมทุกอย่าง มารวมกันที่หัวหัวเดียว พังสุด อยากจะร้อง ( ไห้ ) ดังๆ ก็เส้นผมน่ะเป็นเสน่ห์อย่างนึงของผู้หญิงเลยนี่นา หน้าสวย หุ่นเป๊ะ แต่ผมชี้โด่ชี้เด่หรือมันแผล่บ ก็เสียบุคลิกหมด! -___-
เราเข้าใจปัญหาผมของสาวๆ ส่วนใหญ่ดี วันนี้จึงมาขอบอกต่อ ' 7 วัตถุดิบธรรมชาติ ' ที่ช่วยบำรุง แก้ไขปัญหาเส้นผม 7 ประการ ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักเจอกัน เพื่อให้ผมนุ่มลื่นสลวยสวยเก๋ มีวอลลุ่มทิ้งตัวเหมือนนางแบบโฆษณาแชมพู จะไม่ไกลเกินฝัน แถมไม่ต้องกลัวแพ้สารเคมีด้วย! จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลยดีกว่าค่า (•‾⌣‾•)و ̑̑♡
1. ผมยาวช้า : แก้ได้ด้วย 'Castor Oil'
ใครประสบปัญหา ' ผมยาวช้า ' เหลือเกิน ตัดผมมานาน แต่ผมก็ไม่ค่อยยาวขึ้นเท่าไหร่ ปัจจัยส่วนนึงก็มาจากรากผมที่อ่อนแอ ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าที่ควร เมื่อต้นเหตุอย่างรากผมไม่เฮลตี้ ก็ไม่มีวัตถุดิบจะมาผลิตเส้นผมนั่นเอง แต่เราสามารถช่วยบำรุง เติมสารอาหารไฟเบอร์ให้ผมได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ ' Castor Oil ' เพราะออยล์ชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมเกล็ดผม อุดมด้วยกรดไขมันและวิตามิน E จะใช้ทางอ้อม ( แชมพู-ครีมนวดที่มีส่วนผสมนี้ ) หรือใช้ออยล์โดยตรงเลย ก็จะยิ่งผมยาวได้เร็วขึ้นค่ะ
วิธีบำรุงก็ง่ายๆ หยดออยล์ใส่ฝ่ามือ 3 หยด นวดเบาๆ ลงไปที่หนังศีรษะ ลากไปถึงตลอดความยาวของเส้นผม ตั้งแต่โคนจรดปลาย จากนั้นห่อเส้นผมไว้ในผ้าขนหนูอุ่น ปล่อยให้ออยล์ทำหน้าที่หมักผมนาน 20 นาที ก่อนล้างออกให้สะอาด ( แนะนำเป็นน้ำอุ่นนิดๆ หรือ lukewarm water ) อย่าลืมสระผมด้วยแชมพูอย่างน้อย 2 ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าล้างออยล์ออกหมด เพราะหากมีน้ำมันตกค้าง จะยิ่งทำให้ผมร่วงเยอะขึ้นแทน ต้องระวัง!
2. หนังศีรษะ-เกล็ดผมแห้งลอก : แก้ได้ด้วย 'อะโลเวร่า'
สาวๆ บางคนมีผิวแห้ง ซึ่งไม่ใช่ผิวส่วนแขนขาน่ะสิ แต่ลามไปถึงผิวหนังศีรษะและเกล็ดผมด้วย ผลลัพธ์น่ะเหรอ รังแคสีขาว หิมะตกบนเสื้อผ้าอยู่บ่อยๆ ไงล่ะ ขายขี้หน้าคนอื่นสุดๆ TT แต่อย่าเพิ่งเสียใจไป เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการใช้ ' อะโลเวร่า ' หรือว่านหางจระเข้แบบไทยๆ บำรุงให้หนังศีรษะ ( ซึ่งก็เป็นผิวหนังชนิดหนึ่ง ) ชุ่มชื้น ลดอาการแห้งลอก สาเหตุของการเกิดรังแคได้!
อะโลเวร่าเป็นพืชที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ จะใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ตรงๆ เลย หรือใช้เจลอะโลเวร่าที่มีขายทั่วไปตามห้างก็พอแก้ขัดได้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยลดอาการคัน เยียวยาหนังศีรษะได้เร็วขึ้นกว่าเดิม! วิธีบำรุงง่ายๆ คือใช้อะโลเวร่าเป็นมาส์กหมักผม เทลงไปบนศีรษะ นวดให้ทั่วแล้วหมักทิ้งไว้ 20-30 นาที เพื่อให้เนื้อเจลซึมซีบเข้าสู่หนังศีรษะอย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำว่าถ้าทนกลิ่นแรงๆ ของมันได้ ก็ใช้วุ้นจากต้นตรงๆ เลยดีกว่าเจลที่แต่งกลิ่นมาแล้ว เพราะวุ้นจากธรรมชาติจะมีวิตามินเยอะกว่านะคะ ( แต่ตอนล้างก็จะเลอะเทอะนิดนึง ต้องยอมรับ )
อะโลเวร่าเป็นพืชที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ จะใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ตรงๆ เลย หรือใช้เจลอะโลเวร่าที่มีขายทั่วไปตามห้างก็พอแก้ขัดได้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยลดอาการคัน เยียวยาหนังศีรษะได้เร็วขึ้นกว่าเดิม! วิธีบำรุงง่ายๆ คือใช้อะโลเวร่าเป็นมาส์กหมักผม เทลงไปบนศีรษะ นวดให้ทั่วแล้วหมักทิ้งไว้ 20-30 นาที เพื่อให้เนื้อเจลซึมซีบเข้าสู่หนังศีรษะอย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำว่าถ้าทนกลิ่นแรงๆ ของมันได้ ก็ใช้วุ้นจากต้นตรงๆ เลยดีกว่าเจลที่แต่งกลิ่นมาแล้ว เพราะวุ้นจากธรรมชาติจะมีวิตามินเยอะกว่านะคะ ( แต่ตอนล้างก็จะเลอะเทอะนิดนึง ต้องยอมรับ )
3. เส้นผมแห้งเป็นไม้กวาด ไม่เงางาม : แก้ได้ด้วย 'น้ำส้มสายชูขาว'
มองเผินๆ เส้นผมก็ดูไม่มีปัญหาอะไร แต่เวลาสัมผัสกลับดูด้านๆ สากๆ ชอบกล ไม่เงางามเหมือนนางแบบแชมพูในทีวีเลย ความเงางามเป็นคนละอย่างกับผมมันเยิ้มนะคะ ผมเงาคือผมที่ได้รับสารอาหารเพียงพอ เหมือนคนผิวใสปิ๊งๆ นั่นแหละ ซึ่งเราก็เนรมิตผมแบบนั้นเองได้ด้วยการใช้ ' น้ำส้มสายชูขาว ( white vinegar ) ' นั่นเอง โดยน้ำส้มสายชูนี้จะช่วยปิดเกล็ดผม ให้ผมดูเงางาม เหมือนไฮไลท์สีผมตามธรรมชาติ ให้สีผมดูสวยโดดเด่นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผมทำสี หรือสีธรรมชาติก็ตาม
ค่า pH ของน้ำส้มสายชูขาว จะช่วยปรับสมดุลให้หนังศีรษะ ควบคุมการก่อเกิดของรังแคและน้ำมันซีบัมส่วนเกิน แต่ข้อเสียคือต้องใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากคุณสมบัติเป็นกรด หากเทลงหนังศีรษะตรงๆ อาจระคายเคือง แสบร้อนที่หนังศีรษะได้ และกลิ่นก็ไม่ค่อยรัญจวนใจเท่าไร ทางที่ดีควรใช้น้ำเปล่าหรือน้ำผึ้งผสมให้เจือจางลงก่อน แล้วค่อยใช้แทนแชมพู ทำอย่างต่อเนื่อง ผมจะค่อยๆ ดูเงางามขึ้นจนสังเกตได้แน่นอนค่ะ
ค่า pH ของน้ำส้มสายชูขาว จะช่วยปรับสมดุลให้หนังศีรษะ ควบคุมการก่อเกิดของรังแคและน้ำมันซีบัมส่วนเกิน แต่ข้อเสียคือต้องใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากคุณสมบัติเป็นกรด หากเทลงหนังศีรษะตรงๆ อาจระคายเคือง แสบร้อนที่หนังศีรษะได้ และกลิ่นก็ไม่ค่อยรัญจวนใจเท่าไร ทางที่ดีควรใช้น้ำเปล่าหรือน้ำผึ้งผสมให้เจือจางลงก่อน แล้วค่อยใช้แทนแชมพู ทำอย่างต่อเนื่อง ผมจะค่อยๆ ดูเงางามขึ้นจนสังเกตได้แน่นอนค่ะ
4. ผมลีบลู่ อ่อนแอเกินต้าน : แก้ได้ด้วย 'น้ำมันมะพร้าว'
ผมอ่อนแอ ลีบลู่ ทำผมทรงไหนก็ไม่สวย ไม่มีวอลลุ่มใดๆ นั่นเพราะทั้งรากผมและหนังศีรษะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ แต่เราก็เติมอาหารนั้นให้เส้นผมได้ด้วยการใช้ ' น้ำมันมะพร้าว ( coconut oil ) ' ที่สาวๆ สายบิวตี้น่าจะมีติดบ้านกันทุกคนอยู่แล้ว เพราะอุดมด้วยวิตามิน กรดไขมันที่บำรุงเส้นผม มีโปรตีนป้องกันผมแห้งเสีย ป้องกันไฟเบอร์เส้นผมให้แข็งแรง แต่สัมผัสอ่อนนุ่ม แถมกลิ่นก็หอมหวานชวนให้ใช้ได้บ่อยๆ อีกด้วย >///<
มีแชมพู ครีมนวด มาส์กผมมากมายที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว แต่หากต้องการผลลัพธ์เร็วๆ และชัดเจน ใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดโดยตรงเลยก็จะดีกว่า! โดยหยดใส่ฝ่ามือ นวดวอร์มจนออยล์เริ่มอุ่น แล้วนวดตั้งแต่โคนจรดปลาย ( แต่ถ้าผมมันเยิ้มเป็นทุนเดิม ก็เว้นช่วงโคนไว้ดีกว่า ) หมักทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วค่อยล้างออก ล้างอย่างน้อย 2 ครั้งเพื่อให้เส้นผมสะอาดหมดจด ทำต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ไม่นานก็เริ่มเห็นผลชัดเจนแล้ว!
มีแชมพู ครีมนวด มาส์กผมมากมายที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว แต่หากต้องการผลลัพธ์เร็วๆ และชัดเจน ใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดโดยตรงเลยก็จะดีกว่า! โดยหยดใส่ฝ่ามือ นวดวอร์มจนออยล์เริ่มอุ่น แล้วนวดตั้งแต่โคนจรดปลาย ( แต่ถ้าผมมันเยิ้มเป็นทุนเดิม ก็เว้นช่วงโคนไว้ดีกว่า ) หมักทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วค่อยล้างออก ล้างอย่างน้อย 2 ครั้งเพื่อให้เส้นผมสะอาดหมดจด ทำต่อเนื่องสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ไม่นานก็เริ่มเห็นผลชัดเจนแล้ว!
5. เส้นผมมันเยิ้มง่าย เสียบุคลิกสุดๆ : แก้ได้ด้วย 'เกลือ'
เราว่าปัญหานี้สาวไทยเจอกันค่อนประเทศ! ด้วยสภาพอากาศร้อนชื้น และแสงแดดจัดๆ ของเมืองไทย แค่ออกนอกบ้านก็มีสิทธิ์ผมมันเยิ้มพร้อมทอดไข่ได้ง่ายๆ แต่รู้ไหมว่าเครื่องปรุงเบสิกในบ้านอย่าง ' เกลือ ' ช่วยขจัดผมมันได้ชะงัดสุดๆ! นั่นเพราะเกลือมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังศีรษะ ขจัดน้ำมันซีบัมส่วนเกินโดยไม่ทำลายไฟเบอร์ธรรมชาติของเส้นผม แถมยังช่วยให้ระบบโลหิตหมุนเวียนได้ดี จึงช่วยลดรังแคและทำความสะอาดหนังศีรษะได้ดีสุดๆ เลยค่ะ
แต่เพราะเกลือมี texture ที่ค่อนข้างหยาบ จึงไม่ควรใช้เกลือเม็ดๆ มาขัดหนังศีรษะโดยตรง เดี๋ยวระคายเคือง แสบหัว เป็นแผลจะแย่เอา! ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเกลือแทน หรือผสมน้ำเปล่าหรือแชมพูปกติที่ใช้จนเกลือละลาย แล้วนำมานวดหนังศีรษะเบาๆ จะดีกว่าค่ะ
แต่เพราะเกลือมี texture ที่ค่อนข้างหยาบ จึงไม่ควรใช้เกลือเม็ดๆ มาขัดหนังศีรษะโดยตรง เดี๋ยวระคายเคือง แสบหัว เป็นแผลจะแย่เอา! ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเกลือแทน หรือผสมน้ำเปล่าหรือแชมพูปกติที่ใช้จนเกลือละลาย แล้วนำมานวดหนังศีรษะเบาๆ จะดีกว่าค่ะ
6. เส้นผมสีเข้มไป อยากกัดสีให้อ่อนลงหน่อย : แก้ได้ด้วย 'น้ำผึ้ง'
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดผม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe