รู้ก่อนบิน! ส่อง 7 วิธี 'เตรียมตัวขึ้นเครื่องบินในยุค COVID-19' ปลอดภัยไว้ก่อน จะได้ไม่เสี่ยงติดโรค

เรารู้ว่าเพื่อนๆ กำลังเข้าสู่โหมดแฮปปี้กันทั่วหน้า! เพราะตอนนี้ประเทศของเราเปิดการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปรบมือ! หลายคนคงมีแพลนเดินทางเตรียมกันไว้แล้วแหละ แต่สิ่งหนึ่งที่ห้ามลืมคือ ต้องทำตามมาตรการของทางภาครัฐด้วยนะ ป้องกันตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างด้วยนะจ๊ะ ทุกครั้งที่พูดถึงการเดินทาง อีกหนึ่งวิธีการที่หลายๆ คนมักจะเลือกใช้บริการบ่อยๆ เพราะมันสะดวกสบายที่สุดคือ การนั่งเครื่องบิน ซึ่งวิธีการที่เราหยิบมาแชร์นี้ สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ทั้งบินในประเทศและนอกประเทศ รวม 7 วิธี เตรียมตัวขึ้นเครื่องบินในยุค COVID-19 ระบาด ก่อนขึ้นต้องทำยังไง ให้เราปลอดภัย ไม่เสี่ยงติดโรคระหว่างทาง ถือว่าเป็นความรู้และเรื่องราวดีๆ ที่อยากจะหยิบมาแชร์ ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่ามีวิธีป้องกันแบบไหนบ้าง

เวลาเราจะไปเที่ยวที่ไหน แน่นอนว่าเราจำเป็นที่จะต้องวางแผนกันก่อนอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้ ด้วยสถานการณ์ที่มันเป็นแบบนี้ การวางแผนที่เคยทำ ไม่ใช่แค่เรื่องของการท่องเที่ยวแล้วนะ แต่เพื่อนๆ ต้องวางแผนการเตรียมตัวในหลายๆ เรื่อง ที่อาจจะยุ่งยากกว่าเดิมด้วย เช่น เดินทางโดยใช้บริการสนามบิน ต้องทำยังไง พกอะไรไปได้บ้าง ต้องกรอกเอกสารอะไรมั้ย แล้วจังหวัดที่จะไปนั่น มีเอกสารอะไรที่ต้องใช้บ้าง มีข้อกำหนด ขอจำกัดในเรื่องไหนบ้าง เงื่อนไขที่เราจะต้องรู้ของแต่ละจังหวัด แต่ละสถานที่ที่จะไป มีอะไรบ้าง อันนี้ต้องเตรียมให้พร้อม แล้วยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่การท่องเที่ยวภายในเพิ่งเปิด แนะนำว่าให้จองที่พักล่วงหน้า เช็คผลการจองให้ดีๆ ที่สำคัญวางแผนการเดินทางและแผนสำรองเอาไว้ด้วย เข้าใจว่ามันค่อนข้างวุ่นวาย แต่เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง มันต้องทำอะ จะได้ไม่มีปัญหาเมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทางไง

การสวมใส่หน้ากากอนามัย ยังคงเป็นเรื่องที่จำเป็นอยู่นะ แม้ตอนนี้สถานการณ์ภายในประเทศจะดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ตาม แต่เราก็ห้ามละเลยความปลอดภัยของตัวเองและคนอื่นเด็ดขาด! เพื่อนๆ จำเป็นที่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเอาไว้เสมอ ตั้งแต่ก้าวเท้าออกนอกบ้าน อยู่ในสนามบิน นั่งรอขึ้นเครื่อง หรือแม้แต่นั่งบนเครื่องบิน ก็ต้องสวมใส่เอาไว้ อาจจะมีเปิดปากเปิดจมูกบ้างเล็กน้อย แต่ก็อย่าถึงขั้นไม่ใส่เลยหรือถอดดีกว่า ไม่เอาไม่ดี ในสถานการณ์ที่มันไม่ปกติแบบนี้ ถ้าคุณไม่ห่วงตัวเอง ก็ห่วงคนอื่นที่เค้าจะต้องใช้ชีวิตร่วมกับคุณในสถานที่เดียวกันบ้าง สวมไว้เถอะ เข้าใจว่ามันอึดอัด หายใจไม่ออก แต่เพื่อความปลอดภัย มันจำเป็นต้องทำจริงๆ นะคะ แล้วก็ การสวมแค่ Face Shield ปิดหน้าอย่างเดียว แล้วคิดว่า แค่นี้ก็ช่วยได้ กันโรคได้แล้ว NO! จ้า การใส่แค่ Face Shield โดยไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถป้องกันโควิดได้นะคะ หน้ากากอนามัยคือไอเทมป้องกันโรคที่ดีที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าเข้าใจผิดเด้อ!

ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ โรคโควิดกำลังระบาดใช่มั้ย รัฐจึงมีมาตรการงดการสัมผัสใกล้ชิด ให้เว้นระยะห่าง ฉะนั้นการเช็คอินออนไลน์ (Check-in Online) ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ไม่เลวเลยค่ะ สะดวก แถมไม่ต้องไปต่อคิวให้เมื่อยด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ ทางสายการบินเขาก็เริ่มมีการแนะนำให้ผู้โดยสารได้ลองเช็คอินล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ หรือเช็คอินผ่านตู้คีออส เพื่อลดการสัมผัสระหว่างบุคคลแล้วด้วยนะ มันอาจจะดูเป็นวิธีที่สะดวกสบายสำหรับหลายๆ คน แต่กับคนที่เพิ่งขึ้นเครื่องครั้งแรก อาจจะต้องศึกษาวิธีการสักหน่อย เพราะมันก็จะมีขั้นตอนในการเตรียมตัว ทั้งเช็คอินเข้าระบบ เตรียมเอกสาร พิมพ์แบบฟอร์ม เตรียมนู่นนี่นั่น ก็ลองไปศึกษาวิธีต่างๆ ดูกันให้ดีเนอะ นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เข้ากับยุค new normal ในตอนนี้ที่สุดแล้วละ

ในสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่าทางสนามบินเขาก็มีมาตรการรับมือเอาไว้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ฉะนั้นผู้โดยสารไม่ต้องกังวลใดๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้จะมีมาตรการที่ดี แต่ถ้าไม่มีคนทำตาม มันก็เปล่าประโยชน์ใช่มั้ยล่ะ เพราะงั้นเพื่อนๆ จะต้องปฏิบัติตามมาตรการของทางสนามบินอย่างเคร่งครัดด้วยนะ คือตอนนี้ มันก็ไม่ได้เข้มงวดหรือตึงเครียดเหมือนกับช่วงก่อนหน้านี้เท่าไหร่แล้วแหละ คาดว่าเพื่อนๆ ก็น่าจะทำตามข้อกำหนดต่างๆ กันได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัดเท่าไหร่ ด้วยการผ่อนปรนอะไรหลายๆ อย่างที่มันโอเคขึ้น การใช้ชีวิตในปัจจุบันนี้ ก็ทำให้เรารู้สึกหายใจหายคอสะดวกขึ้นกว่าเดิม แต่มันก็จะมีมาตการบางอย่างที่มันจำเป็นจะต้องทำกันอยู่ เช่น การกรอกแบบฟอร์ม, การตรวจวัดอุณหภูมิ, การใช้เจลล้างมือ, การเว้นระยะห่างทางสังคม และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราจะต้องทำตัวให้ชิน อาจจะดูวุ่นวายกว่าเดิมเล็กน้อย แต่ที่ต้องทำ ก็เพื่อประโยชน์ของตัวเองและคนอื่นๆ นะจ๊ะ

แม้ตอนนี้สถานการณ์การระบาดของโรคจะเริ่มดีขึ้น แต่ในเรื่องของ Social Distancing หรือการเว้นระยะห่างระหว่างกัน ก็ยังคงต้องทำอยู่นะ ให้เว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 - 2 เมตร ทั้งการยืนเข้าแถว และบริเวณที่นั่งพักคอย แล้วก็พยายามอยู่ให้ห่างจากคนที่มีอาการไอและจาม แม้เขาคนนั้นจะไม่ได้ป่วยหรือเป็นพาหะของโรคก็ตาม แต่ป้องกันไว้ก่อนเป็นเรื่องที่ดีค่ะซิส! ในกรณีที่นั่งอยู่บนเครื่อง แล้วพบว่าคนที่นั่งที่ถัดไป นั่งข้างหน้า หรือข้างหลังไอหรือจาม แล้วเราไม่สามารถหนีไปไหนได้ แนะนำว่าให้สวมหน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลาหรือถ้าเป็นไปได้ให้สอบถามพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเพื่อขอเปลี่ยนที่นั่งได้เลยนะจ๊ะ แต่สวมใส่หน้ากากป้องกันไว้ก่อน ดีที่สุดค่ะเพื่อนๆ