#ไปไม่ไกลอยู่ใกล้บ้านเรา ep6 : ตะลุยแดนวัฒนธรรม รวม 7 ที่เที่ยว 'Indonesia' บินใกล้ๆ ไปไม่ไกล แถมถ่ายรูปสวยด้วย!

การเดินทางไปอินโดนีเซีย รู้สึกว่าจะมีวิธีเดียว คือการนั่งเครื่องบินไป ในบ้านเราจะมีเที่ยวบินที่บินตรงและต่อไปอินนีเซียทุกวัน วันละหลายเที่ยวบิน ซึ่งถ้าถามว่า ใช้เวลานานมั้ย ก็คงต้องตอบว่าชั่วโมงบินมันขึ้นอยู่กับเมืองปลายทางที่เราเลือก เช่น กรุงเทพฯ - จาการ์ต้า ใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนกรุงเทพฯ - บาหลี ใช้เวลาราวๆ 4 ชั่วโมง ก็ลองเลือกจุดหมายปลายทางกันดู ว่าเพื่อนๆ อยากจะไปลงจอดที่ตรงจุดไหนในอินโดนีเซีย เราว่าการเดินทางไม่ได้ใช้เวลานานนะ หลับสักตื่นก็ถึงแล้วค่ะ สะดวก ไม่ไกล เดินทางง่าย แถมที่เที่ยวสวยมาก! ต้องไปให้ได้สักครั้งจริงๆ ค่ะ

   เปิดมาที่สถานที่ท่องเที่ยวแรก Kawah Ijen มันคือภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ! ตั้งอยู่บนหมู่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือ ลาวาสีฟ้า (Blue lava) หรือ เปลวไฟสีน้ำเงิน ซึ่งจะสามารถดูได้ในช่วงเวลากลางคืน พอพูดถึงภูเชาไฟที่ยังไม่ดับ หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันน่ากลัว แต่ถ้าคุณได้เห็นลาวาสีน้ำเงินของที่นี่ คุณจะเปลี่ยนความคิดทันที เพราะมันสวยมาก! ว่ากันว่าลาวาสีน้ำเงินมีความหนืด ไหลค่อนข้างช้า มีอุณหภูมิค่อนข้างสูง 600 – 900 °C แต่เอาจริงๆ ก็คงไม่มีใครไปเที่ยวตอนกลางคืนหรอกจริงมั้ย แม้จะไม่ได้ไปเที่ยวในเวลากลางคืน ก็ไม่เป็นไร เพราะตอนกลางวันก็สวยเหมือนกันค่ะ ( ดูจากภาพได้เลย ) เรียกได้ว่า โดนใจนักท่องเที่ยวหลายๆ คนเลยก็ว่าได้ ที่นี่เขาเปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมทิวทัศน์สวยๆ ได้ด้วยนะ โดยตอนกลางวันเนี่ย เราจะได้เห็นทะเลสาบสีเขียวมรกตตั้งอยู่ใกล้ๆ กับปล่องภูเขาไฟ สวยมาก! น้ำใส สีสวย คือสวยไม่ไหว! เวลาน้ำกระทบกับแสงแดดสีจะยิ่งเข้มมากขึ้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสถานที่แห่งนี้ ถึงน่าดึงดูดนัก แต่ถึงจะสวยบาดใจขนาดไหน เขาก็เป็นสถานที่ที่ได้รับขนานนามว่า ความงามแสนอันตราย อยากเห็นก็ต้องเสี่ยงกันหน่อย จริงมั้ยล่ะ

 

   นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนแวะไปเช็คอินกันเยอะมาก! Taman Tirta Gangga ที่นี่เป็นสวนสำราญริมน้ำของเหล่าราชาแห่งอาณาจักรการางาเซ็มในอดีต ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมือง Amlapur ซึ่งสวนและสระน้ำที่เพื่อนๆ ได้เห็นอยู่นี่ เป็นจุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวแวะไปถ่ายรูปกันเยอะมาก ดูเผินๆ อาจจะเป็นสวนล้าง แต่จริงๆ แล้วสถาปัตยกรรมที่มีอยู่นั้น สวยงามมากจริงๆ เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นบาหลีและศิลปะแบบจีน มีสวนสวยๆ สระน้ำขนาดใหญ่ที่มีแท่นหินเรียงเป็นทางเดิน ให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปเดินเล่นใกล้ชิดกับปลาคาร์ฟตัวยักษ์หลากหลายสีสัน หรือจะเดินถ่ายรูปก็ได้เหมือนกัน นอกจากมุมสระน้ำนี้ ยังมีมุมสวยๆ อื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่ามุมไหนก็สวยไปหมด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากเมืองอูบุดมาก ลองแวะไปกันดูนะ รับรองว่าได้ภาพสวยๆ กลับบ้านหลายสิบรูปแน่นอนค่ะ

  

     สถานที่ท่องเที่ยวที่สาม เป็นที่เที่ยวที่โด่งดังมากๆ ในบาหลี คือพูดง่ายๆ ว่า ใครไปเที่ยวบาหลี ต้องแวะไปเช็คอินที่นี่ Bali Swing เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้ จริงๆ เท่าที่เราไปดูมาอะ ชิงช้าลอยฟ้าของที่นี่ มีอยู่หลายจุดเลยนะ อย่างจุดที่เราหยิบมาแนะนำจะอยู่ที่ Uma Pakel Swing เป็นอีกหนึ่งที่ที่คนไปกันเยอะมากๆ เป็นชิงช้าที่ตั้งอยู่กลางป่าเขาลําเนาไพร คุณจะได้ชมทิวทัศน์ท่ามกลางหน้าผาในอูบุด ได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของนาข้าวเตกากาลังอันโด่งดังขณะลอยอยู่บนอากาศ! รับรองว่าสวยบาดใจแน่นอน มันอาจจะดูเสี่ยวๆ หน่อยนะ เพราะเวลาที่ชิงช้าลอยขึ้นไป ก็สูงไม่ใช่เล่น แต่เพื่อนๆ จะได้สัมผัสกับธรรมชาติและสายลม ซึ่งเค้าจะมีให้เลือกนั่งทั้งแบบชิงช้าแบบเดี่ยวและชิงช้าแบบคู่ นอกจากชิงช้าแล้ว ก็ยังมีรังนกยักษ์อีกหนึ่งจุดไฮไลท์เด็ดใกล้ๆ กัน ที่อย่าลืมเข้าไปถ่ายรูปด้วย โอเคมั้ย ใครมีแพลนไปเที่ยวบาหลี อย่าลืมแวะไปนั่งชิงชาลอยฟ้ากันนะ แล้วก็ต้องถ่ายรูปสวยๆ มาอวดกันบ้างละ รับรองว่าไปแล้ว ได้ทั้งหวาดเสี่ยว ได้ทั้งภาพสวย คุ้มค่าเสียเวลาแน่นอนค่ะ