1
Articles etc
อื่น ๆ

How to ประหยัดไฟง่ายๆ เมื่อต้อง Work From Home 💡

วันนี้รวบรวม How to สำหรับคนที่ต้อง Work From Home มาฝากเพราะรู้ว่าเดือนนี้ค่าไฟต้องขึ้นแน่ๆ ตามมาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้างที่สามารถทำได้


» » - - »
Sistacafe button sharefb
Down

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • [แสดง]
  • [ซ่อน]
    • 1. ถอดปลั๊กทุกครั้งที่เลิกใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า

    • 2. หากต้องเปิดแอร์ให้ทำดังนี้

    • 3. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น

    • 4. ใช้แสงสว่างจากธรรมชาติแทนการเปิดไฟ

    • 5. เมื่อแบตเต็มให้ถอดออกทันที

    • 6. ซักผ้า/รีดผ้าครั้งละมากๆ ในทีเดียว


    เมื่อเหล่ามนุษย์ออฟฟิศต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเอง เอางานที่เคยทำในบริษัทกลับมาทำที่บ้านทำให้หลายอย่างต้องเปลี่ยนไปเพราะสถานการณ์ทั่วโลกบังคับให้เราทุกคนต้องปรับตัวตลอดเวลา การ Work From Home จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะไม่ต้องออกไปรับมือกับโรคโควิด-19 ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหมดไป (จนกว่าจะมีวัคซีน) แน่นอนว่าการอยู่บ้านและทำงานที่บ้านทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งค่ากินและของใช้ ไหนจะค่าน้ำค่าไฟที่ขยันขึ้นมันทุกเดือน 

    วันนี้เราเลยมี วิธี ' ประหยัดไฟ ' ในช่วง WFH มาฝากทุกคนที่ต้องใช้ชีวิตในบ้านต่อไปด้วยอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มขึ้นเพราะเป็นช่วงหน้าร้อนของเมืองไทยและอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าแต่จะมีวิธีอะไรที่สามารถลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ของทุกคนได้บ้างตามมาดูกันค่ะ 

    1588401921 giphy

    Off ไว้ก่อน

     

    1. ถอดปลั๊กทุกครั้งที่เลิกใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า


    เคยไหมเมื่อเราปิดพัดลมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ แล้วมักจะลืมหรือตั้งใจไม่ดึงปลั๊กออกจากขั้ว นั่นคือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟขึ้นแบบไม่รู้ตัว เพราะไม่คิดว่าการไม่ถอดปลั๊กจะเกี่ยวกับการที่ค่าไฟขึ้น แต่จริงๆ แล้วมันมีส่วนที่ทำให้กระแสไฟยังเดินอยู่ค่ะ บางคนอาจจะแค่คิดว่าปิดสวิตช์แล้วก็คงจะเป็นการประหยัดไฟ แต่นั่นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการประหยัดไฟเพราะตัวไฟยังคงเดินอยู่ถ้าหากส่วนไหนที่ไม่ใช่งานแนะนำให้ ' ปิดสวิตช์และถอดปลั๊ก ' ได้เลยนะคะ 

    2. หากต้องเปิดแอร์ให้ทำดังนี้


    บ้านไหนมีแอร์และยิ่งเป็นช่วงหน้าร้อนแบบนี้ใครจะไม่อยากเปิดบ้าง? แน่นอนล่ะว่าการเปิดแอร์เป็นสิ่งที่ทำให้ค่าไฟขึ้นได้เช่นกันหากเทียบกับพัดลม แต่ถ้าเลี่ยงที่จะเปิดไม่ได้ก็แนะนำให้เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเพราะเป็นอุณหภูมิที่พอที่สุดในการประหยัดไฟ หรือจะเลือกเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27 องศาและเปิดพัดลมเบอร์ 1 ให้มีลมเย็นจากพัดลมก็ได้ แต่ไม่ควรเลือกอุณหภูมิที่ต่ำถึง 20 องศาเพราะไม่งั้นเดือนหน้าค่าไฟของคุณสาวๆ อาจจะเพิ่มเป็นหลายเท่าตัวเลยค่ะ 

    3. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น


    ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นลงบ้างอาจจะช่วยให้ค่าไฟลดลง ลองสังเกตตัวเองดูก่อนค่ะว่าการเปิดไฟหลายดวงในบ้าน ดวงไหนที่ไม่จำเป็นบ้าง บางคนอาจจะคุ้นชินกับการเปิดไฟทั่วบ้านเพราะรู้สึกว่าสว่างและปลอดภัย แต่การเปิดไฟหลายดวงก็ทำให้ค่าไฟขึ้นได้เช่นกัน อาจจะปรับเป็นเปิดห้องนั่งเล่นไว้หนึ่งดวง หรือถ้าใครจำเป็นต้องอ่านหนังสือหรือทำงานอยู่บ้านก็ขอให้ใช้โคมไฟช่วยเพื่อจะได้ไม่ต้องเปิดไฟหลายดวงในบ้านแทนค่ะ 

    4. ใช้แสงสว่างจากธรรมชาติแทนการเปิดไฟ


    แม้จะเป็นการทำงานที่บ้านไม่ใช่ว่าจะตื่นสายได้ เพราะการเข้างานออกงานยังคงปกติเพียงแค่เปลี่ยนจากที่ทำงานมาเป็นบ้านแทน เมื่อตื่นเช้าแล้วให้หามุมที่แสงอาทิตย์เข้าถึงอย่างการเลื่อนโต๊ะทำงานมาไว้ข้างหน้าต่างที่สามารถรับแสงช่วงเช้าได้ดี และถ้าเป็นช่วงบ่ายๆ ที่เริ่มร้อนก็ให้เปิดม่านให้ภายในห้องดูสว่างขึ้นจะได้ลดการเปิดไฟในห้องแล้วใช้ไฟจากธรรมชาติดูบ้าง นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเซฟค่าไฟได้อย่างดีเลยค่ะ 

    5. เมื่อแบตเต็มให้ถอดออกทันที


    ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จแบตโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ทั้งหลายเมื่อเต็มแล้วควรถอดปลั๊กทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้และใช้งานไปเรื่อยๆ เพราะกระแสไฟจากต้นขั้วยังคงเดินอยู่และนี่เองที่ทำให้ค่าไฟแต่ละเดือนขึ้น อย่างน้อยๆ ต้องหมั่นดูเปอร์เซนต์ของสิ่งที่ชาร์จด้วยค่ะ ถ้าหากการถอดปลั๊กนั้นจะช่วยทำให้ค่าไฟในบ้านไม่ขึ้นในช่วง WFH เราก็คิดว่านี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรให้ความสำคัญนะ 

    6. ซักผ้า/รีดผ้าครั้งละมากๆ ในทีเดียว

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    Content quotation bg
    Disclaimer : หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อทีมงานมาที่ [email protected]
    Content quotation bg


    ดาวน์โหลดแอพ
    ดาวน์โหลดแอพดาวน์โหลดแอพ
    Icon ranking

    อันดับบทความประจำวัน

    (หมวดอื่น ๆ)

    Variety By SistaCafe

    Icon feature 100x100

    Feature

    กิจกรรม SistaCafe