มันไม่ใช่แบบนั้น! ส่อง 7 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการ “ดีท็อกซ์ลำไส้”

เราว่า หลายๆ คนมีความเชื่อในเรื่องของการดีท็อกซ์ลำไส้แตกต่างกัน อย่างเราอะ มักจะเชื่อเสมอว่า การดีท็อกซ์ จะช่วยทำให้ผอมได้ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ มีความเชื่อในเรื่องนี้แบบไหนบ้าง ใช่ความเชื่อที่เราหยิบมาแชร์ในวันนี้รึเปล่าค่ะ ถ้าใช่ นั่นแปลว่าสิ่งที่ซิสเชื่อมาตลอด มันคือสิ่งที่ผิด! เผย 7 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการดีท็อกซ์ลำไส้ ความเชื่อแบบไหนบ้าง ที่คนเรามักจะหลงเชื่อกันไป แต่จริงๆ แล้ว มันหลอกลวงทั้งเพ! วันนี้มาไขข้อข้องใจไปพร้อมๆ กันว่า ที่เขาว่ากันว่าการดีท็อกซ์ลำไส้จะเป็นแบบนั้นแบบนี้ จริงๆ แล้วมันใช่หรือมัวกันแน่ ไปหาคำตอบในเรื่องนี้ พร้อมๆ กันเลยครับผม!!

เคยเชื่อแบบนี้กันมั้ย ว่าการดีท็อกซ์ลำไส้ จะช่วยทำให้ไขมันที่มันสะสมอยู่ในร่างกายลดลง หรือว่าหายไปเลย ใครที่เคยมีความเชื่อแบบนี้ พูดเลยว่า ผิดอย่างแรง! บางคนอาจจะรู้สึกว่า ก็พอฉันขับถ่ายออกมาปุ๊บ ตัวเบามาก ของเสียที่ถูกขับออกมา มันก็ต้องมีไขมันติดออกมาบ้างแหละ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การขับถ่ายของคนเรา จะมีแค่อุจจาระและน้ำออกมาเท่านั้น แต่ร่างกายไม่ได้เผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไปเลย แล้วไม่ต้องรู้สึกตกใจนะว่า ทำไมดีท็อกซ์แล้ว มันเพลียอย่างนี้! นั่นเพราะการดีท็อกซ์คือการขับของเสียที่ตกค้างตามลำไส้ออกมา ซึ่งน้ำและเกลือแร่ในร่างกายเองก็จะถูกขับออกมาด้วยเช่นกัน เลยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และขาดเกลือแร่ไปโดยปริยายนั่นเองค่ะ

ความเชื่อในข้อนี้ เป็นหนึ่งในความเชื่อที่เราเชื่อมาโดยตลอดว่า การดีท็อกซ์ สามารถช่วยทำให้น้ำหนักของเราลดลงได้ ใครที่มีความเชื่อแบบเดียวกับเรา ผิดนะคะ! คือพอเราดีท็อกซ์ไปปุ๊บ เราอาจจะสังเกตได้ว่า หน้าท้องของเรามันดูแบนราบ หลายคนอาจจะรู้สึกประหลาดใจและเผลอคิดไปว่า มันช่วยลดความอ้วนได้จริงๆ แต่เมื่อลองวัดในระยะยาว การขับถ่ายของเสียแท้จริงแล้วเป็นการกำจัดกากอาหารที่หลงเหลืออยู่ในลำไส้และน้ำภายในร่างกายเท่านั้น! โดยไม่มีการสูญเสียไขมันที่มันสะสมอยู่ในร่างกายเลย เพราะงั้นที่คุณดูเหมือนน้ำหนักลดลง อาจจะเป็นแค่ในช่วงแรกๆ ซึ่งเกิดมาจากร่างกายเสียน้ำ แต่เมื่อดื่มน้ำกลับเข้าไปเหมือนเดิม น้ำหนักตัว ก็อาจจะกลับมาเป็นปกติ เพราะฉะนั้น ความเชื่อที่ว่า การดีท็อกซ์ = การลดน้ำหนัก เป็นความเชื่อที่ผิดนะจ๊ะ ออกกำลังกายต่างหาก ถึงจะช่วยลดน้ำหนักได้

นี่เป็นคนนึงนะ ที่ซื้ออาหารเสริมตามออนไลน์มากิน พอเห็นสรรพคุณต่างๆ ของเค้าแล้วแบบ ใจลอยเลยจ้า ไม่ตำไม่ได้จริงๆ แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่า คำโฆษณา ยังไง้ยังไง มันก็คือคำโฆษณาค่ะ เพราะถ้าเราไม่ออกกำลังกายและไม่ควบคุมอาหาร ยังไงมันก็ไม่ผอม แถมถ้าซิสหลงเชื่อคำโฆษณา มากกว่าความถูกต้อง ซิสอาจจะโดนหลอกให้กินของที่ไม่มีคุณภาพได้ด้วยนะ การซื้ออาหารเสริมหรือเครื่องดื่มดีท็อกซ์ที่ขายตามท้องตลาดหรือในโลกออนไลน์ ควรอ่านข้อมูลให้ครบ ดูส่วนผสมและดูว่ามีอย.หรือไม่ เราไม่ได้บอกว่าดีท็อกซ์ในร้านค้าออนไลน์มันไม่ดีนะ แต่ของปลอมก็มีไง เพราะฉะนั้นควรตรวจสอบให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะบางครั้ง รีวิวก็ใช่ว่าจะเป็นประโยชน์เสมอไปนะ ข้อมูลต่างหากที่สำคัญ เพราะบางทีอาหารเสริมหรือดีท็อกซ์ที่เขาฮิตๆ กัน อาจจะไม่เหมาะกับเราหรืออาจจะไม่ดีอย่างที่เค้าเคลมเอาไว้ก็ได้ ซึ่งทางที่ดีไม่ควรซื้อหามารับประทานเอง ลองไปปรึกษาคุณหมอสักหน่อย เราว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีมากกว่า

หลายๆ คนอาจจะเข้าใจเหมือนกันกับเราว่า การดีท็อกซ์ มันคือการขับของเสียออกจากร่างกาย แต่มันจะใช่อย่างที่เราเชื่อจริงๆ หรอ ว่ากันว่าในความเป็นจริงแล้ว อวัยวะที่ทำหน้าที่ดักจับของเสียและขับของเสียออกจากร่างกาย แท้ทริงแล้วเป็นหน้าที่ของตับและไต ซึ่งการที่เราดื่มเครื่องดื่มดีท็อกซ์ เป็นเพียงการดื่มเพื่อช่วยกระตุ้นในเรื่องของการขับถ่ายเท่านั้น ไม่ได้ช่วยขับของเสียอะไรออกมาจากร่างกายเท่าไหร่ ถ้าบอกว่าขับสิ่งที่ตกค้างในลำไส ยังพอจะเป็นไปได้มากกว่า แต่การทานอาหารที่มีประโยชน์และการทานผักผลไม้ ที่มีแหล่งแร่ธาตุ พร้อมคุณประโยชน์จริงๆ นี่ซิ! ถึงจะช่วยให้ขบวนการในร่างกายสามารถทำความสะอาดตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ แม้เราจะเข้าใจว่าการดีท็อกซ์เป็นการขับถ่ายเอาของเสียที่อยู่ในร่างกายออกไปจนหมด รู้สึกได้ถึงความโล่งสบายท้อง ลำไส้สะอาดปราศจากเชื้อโรค แต่จริงๆ แล้ว การดีท็อกซ์ลำไส้ไม่ได้ดีต่อร่างกายเสมอไป เพราะฉะนั้นมันจะดีกว่ามั้ย ถ้าเราปรึกษาคุณหมอโดยตรง

เราว่ามีหลายคนอยู่แหละ ที่คิดว่า เครื่องดื่มดีท็อกซ์กับยาระบาย มันก็เหมือนๆ กัน เพราะกินแล้ว ก็ขับถ่ายของเสียออกมาเหมือนกัน ความคิดนี้ เป็นความเชื่อที่ผิดนะคะ รู้มั้ยว่า ยาระบาย มีฤทธิ์ช่วยดึงน้ำออกจากผนังลำไส้ ส่งผลให้เนื้ออุจจาระนิ่มและขับถ่ายออกได้ง่าย เหมือนจะดีใช่มั้ย แต่ไม่ใช่อย่างที่เพื่อนๆ คิดหรอกค่ะ เพราะว่าถึงแม้เราจะขับถ่ายของเสียออกมา แต่ยาระบายที่เรากินเข้าไป มันไม่สามารถชะล้างสารพิษหรือคราบตะกรันที่สะสมตามผนังลำไส้ได้ และถ้าเรายังฝืนทานยาระบายไปเรื่อยๆ เป็นเวลานานๆ จะทำให้เกิดภาวะลำไส้เคยชินต่อยาระบาย ร่างกายไม่สามารถขับถ่ายได้เอง และจะทนต่อยามากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องเพิ่มขนาดยามากขึ้น ลำไส้ทำงานไม่ปกติยากต่อการแก้ไข นอกจากนี้ยังอาจเกิดภาวะปวดท้อง ระดับเกลือแร่เสียสมดุล ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เวียนศีรษะได้อีกด้วย อันตรายสุดๆ ไปเลยอะ เพราะฉะนั้นอย่าได้ลองกินเด็ดขาด!