อีกหนึ่งปัญหาที่สาวๆ เจอบ่อยคงจะหนีไม่พ้นรอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว แต่อย่ายอมให้สิวอยู่เหนือเรา เพราะครั้งนี้เรามาเพื่อชนะ!

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. มาส์กหน้า
2. เลเซอร์/ทรีตเมนต์
3. ยาลดรอยสิว
สวัสดีค่าสาวซิสทุกคน!
เชื่อว่าหนึ่งในปัญหาที่สาวๆ เจอบ่อยคงจะหนีไม่พ้นรอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว เพราะถึงแม้สิวจะจากจากไป แต่ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ดูต่างหน้าให้สะเทือนใจเล่นๆ
สำหรับตัว ‘เค้ก’ เองนั้น ออกตัวก่อนเลยว่าโดยปกติแล้วไม่ได้มีปัญหาเรื่องสิวสักเท่าไหร่ นานๆ ทีนางถึงจะโผล่มาทักทายให้หายคิดถึง 1-2 เม็ด แต่ปัญหาก็อยู่ตรงที่ว่านานๆ โผล่มาทีนั้น นางอยู่ยาวนะจ๊ะ แล้วด้วยความมือซนของเค้ก เห็นทีไรก็ต้องคอยเอามือไปจับไปลูบไปแคะซะทุกที ผลก็คือหน้าแหก ผิวอักเสบจนเกิดเป็นรอยดำ รอยแดงนี่แหละ 55555555555 เอาจริง เค้กว่าสาวๆ หลายคนก็คงมือซนเป็นเหมือนกัน
แต่ก็นั่นแหละค่ะ ในเมื่อปัญหามันเกิดขึ้น และเราก็ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำก็คือรักษาเจ้ารอยที่ว่าให้สมานกลับมาเป็นเหมือนเดิม ซึ่งเค้ก 3 วิธีง่ายๆ มาแนะนำ
1. มาส์กหน้า
วิธีนี้มีทั้งทำมาส์กเองและซื้อแผ่นมาส์กสำเร็จรูป ในส่วนของการทำมาส์กเองนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นวิธีดั้งเดิมตั้งแต่ยุคคุณแม่ยังสาวจริงๆ สูตร ฮิตสุด! ปังสุด! ก็คงจะหนีไม่พ้นวัตถุดิบอย่าง ‘หอมแดง’ ซึ่งตัวหอมแดงเองนั้นก็มีสรรพคุณเด่นเรื่องการรักษาสิว
แค่นำหอมแดงมาฝานออกเป็นแว่น ๆ หรือทุบเบาๆ ให้ได้น้ำออกมาแล้วนำมาถูเบา ๆ บริเวณที่เป็นรอยดำรอยแดงเจ้าปัญหา ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วรีบไปล้างออก ทำสักอาทิตย์ละ 2 ครั้ง อดใจรออีกหน่อย ผิวหน้าก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเองจ้า ข้อควรระวังมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็คืออย่าใช้กับบริเวณผิวที่บอบบาง เพราะสารกำมะถันในหอมแดงอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ ระวังด้วยนะจ๊ะสาวๆ
หรือถ้าใครรู้สึกว่าขั้นตอนเยอะไป ต้องการความสะดวกสบายกว่านั้น เค้กแนะนำว่าซื้อมาส์กสำเร็จรูปเลยค่ะ! 5555 ซึ่งถ้าถามว่าควรใช้รุ่นไหนดี จริงๆ ก็แล้วแต่ความชอบนะ ส่วนตัวเค้กจะดูจากมาส์กที่มีสารสกัดของชาเขียว ใบบัวบกหรือหอมแดงอย่างใดอย่างนึง และที่ขาดไม่ได้เลยต้องมีคุณสมบัติช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นด้วยค่ะ
2. เลเซอร์/ทรีตเมนต์
ได้ยินมานานกับการเลเซอร์รอยสิว เค้กเองยังไม่เคยลอง แต่จากรีวิวต่างๆ ก็มีความแตกต่างกันออกไป เบื้องต้นนั้นถ้าอยากลดรอยดำลองเข้าคอร์สทำทรีตเมนต์ด้วยกรด AHA อ่อนๆ ผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนจุดด่างดำได้
หรือถ้าอยากลดรอยแดงก็ลองเลเซอร์ IPL เพราะเป็นการยิงลำแสงผ่านเข้าไปยังผิวหนังเพื่อไปทำปฏิริยากับเซลล์เม็ดสีดำ เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณชั้นผิวที่เกิดรอยดำ ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นด้วยค่ะ
แต่ถ้าอยากลดทั้งรอยดำและรอยแดง ลองศึกษาเลเซอร์ YAG อีกหนึ่งนวัตกรรมที่สามารถลดได้ทั้งรอยแดงและรอยดำจากสิวได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ทั้งนั้นการรักษารอยสิวด้วยวิธีนี้ ราคาก็อาจแรงประมาณนึง ดังนั้นค่อยๆ ศึกษาข้อมูลไว้ก่อนจะได้ไม่เสียใจภายหลังจ้า
3. ยาลดรอยสิว

Uderma Bio Scar Care Gel
ข้อนี้ดูเป็นอะไรที่กลางๆ และน่าจะจับต้องได้ง่ายมากที่สุด!
บอกเลยว่าเป็นวิธีประจำของเค้กเลยล่ะแต่การหายาดีๆ ก็เป็นอะไรที่ไม่ง่ายเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น ตัวเค้กเองก็ลองผิดลองถูกมาเยอะ และก็จะขอลองต่อไปเพื่อภารกิจทวงคืนหน้าใส!! 5555555 ล่าสุดคือได้มาลองเจ้าตัวนี้
Uderma Bio Scar Care Gel เกริ่นก่อนว่านางเป็นเจลใสบำรุงผิว มีส่วนผสมของสารไบโอเปบไทด์ รวมถึงสมุนไพรอย่างหอมแดงและใบบัวบกด้วย อะ คุ้นๆ มั้ย? ใช่ นางเอาพระเอกรักษารอยสิวมารวมไว้ในหลอดเดียวกันเลย เก๋มาก!

Uderma Bio Scar Care Gel [2]
ที่สำคัญนางได้รางวัล Beauty Hall of Fame 2019 จาก Cleo นะจ๊ะ เริ่ดแหละแม่!
ให้ดูเนื้อก่อนเลย เป็นเจลเนื้อใส จริงๆ นางว่านางไม่มีกลิ่น แต่เค้กลองดมดูรู้สึกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบสมุนไพรอะไรประมาณนั้น

เนื้อเจล Uderma Bio Scar Care Gel
พอลองทาแล้ว เห็นได้ชัดว่าซึมเร็วมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย ขนาดว่าทาปุ๊บถ่ายปั๊บ

หลังจากทาเจลใส Uderma Bio Scar Care Gel
อันนี้เป็นภาพเค้กช่วงที่มีปัญหาเรื่องรอยสิวนะคะ จะเห็นได้ว่ามีแค่ไม่กี่จุดก็จริง แต่ก็มีผลทำให้หน้าดูมีจุดๆ อะไรบางอย่าง จะหน้าใสก็ใสไม่สุด 5555

หน้าช่วงที่มีรอยสิว [ผมฟูมาก 555]

เกือบหน้าใสแล้ว แต่ก็ยังมีสิวตรงหัวคิ้วจนได้ -.,-
ส่วนภาพนี้เป็นภาพปัจจุบันหลังผ่านการใช้เจลลดรอยสิวมาสักระยะ ซึ่งถ้าซูมดูอาจจะยังพอเห็นรอยจางๆ อยู่บ้าง แต่ก็เห็นได้ว่ารอยที่เด่นๆ ก็หายไปเยอะเลยนะยิ่งพอแต่งหน้าช่วยก็ รู้สึกมั่นใจในตัวเองขึ้นเยอะเลย!

รูปปัจจุบัน เพิ่งถ่ายเลย >



อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความงาม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe