ความงาม

เปิดกรุ น้ำตบ 15 แบรนด์ตัวท็อป สร้างผิวฉ่ำ หน้าใส ไร้สิว ตอบโจทย์คนไม่มีเวลา!

อยาก ผิวฉ่ำ หน้าใส ไร้สิว “น้ำตบ” ช่วยได้ สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวอย่างที่สาวๆ ต้องการ

Home » ความงาม » วิธีดูแลผิวหน้า - สกินแคร์ - น้ำตบพิเทร่า - น้ำตบ - Ranking » เปิดกรุ น้ำตบ 15 แบรนด์ตัวท็อป สร้างผิวฉ่ำ หน้าใส ไร้สิว ตอบโจทย์คนไม่มีเวลา!

เลือกอ่านตามหัวข้อ

[แสดง]

[ซ่อน]

How To Use น้ำตบ อย่างไรให้ได้ผลที่สุด!
น้ำตบ JURNESS Organic Lavender Water Essence
น้ำตบ Hada Labo Premium Moisture Lotion
น้ำตบ Origins Mega Mushroom Relief and Resilience Soothing Treatment Lotion
น้ำตบ Biotherm Life Plankton Essence
น้ำตบ Clinique Moisture Surge Hydrating Lotion
น้ำตบ Shu Uemura White efficient Whitening Lotion
น้ำตบ Rohto Melano CC Whitening Lotion
น้ำตบ L'Oréal Paris Revitalift Micronized Centella Essence Water
น้ำตบ KOHAKU HADA Lotion Moisture
น้ำตบ Laneige White Plus Renew Skin Refiner
น้ำตบ Mizumi Marine Sugar White Essence
น้ำตบ La Mer Treatment Lotion
น้ำตบ Mamonde-First-Energy-Essence
น้ำตบ innisfree soybean energy essence
น้ำตบ Clarins Multi Intensive Super Restorative Treatment
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

อยาก ผิวฉ่ำ หน้าใส ไร้สิว จะสกินแคร์ตัวไหนดีนะ ??

นี่เลยจ้ะ “น้ำตบ” หรือ ชื่อทางการเค้าของ ก็คือ เอสเซนต์ นั่นเอง เพียงแค่ตัวนี้ตัวเดียวช่วยก็สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวอย่างที่สาวๆ กำลังต้องการได้เลยนะ เพราะ ' น้ำตบ ' นางเป็นสกินแคร์บำรุงผิวที่บำรุงล้ำลึกแบบเอสเซนส์ แต่มาในรูปแบบน้ำที่ซึมซาบได้ไว ใช้งานง่ายมาก ตอบโจทย์ปัญหาสาวๆ ที่ไม่มีเวลามาทาครีมหลายๆ ตัว หลายๆ กระปุก หยิบ น้ำตบ มาตบๆ เข้าผิว ก็เป็นอันเสร็จแล้วจ้ะ

ซึ่งตอนนี้หลายแบรนด์ก็ทำ น้ำตบ ออกมาขายกันเพียบ มีเยอะมาก! วันนี้ทางเราเลยขอมา เปิดกรุ 15 น้ำตบตัวท็อป แต่ละตัวที่ว่าดี ที่ว่าดัง และช่วยเสกผิวฉ่ำ สร้างผิวใส ไร้สิว มาจัดอันดับให้สาวๆ SistaCafe ได้เก็บลิสต์ไว้นั่นเองจ้าจะมีตัวไหนตามมาดูและจดลิสต์ของดีกันเลยจ้าาา

How To Use น้ำตบ อย่างไรให้ได้ผลที่สุด!

แต่ก่อนจะไปดูน้ำตบตัวท็อปกันนั้น อยากจะขอแชร์ทริควิธีใช้น้ำตบเพิ่มให้สาวๆ ได้รู้กันสักนิดหน่อย เพื่อใช้แล้วจะได้เห็นผลที่สุดนะคะ

Trick 1 น้ำตบ เค้ามี Texture เป็นเนื้อน้ำ ทำให้ซึมลงผิวได้ง่าย ดังนั้นสาวๆ ที่จะควรใช้น้ำตบเป็นสกินแคร์ตัวแรก หลังจากล้างหน้าสะอาดหมดจดแล้วนะคะ เพื่อจะช่วยเป็นการปรับสภาพผิวให้สมดุล พร้อมรับการบำรุงด้วยครีมบำรุงตัวถัดไปด้วยนั่นเองจ้ะ

Trick 2 เนื่องจากน้ำตบเป็นเนื้อน้ำ จึงสามารถใช้บำรุงผิว ได้ 2 วิธี คือ 1. เทลงบนฝ่ามือ แล้วค่อยๆ ตบทั่วใบหน้าอย่างเบามือ และ 2.เทลงบนสำลี แล้วเช็ดอย่างเบามือให้ทั่วใบหน้า และลำคอ โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ปิดท้ายด้วยการตบเบาๆ ทั่วใบหน้า เพราะความร้อนที่ฝ่ามือจะช่วยให้น้ำตบซึมลงผิวได้ดีขึ้นนะจ๊ะ

รู้ทริคกันไปแล้ว งั้นไปดูเปิดกรุ 15 น้ำตบกันเลยดีกว่าจ้า! GO >>

น้ำตบ JURNESS Organic Lavender Water Essence

มากันที่ ' น้ำตบ ' ตัวแรก ตัวนี้เป็นของ JURNESS Organic Lavender Water Essence นั่นเองจ้า ที่ยกตัวนี้มาตัวแรกก็เพราะเค้าเป็นน้ำตบสูตรเข้มข้นจากสารสกัดธรรมชาติล้วนๆ เลย ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ ไม่มีแอลกอฮอล์ / ไม่มีพาราเบน (สารกันเสีย) ไม่มี SLS และ SLES (สารชำระล้างที่ระคายเคืองผิว) แถมผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง ทำให้ใครที่มีผิวแพ้ง่าย หรือมีแนวโน้มเป็นสิว สามารถใช้ได้อย่างสบายใจเลยแน่นอน

แถมอัดแน่นด้วยส่วนประกอบสำคัญอย่าง Organic Lavender Water น้ำดอกลาเวนเดอร์ออร์แกนิคที่จะช่วยลดการระคายเคืองและช่วยทำให้ผิวที่แพ้นั้นดีขึ้น , Laricyl (Mushroom Extract) สารสกัดธรรมชาติจากเห็ด Fomes Officinalis จากประเทศฝรั่งเศส ตัวนี้จะช่วยลดขนาดรูขุมขนลง 40-50 % ทันทีที่ใช้ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวยาวนานกว่า 24 ชั่วโมงเลย , Fucogel (Biosaccharide Gum1) สารสกัดธรรมชาติจากน้ำตาล ช่วยเพิ่มโปรตีนในชั้นผิวได้ 76 % ทำให้ผิวยืดหยุ่น แข็งแรง กระชับขึ้น , Biobenefity (Artichoke Leaf Extract) สารสกัดธรรมชาติจากใบอาร์ติโช๊ค ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เพราะจะเข้าไปลดจำนวนเมลานินในผิวได้ถึง 33 % เลย และยังมี Centella Asiatica Extract สารสกัดจากใบบัวบก ตัวนี้จะช่วยลดรอยแผลได้มากกว่า 50 % ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เมื่อใช้ต่อเนื่องกัน 7 วันขึ้นไปค่ะ รวมแล้วก็คือช่วยในเรื่องของการเพิ่มออกซิเจนให้เซลล์ผิว เติมความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความขาวกระจ่างใส ทำให้ผิวแข็งแรงด้วยนั่นเองค่ะ

ส่วนเนื้อผลิตภัณฑ์ ของตัวนี้จะเป็นลักษณะเนื้อน้ำ เหลวๆ ใสๆ แต่มีความหนืดมากกว่าน้ำเล็กน้อย แต่ก็ค่อนข้างที่ซึมซาบเร็ว เกลี่ยง่าย ไม่หนักหน้า และไม่เหนียวเหนอะหนะเลย ที่สำคัญตัวนี้เค้ามีกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ธรรมชาติด้วยนะ ส่วนราคาก็อยู่ที่ 790 บาทเท่านั้นเอง ถ้าใครที่อยากได้ สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่เลยจ้า >> JURNESS Organic Lavender Water Essence <<

น้ำตบ Hada Labo Premium Moisture Lotion

น้ำตบ-2-Hada-Labo-Premium-Moisture-Lotion

มาต่อกันที่ตัวที่ 2 กับ น้ำตบ Hada Labo Super Hyaluronic Acid Hydrating Lotion สำหรับสูตรนี้ความพิเศษคือช่วยแก้ปัญหาผิวเสียสมดุลให้กลับมาอิ่มน้ำ เพราะได้ Hyaluronic ทั้ง 4 ชนิด อย่าง Hyaluronic Acid, Medium-size Hyaluronic Acid, Super Hyaluronic Acid และ Nano Hyaluronic Acid มาอัดแน่นกันอยู่ในตัวนี้เลย รวมๆ แล้วก็คือ จะช่วยในเรื่องของการเติมความชุ่มชื่น และคืนความเปล่งปลั่ง ช่วยให้ผิวดูเนียนนุ่มยาวนานขึ้นกว่าเดิมนั่นเองจ้ะ

ส่วนเนื้อผลิตภัณฑ์ ของเค้าจะไม่ค่อยเหลว แต่จะออกไปในทางเนื้อหนืดๆ กว่าน้ำตบทั่วไปนิดหน่อย แต่ตัวนี้เค้าก็ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ น้ำหอม และสีด้วยนะ แถมราคายังน่ารักกรุบกริบ ไม่แพงจนเกินไป อยู่ที่ประมาณ 580 บาทเท่านั้นเอง แต่ราคาก็ขึ้นอยู่กับสูตรและขนาดนะคะ ใครอยากลองก็ไปสอยมาใช้กันได้

น้ำตบ Origins Mega Mushroom Relief and Resilience Soothing Treatment Lotion

เห็นบิวตี้บล็อกเกอร์หลายคนพูดถึงกันเยอะมาก จะขาดตัวนี้ไปไม่ได้เลย กับ ' Origins Mega-Mushroom Skin Relief Soothing Treatment Lotion ' หรือที่เค้าเรียกกันว่า ' น้ำตบเห็ด ' ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการกอบกู้ผิวโทรมได้ในชั่วข้ามคืน และช่วยปลอบประโลมผิวหน้าบอบบางแพ้ง่ายให้แข็งแรงขึ้น จากส่วนผสมของสารพัดเห็ด อย่าง เห็ดหลินจือ เห็ดถั่งเช่า เห็ด Chaga และยังมีแลคโตบาซิลลัส สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรูขุมขนกระชับ ปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้น ผ่อนคลาย ลดการอักเสบ สิวผด และรอยแดงจากอาการแพ้ ผิวหน้าสุขภาพดี และที่สำคัญไม่ต้องกลัวระคายเคืองเลย เพราะตัวนี้' ไม่มีแอลกอฮอล์ ' ค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ เนื้อน้ำตบของเค้าค่อนข้างบางเบา และก็แอบมีกลิ่นหอมสดชื่นแบบสมุนไพรมาด้วย คนไหนอยากได้ ก็ไปลองหามาใช้กันได้เลยค่ะ ราคาก็กรุบกริบอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท

น้ำตบ Biotherm Life Plankton Essence

เป็นอีกตัวที่ปีนี้ เค้ามาแรงแบบสุดๆ สำหรับเจ้าเอสเซนส์น้ำตบ Biotherm Life Plankton Essence ขวดสีฟ้าตัวนี้สาว ๆ หลายคนต่างก็คอนเฟิร์มในความดีงามของมันมาเยอะ ใครผิวขาดน้ำบอกเลยว่า เจอเนื้อคู่ที่เหมาะกับคุณแล้ว เพราะส่วนประกอบสำคัญของเค้า อย่าง น้ำทะเล (Maris Aqua) และ แพลงก์ตอนทะเล ที่เป็นแม่งานตัวเด่นของแบรนด์ จะเข้ามาช่วยในเรื่องการให้ความชุ่มชื้นผิวแบบขั้นสุด และนอกนั้นก็ยังมีพวกสารให้ความชุ่มชื้นอื่นๆ อีกเพียบ เช่น Sodium Hyaluronate และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ตามมาด้วย Adenosine สารกระตุ้นคอลลาเจนและลดเลือนริ้วรอย เรียกได้ว่าอัดแน่นกันมาอยู่ในเอสเซนส์ตัวนี้เลย

ส่วนตัวของเนื้อเอสเซนส์จะมีความข้นนิดๆ ออกไปทางฟิล์มเคลือบผิวบางๆ แต่ก็ซึมเข้าผิวได้ดี เวลาลงเอสเซนส์ ตบเข้าไปประมาณ 2 อาทิตย์ ก็จะรู้สึกถึงความใสและความฉ่ำได้ ส่วนเรื่องของราคา ตัวนี้ก็ยังคงแรงอยู่เหมือนกันค่ะ มีตั้งแต่ 2,500 บาท ราคาก็ตามขนาดที่เราเลือกนั่นเองค่ะ

น้ำตบ Clinique Moisture Surge Hydrating Lotion

มาถึงตัวที่ 5 กันแล้ว กับ Clinique Moisture Surge Hydrating Lotion ตัวนี้เค้าเคลมมาว่าใช้ได้กับทุกผิวไม่ว่าจะ ผิวผสม ผิวแห้ง ผิวมัน ก็สามารถใช้ได้ ซึ่งช่วยเตรียมผิวเพื่อรับการบำรุงจากเซรั่มและครีม ช่วยเติมความฉ่ำน้ำ และเปล่งปลั่งให้กับผิว ด้วยส่วนผสมหลักๆ อย่าง Vitamin C และ Vitamin E ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และนอกจากนี้ยังมี Moisture Holding Matrix Polymer ที่จะช่วยให้ผิวอิ่มน้ำอย่างสมดุล กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมือนเกราะปกป้องผิวจากมลภาวะ

เนื้อผลิตภันฑ์ตัวนี้เป็นเนื้อไม่เหลว แต่ก็ไม่ข้นจนเกินไป กลิ่นเบาๆ วิธีทาตัวนี้ให้ทาย้อนรูขุมขนนะค้าบ เค้าจะช่วยเติมน้ำใต้ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ใช้นิดเดียวทาได้ทั้งหน้า คุ้ม!