Girls can do anything! 2019 แล้วค่ะซิสขา อย่าปล่อยให้หน้าที่ขอคบ ขอเดท เป็นเรื่องของคุณผู้ชายอยู่ฝ่ายเดียว เราก็เป็นฝ่ายขอเดท ขอคบเขาเป็นแฟนได้เหมือนกัน!

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. เธอจะเป็นฝ่ายที่ 'เหนือกว่า' ในความสัมพันธ์
2. เราเป็นฝ่ายเลือกผู้ชายเอง ไม่ต้องนั่งรอเหมือนยุคโบราณ
3. รู้สึกชอบ ก็ขอคบเลย ไม่รีรอให้เสียเวลาทำมาหากิน
4. ถ้าไม่แสดงตัว หนุ่มที่ชอบอาจไม่รู้ว่าเรามีตัวตน!
5. ถ้าเก็บไว้ อาจโดนสาวอื่นชิงตัดหน้าไปก่อนก็ได้!
6. ถ้าไม่กล้าบอกตรงๆ ก็ต้องทิ้งคำใบ้ เพราะผู้ชายเดาใจไม่ออก!
7. แสดงออกว่าเราจริงจัง จึงช่วยสแกนหนุ่มเจ้าชู้ไปในตัว!
8. แสดงออกว่า เรารู้ว่าตัวเองมีคุณค่า รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร
- - - - ฮัลโหลค่าาา สาวๆ SistaCafe สุดที่รัก (.❛ ᴗ ❛.)❤ - - - -
ผู้หญิงเรามักจะถูกที่บ้าน สังคมสั่งสอนกันมาแต่เด็กๆ ว่า เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว! ห้ามออกตัวแรง! รู้สึกอะไรก็ต้องเก็บไว้ ต้องทำตัวอ่อนแอให้ผู้ชายมาช่วยเหลือ ยิ่งในเรื่องความรัก ถึงจะชอบผู้ชายสักคนมากแค่ไหน ก็ต้องไว้ตัว เล่นตัว ห้ามไปบอกรักก่อนเด็ดขาด สรุปนกจ้า! นกบินว่อนจิ๊บๆ กันมากี่คนแล้วเพราะยึดกฎนี้ แล้วพออายุ 30++ ที่บ้านนั่นแหละที่มาถามว่า " เมื่อไหร่จะมีแฟน " //จะจีบก่อนแม่ก็ด่าบ้านแตก จะเอายังไงกับหนู แงงง
เอาจริงๆ ยุคนี้ก็ไม่ใช่ยุควิกตอเรียน อยุธยา แม่พลอยสี่แผ่นดิน ที่ต้องนั่งพับเพียบร้อยมาลัย รอผู้ชายมาสู่ขอแล้วนะคะซิส! แต่นี่คือปี 2020 ที่สองเพศก็ต้องทำงานหาเงิน เรียนหนังสือ มีสิทธิ์มีเสียงในสังคมพอๆ กัน ดังนั้นกฎที่ว่าต้องรอผู้ชายมาจีบก็คงไม่ใช่แล้ว ใช่ค่ะ เรามีสิทธิ์จีบก่อน และมีข้อดีเยอะด้วย! ถ้าอยากรู้ว่าการบอกรัก ขอคบหนุ่มๆ ที่ชอบก่อนมันดียังไง ก็มาอ่าน ' 8 เหตุผลที่ควรขอคบผู้ชายก่อน ' ในบทความนี้กันเลยค่า Let's Gooo!
1. เธอจะเป็นฝ่ายที่ 'เหนือกว่า' ในความสัมพันธ์
ฝ่ายที่เหนือกว่าในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าให้เธอไปกดขี่ข่มเหง ทำร้ายร่างกายผู้ชายเด้อ อันนั้น toxic relationship แล้ว! แต่หมายถึงว่า เธอเป็นคนเริ่มความสัมพันธ์ครั้งนี้ ดังนั้นเธอจะมีความมั่นใจในการประคองชีวิตคู่ สลับเป็นผู้นำในเรื่องต่างๆ กับฝ่ายชายได้
ซึ่งต่างกับค่านิยมสมัยก่อน ที่ผู้หญิงต้องเป็นช้างเท้าหลังเดินตามผู้ชายงกๆ อย่างเดียว จะทำอะไร ตัดสินใจอะไรก็ต้องรอผู้ชายตลอดเวลา หรือหากรักไปไม่รอด เธอก็มั่นใจที่จะเอ่ยปากจบความสัมพันธ์ได้ง่ายกว่า เพราะเธอมีความกล้ามากพอจะเริ่มรักครั้งใหม่นั่นเองค่ะ
ซึ่งต่างกับค่านิยมสมัยก่อน ที่ผู้หญิงต้องเป็นช้างเท้าหลังเดินตามผู้ชายงกๆ อย่างเดียว จะทำอะไร ตัดสินใจอะไรก็ต้องรอผู้ชายตลอดเวลา หรือหากรักไปไม่รอด เธอก็มั่นใจที่จะเอ่ยปากจบความสัมพันธ์ได้ง่ายกว่า เพราะเธอมีความกล้ามากพอจะเริ่มรักครั้งใหม่นั่นเองค่ะ
2. เราเป็นฝ่ายเลือกผู้ชายเอง ไม่ต้องนั่งรอเหมือนยุคโบราณ
ผู้หญิงยุคก่อนไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน ดังนั้นตัวเลือกผู้ชายของเธอจึงค่อนข้างจำกัด ไม่รู้จักใครเท่าไหร่ ใครมาสู่ขอ มาจีบก็เอาเลย ยังไม่นับปัจจัยอื่นๆ เช่น แต่งเพื่อหนีหนี้ แต่งเพราะพ่อแม่บังคับ บางทีอยู่ๆ ไปเข้ากันไม่ได้ ก็เลิกไม่ได้อีกเพราะกลัวที่บ้านเสียหน้า หรือหย่าเป็นแม่ม่ายแล้วจะไม่มีใครเอา... #กุมขมับ
ซึ่งต่างจากผู้หญิงยุคปัจจุบัน ที่เราได้ท่องโลกกว้าง รู้จักหนุ่มๆ มากหน้าหลายตา ทั้งทางชีวิตจริงและอินเตอร์เน็ต แอพหาคู่ เธอจึงมีสิทธิ์คัดเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดให้ตัวเอง ไม่ต้องเป็นฝ่าย ' ถูกเลือก ' อีกต่อไป แต่เป็นฝ่าย ' เลือกเอง ' อย่างน้อยๆ ถ้ารักไปไม่รอด เธอก็ไม่ต้องเสียใจทีหลัง เพราะเธอเป็นฝ่ายเลือกผู้ชายคนนี้เองตั้งแต่ต้นค่ะ
ซึ่งต่างจากผู้หญิงยุคปัจจุบัน ที่เราได้ท่องโลกกว้าง รู้จักหนุ่มๆ มากหน้าหลายตา ทั้งทางชีวิตจริงและอินเตอร์เน็ต แอพหาคู่ เธอจึงมีสิทธิ์คัดเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดให้ตัวเอง ไม่ต้องเป็นฝ่าย ' ถูกเลือก ' อีกต่อไป แต่เป็นฝ่าย ' เลือกเอง ' อย่างน้อยๆ ถ้ารักไปไม่รอด เธอก็ไม่ต้องเสียใจทีหลัง เพราะเธอเป็นฝ่ายเลือกผู้ชายคนนี้เองตั้งแต่ต้นค่ะ
3. รู้สึกชอบ ก็ขอคบเลย ไม่รีรอให้เสียเวลาทำมาหากิน
ผู้หญิงยุคนี้ก็มีงานมีการทำเนอะ! ไม่ใช่ว่าจะนั่ง นอนรอความรักเพียงอย่างเดียว ถ้าเธอเจอผู้ชายโสด ( ย้ำว่าโสด อย่าไปแอบกินของคนอื่นเด้อ มันไม่ดี ) ที่ตรงสเปค ลองคุยแล้วสักพักก็ใจตรงกัน ก็ไม่จำเป็นต้องรีรอให้เสียเวลา บอกชอบ ขอคบไปเลย ถ้าชอบก็คบกันแฮปปี้ ความรักคอมพลีท แต่ถ้าเธอไม่ใช่สำหรับเขา ก็ปฏิเสธมา จะได้เอาเวลาไปทำมาหากินอย่างอื่นต่อ ง่ายๆ แค่นั้นเลย!
ลองนึกภาพดูสิ การที่ต้องมานั่งจีบ นั่งแอ๊วผู้ชายคนเดียวอยู่เป็นปีๆ โดยที่เขาไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมา มันเสียเวลานะคะซิส! ทำอะไรก็ทำให้มันชัดเจน อย่าเลี้ยงไข้ไปเรื่อยๆ แล้วในที่สุดเขาก็หนีไป in a relationship กับสาวที่ไหนไม่รู้ ร้องไห้เลยนะ! #กำหมัดแน่น
ลองนึกภาพดูสิ การที่ต้องมานั่งจีบ นั่งแอ๊วผู้ชายคนเดียวอยู่เป็นปีๆ โดยที่เขาไม่มีสัญญาณตอบรับกลับมา มันเสียเวลานะคะซิส! ทำอะไรก็ทำให้มันชัดเจน อย่าเลี้ยงไข้ไปเรื่อยๆ แล้วในที่สุดเขาก็หนีไป in a relationship กับสาวที่ไหนไม่รู้ ร้องไห้เลยนะ! #กำหมัดแน่น
4. ถ้าไม่แสดงตัว หนุ่มที่ชอบอาจไม่รู้ว่าเรามีตัวตน!
ในกรณีที่ไม่เคยคุยกับผู้ชายคนนี้มาก่อน อาจเป็นคนในคณะ คนในแผนกที่เคยเห็นผ่านตา เธอเห็นหน้าเขา แต่เขาไม่รู้จักเธอ แล้วศรรักมันปักอกเข้าเต็มเปาแล้วล่ะก็ ยิ่งควรต้องเป็นฝ่ายบอกก่อนค่ะ! อย่ามาอ้ำๆ อึ้งๆ ไขว้นิ้วภาวนาว่าเขาจะมองเห็นเธอเอง ( จากคนในคณะที่มีสักห้าร้อยคน ) และเดินดุ่มๆ มามอบช่อดอกไม้ให้เหมือนในซีรีส์ ตื่นค่ะฮัลโหล! นี่ชีวิตจริง เขาก็ใช้ชีวิตของเขาค่ะ ถ้าเธอไม่รุก เธอก็นก ง่ายๆ แค่นี้!
ถ้าเธอยังเขิน กระมิดกระเมี้ยนที่จะบอกชอบผู้ชายก่อน อย่างน้อยๆ เลยนะ แสดงตัวค่ะ ให้เขาเห็นว่าเธอมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้! อาจจะส่งยิ้มให้ แกล้งทำของหล่นให้เขาเก็บให้ หรือลงเรียนวิชาเดียวกับเขา etc. ให้หนุ่มๆ เขาคุ้นหน้าเธอไว้ก่อน แล้วถึงจังหวะเหมาะก็บอกชอบ คิดซะว่าถ้าเขาไม่คลิก เราก็แค่เดินหน้าหาคนใหม่ ดีกว่าแอบมองไปตลอดโดยไม่ได้ทำอะไร เชื่อเถอะว่ามองย้อนกลับมา เธอจะเสียดายมาก และแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วด้วย ยอมอายหน่อย แต่ผลลัพธ์คุ้มค่าแน่นอน!
ถ้าเธอยังเขิน กระมิดกระเมี้ยนที่จะบอกชอบผู้ชายก่อน อย่างน้อยๆ เลยนะ แสดงตัวค่ะ ให้เขาเห็นว่าเธอมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้! อาจจะส่งยิ้มให้ แกล้งทำของหล่นให้เขาเก็บให้ หรือลงเรียนวิชาเดียวกับเขา etc. ให้หนุ่มๆ เขาคุ้นหน้าเธอไว้ก่อน แล้วถึงจังหวะเหมาะก็บอกชอบ คิดซะว่าถ้าเขาไม่คลิก เราก็แค่เดินหน้าหาคนใหม่ ดีกว่าแอบมองไปตลอดโดยไม่ได้ทำอะไร เชื่อเถอะว่ามองย้อนกลับมา เธอจะเสียดายมาก และแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วด้วย ยอมอายหน่อย แต่ผลลัพธ์คุ้มค่าแน่นอน!
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความรัก)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe