ท่องเที่ยว/คาเฟ่

ขึ้นเหนือหน้าหนาว! แบกเป้แอ่ว 'เจียงใหม่ 5 คืน 6 วัน' (กิ่วแม่ปาน นิมมาน อุทยาแห่งชาติและอีกมากมาย) - ตอน 1

มาเที่ยวเหนือกันบ้าง แชร์ประสบการณ์แบกเป้แอ่วเจียงใหม่ เมืองหนาวสถานที่สุดฟิน มีทั้งในเมืองและขึ้นดอย ฝากติดตามกันด้วยนะคะ

Home » ท่องเที่ยว/คาเฟ่ » ท่องเที่ยวไทย - หน้าหนาว - เที่ยวงบน้อย - เที่ยวเมืองไทย - เที่ยวหน้าหนาว » ขึ้นเหนือหน้าหนาว! แบกเป้แอ่ว 'เจียงใหม่ 5 คืน 6 วัน' (กิ่วแม่ปาน นิมมาน อุทยาแห่งชาติและอีกมากมาย) - ตอน 1

สวัสดีค่ะสาวๆ SistaCafe

เรื่องของเรื่องที่เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพราะอยากจะแชร์ประสบการณ์ของเราเองแหละ ถือเป็นการเปิดคอนเทนต์ของการท่องเที่ยวในแบบของตัวเองแล้วก็อยากแชร์ให้กับสาวๆ คนอื่นที่คิดอยากลองไปเที่ยวแบบไม่มีหนุ่มๆ ไม่มีผู้นำ ( เพราะฉันต้องนำตัวเอง ) แบกเป้เที่ยวในระยะเวลา 5 คืน 6 วันมันเป็นยังไง ซึ่งค่อนข้างจะมีเรื่องให้เล่าอยู่เยอะแยะเลยจ้า เพราะการไปเที่ยวครั้งนี้เรากะไว้ว่าจะไม่มีการเหมารถไปเที่ยวเด็ดขาด วิธีง่ายที่สุดคือไปตายเอาดาบหน้า เจอรถคันไหนก็ โบก โบก โบก โลดเลยแม่!

เราเลือกไปแอ่วเชียงใหม่ สัมผัสอากาศเย็นๆ ขึ้นดอยไปดูดาวบ้างอะไรบ้าง มาเถอะถ้าอ่านกันมาถึงขนาดนี้แล้วรู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้นแบบที่เรารู้สึก เชิญนั่งแล้วตั้งใจฟังเลยซิส : )

แพลนเที่ยวเชียงใหม่ :

ทริปนี้มีเรากับพี่สาวสองคน วางกันไว้เมื่อประมาณกันยาปลายๆ ตกลงตารางคิวงานกันเสร็จ ( เหมือนงานเยอะปะ ) ก็ไม่รีรอ จองตั๋วเครื่องบินและที่พักเลยค่ะ ซึ่งเราวางแพลนไว้ว่า 2 คืนแรกจะอยู่ในเมือง เดินเล่นแถวนิมมาน แล้วคืนที่ 3-5 ค่อยขึ้นไปนอนบนดอย เดี๋ยวจะไล่เล่าไปเรื่อยเลยแล้วกันนะ ขากลับเราจองตั๋วรถไฟวันที่ 6 ตอนเย็น ถึงหัวลำโพงเช้าวันที่ 7 โอเคคร่าวๆ จะประมาณนี้

มีใจให้มัจฉะ

ขอออกตัวก่อนว่าเราค่อนข้างเป็นสายคาเฟ่ ติดขนมหวานพวกเค้ก ชาเขียวอะไรก็ตามที่ให้ความหวานนี่ชอบหมด อย่างแรกเลยพอถึงเชียงใหม่ เรานั่งรถบัสสนามบิน 20 บาท ไปลงที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์แถวกาดสวนแก้ว เช่ารถ 1 วันเพื่อใช้ในเมือง

ร้านแรกที่มาก็คือ ' มีใจให้มัจฉะ ' ร้านนี้ค่อนข้างดังเลยนะ จริงๆ เรามาตามเตยแฟนพี่ปั๊ปแหละ เค้าบอกว่าชาเขียวดีมาก เราถือคติที่ว่าถ้าไม่ลองจะไม่รู้ ก็ไปสิจ๊ะไม่รอช้า ร้านแรกก็เริ่มด้วยของหวานกันไปเลย ทั้งที่ในใจคือยังไม่ได้กินข้าวจ้า แต่ไม่เป็นไรเพื่อของหวานเรายอม!

เมนูที่เราสั่ง คือ ดาร์คช็อก เป็นเค้กเนื้อหนานุ่ม มีความเข้มของช็อกโกแลตมาก อร่อยเลยแหละพอกินกับชาเขียว

ชาเขียวของเค้ามีประมาณ 3 เกรดค่ะ เข้มข้นมาก กลาง แล้วก็น้อย จะชงสดแบบนี้เลย นี่แหละเป็นซิกเนเจอร์ของร้านเลยจ้า

บรรยากาศน่ารัก มีความคุมโทนละมุนมาก รู้สึกเหมือนอยู่ญึ่ปุ่นเลยจ้า

ตรงนี้แหละต้องมาแชะรูปเลย เอกลักษณ์ของร้านนี้

ส่วนมุมนี้เป็น outdoor จ้า จะให้ฟีลแบบอยู่ญี่ปุ่น มีสวนต้นไม้น่ารักๆ น่าชิลล์กันไปเลยซิส

พักจากร้านน่ารัก แล้วมุ่งหน้าต่อไปที่ถนนคนเดินประตูท่าแพเลยจ้า คือเราไปถึงก็เกือบเย็นแล้ว ตั้งใจจะมาเดินถนนคนเดินซึ่งมีเฉพาะวันอาทิตย์นี่แหละ บอกเลยว่าทุกเส้นทางที่เราไปส่วนใหญ่เปิด map น้า เสิร์ชชื่อร้านหรือสถานี่ก็ถึงเลยเจ้า แต่อาจจะพาวนบ้างอะไรบ้างสไตล์ Google map ทำใจเนอะ

บรรยากาศของเย็นวันนั้นค่า นอกจากจะมีถนนคนเดิน ของกินและของใช้ช็อปแล้ว ยังมีวัดต่างๆ อยู่รอบถนนคนเดินเลย ฟีลกู๊ดมากจ้า แวะไหว้พระสักหน่อย เป็นศิริมงคลตลอดทริป

สวยงามมาก

เดินไปเดินมาสะดุดภาพวาดสีสวยๆ จากช่างศิลป์แถวถนนคนเดินจ้า

เดินไปเดินมาก็เกือบ 3 ทุ่ม เพลินมาก >< บรรยากาศดี ช่วงที่เราไปเป็นต้นเดือนธันวาคมนี่เอง อากาศเริ่มเย็นแล้วน้าตอนกลางคืน

วันต่อมาวางแผนกันว่าอยากกิน ' โกเผือกโกดำ ' ก็เลยตื่นเช้าแว๊นมอไซค์ไปกันเลยจ้า ไม่ห่างจากที่พักเราเท่าไหร่ ( คืนแรกเราพักที่ภูสรวงเพลสน้า เป็นห้องพักรายวัน/เดือน บรรยากาศข้างนอกดูน่ากลัวนิดนึงแต่เข้าไปในห้องแล้วดูดีเลย ราคาไม่แรงด้วย )

มาถึงร้านประมาณ 9 โมง ตอนที่เราไปคนยังไม่เยอะมาก ไม่ต้องรอคิวนานแบบคนอื่นนะ นั่งโซนหน้าร้านเลยค่า

เมนูยอดฮิตที่ใครก็ต้องสั่ง ใช่จ้าเราก็สั่งด้วย 555 เป็นขนมปังสังขยาแหละ กินคู่กับนมสด ถามว่าอร่อยมั้ยเราให้ 7/10 นะ สำหรับเรา*

แต่ๆ เมนูที่ไม่คิดว่าจะอร่อย ดูหน้าตาไม่สวย มันอร่อยมากจ้า คือเลิฟเลยมันเป็นขนมปังชาโคลอะไรสักอย่างนี่แหละ กรอบๆ ราดด้วยนมข้นหวาน กำลังโอเคเลย *ต้องสั่งนะ

ปิดท้ายร้านโกเผือกโกดำด้วยก๋วยจั๊บญวน คือมีคนบอกว่าอร่อย และมันอร่อยจริงๆ ปกติเราไม่เคยกินรสชาตินี้นะ แต่มันหอมมากอะ เส้นเหนียวนุ่ม ราคาไม่แพงด้วย เลิฟเลย