เนื้อคู่
Articles originalcontent
Original Content

#คุยกับตัวเอง ep.1 - ว่าด้วยเรื่องเนื้อคู่ ที่บอกว่า “ยังไม่ถึงเวลา” แล้วเวลานั้นมื่อไหร่จะมาถึง ?

บางทีเนื้อคู่อาจจะมาวันนี้ พรุ่งนี้ หรืออาจจะไม่มีวันนั้น! บอกเลยว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว คนที่จะตอบได้ว่าเนื้อคู่มาเมื่อไหร่ ก็คือคุณนั่นแหละ!


» » - - - » - - »
Sistacafe button sharefb
Down

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • [แสดง]
  • [ซ่อน]
    • ♾️ คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมั้ย ?

    • ♾️ แล้ว "เวลา" ที่เนื้อคู่จะมาถึงคือเมื่อไหร่ล่ะ ?

    • ♾️ เมื่อเวลานั้นมาถึง .. เจอเนื้อคู่แล้วไงต่อ ?

    • ♾️ คุณนั่นแหละคนที่จะตอบคำถามนี้ได้


    ♾️
    #คุยกับตัวเอง พื้นที่ของคนที่ชอบหาเวลาคุยกับตัวเอง เพื่อให้เกิดความคิดที่ตกผลึกก่อนไปสื่อสารกับคนอื่น
    แต่จะคุยแบบเปล่งเสียงออกมาหรือไม่ก็ได้ ไม่ต้องกลัวใครมองว่าบ้า
    เพราะบอกเลยว่าคนเราน่ะบ้ากันทั้งนั้น!

    สำหรับ ep.1 เปิดประเด็นด้วยปัญหาที่ว่าด้วยเรื่องเนื้อคู่ ที่บอกว่ายังไม่ถึงเวลาน่ะ แล้วเมื่อไหร่เวลานั้นจะมาถึง มาหาคำตอบไปพร้อมกัน
    ♾️
    -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -


    เนื้อคู่อยู่ที่ไหน? เนื้อคู่ของเราเป็นหมาได้รึเปล่า? หรือว่าเราจะไม่มีเนื้อคู่! รับรองว่า ep. นี้เป็นมิตรกับทั้งคนโสดสนิทและไม่สนิท อ่านจบแล้วจะรู้ว่าไม่ต้องรอชาติหน้า วันนี้แหละ เนื้อคู่จะปรากฏ!

    ♾️ คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมั้ย ?


    Do you believe in destiny ? เวลานึกถึงคำถามเรื่องเนื้อคู่ เรื่องพรหมลิขิตทีไร ในหัวมักจะนึกไปถึงเสียงของชาคริต (พระเอก) ในหนังเรื่องกุมภาพันธ์ทุกที

    เคยตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่าแล้วเราเองน่ะ เชื่อในเรื่องพรหมลิขิตมั้ย พอลองค่อยๆ คิดตามก็ตอบได้ว่า เชื่อ นะ ส่วนนึงอาจเพราะว่าชอบอะไรที่มันเป็นความบังเอิญ มันดูมีเสน่ห์บางอย่างที่แตกต่างจากความตั้งใจ เป็นอะไรที่อธิบายหาที่มาที่ไปได้ยาก แล้วสิ่งนั้นเกิดขึ้นอย่างที่ไม่ทันมีใครคาดคิดไว้

    อีกส่วนนึงอาจเพราะเราคิดว่ามันก็เกิดขึ้นกับตัวเองหลายครั้ง ซึ่งบอกก่อนว่าพรหมลิขิตในความหมายของเราคือ สิ่งที่มันบังเอิญเกิดขึ้น โดยเบื้องหลังนั้นอาจเกิดจากความตั้งใจ เช่น a ตั้งใจจะไปซื้อขนมที่ร้านอาหาร ส่วน b ตั้งใจจะทำขนมที่ชอบให้อร่อยและขายทีร้านอาหาร a กับ b ก็เลยมาเจอกันด้วยความบังเอิญ ที่มาจากความตั้งใจของตัวเองในคนละแบบ..อะไรแบบนี้ที่สำหรับเราเรียกว่าพรหมลิขิต


    แล้วถ้าถามต่อว่าเนื้อคู่ล่ะเชื่อมั้ย เอาจริงๆก็เชื่ออีกน่ะแหละ แต่เราเชื่อเพิ่มเติมไปอีกว่า เนื้อคู่ของเรา พรหมอาจจะลิขิตไว้อีกคนนึง แต่ในชีวิตจริง เราอาจเลือกคบกับอีกคนนึง โดยที่ในอนาคต เราอาจลงเอยกับคนที่เราเลือกคบนี้ ด้วยจิตที่เราเลือกเองและเราตั้งใจไว้ หรืออาจจะผันแปรไปลงเอยกับคนที่พรหมเค้าลิขิตไว้ให้ก็เป็นได้ แต่จุดนี้คงไม่มีใครรู้ เพราะมันยังมาไม่ถึงน่ะสิ

    เพราะงั้นพอเวลามีคนมาถามว่า เมื่อไหร่จะเจอคนที่ใช่ เมื่อไหร่เนื้อคู่จะมา เราก็เลยมักตอบว่า “เดี๋ยวก็มา, ยังไม่ถึงเวลา” ไปซะทุกครั้ง ไม่ได้ตอบส่งๆนะ แต่เพราะมันยังมาไม่ถึงจริงๆ อะ

    เพราะไอ้ความตั้งใจของเรา กับของอีกคนนึงมันอาจจะยังไม่ตรงกัน มันยังไม่บังเอิญมาตรงกันซักที อย่าง a กับ b ที่กว่าจะมาเจอกันไม่รู้ว่าต้องเคยคลาดกันมาแล้วกี่ครั้ง เดินสวนกันมาแล้วกี่หน เมื่อจังหวะมันยังไม่ได้ มันยังไม่ใช่เวลาของมัน ยังไง้มันก็ยังไม่เจอ หรือถึงเจอก็ยังไม่ได้พัฒนาไปมากกว่านั้น และในทางกลับกัน หากยิ่งเฝ้ารอให้มันเกิดขึ้นล่ะก็ยิ่งไม่แนะนำเลย เพราะมันจะกลายเป็นทำให้เราทุกข์ ไม่เป็นอันทำอะไร เสียเวลาชีวิตไปเลยเปล่าๆ ด้วยซ้ำ

    ♾️ แล้ว "เวลา" ที่เนื้อคู่จะมาถึงคือเมื่อไหร่ล่ะ ?


    ตอบได้เลยว่า ไม่รู้ ใครจะไปรู้ล่ะ แต่สิ่งที่รู้คือทุกคนสามารถทำความตั้งใจของตัวเองต่างๆ ให้มันเกิดขึ้นได้นี่ คุณตั้งใจจะทำอะไรล่ะ ตั้งใจจะไปซื้อกาแฟที่ร้านนี้ดูน่าอร่อยดี ก็ไป ตั้งใจจะไปเลือกดูหนังสือซักเล่มที่แผงตลาดแถวบ้าน ก็ไป จะตั้งใจไปปั่นจักรยาน วิ่งมาราธอน คาเฟ่ฮอปปิ้ง นั่งรถเมล์เล่น ชิลล์กับเพื่อนในผับ ก็ไป ตั้งใจไปทำในสิ่งที่คุณชอบอะ สิ่งที่คุณสนใจจริงๆ หรือถึงไม่สนใจ แต่ก็ไปเพราะเหตุผลอะไรบางอย่าง นั่นคือสิ่งที่ควบคุมได้ ทำไปเลย

    แล้วเดี๋ยวสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ อย่างความบังเอิญ ก็จะเกิดต่อจากความตั้งใจนั้น มันจะทำหน้าที่ของมันเอง เราไม่ต้องไปรอคอย ควบคุม พยายามให้มันเกิดขึ้นด้วยมือของเราหรอก

    แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้รอ งอมือเท้าอยู่เฉยๆ รอพระเอกขี่ม้าขาว รอเนื้อคู่มาหาด้วยความบังเอิญอย่างนั้นหรอกนะ (หลายคนอาจจะทำอย่างนั้นแล้วได้ดี มันก็ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัย บุคลิกของคนแต่ละคน แต่ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนทุกคนแน่นอน)

    และก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ตั้งใจค้นหา เลือกพุ่งชนเนื้อคู่ด้วยตัวเองนั้นจะไม่มีวันได้คนดีๆ ด้วยนะ .. คนที่ตั้งใจทำแบบนั้นแล้วได้เจอคนที่ใช่ก็มีเยอะ อยู่กินกันเกินครึ่งชีวิต แต่ก็อย่างที่บอกว่าขึ้นอยู่กับคน บุคลิก ลักษณะนิสัย และขึ้นอยู่กับโอกาสที่เข้ามาด้วย


    แค่ให้มองในอีกมุมคือไม่ต้องออกล่า ไม่ต้องตามหา เปลี่ยนโฟกัสไปที่สิ่งที่ชอบทำ ที่ที่ชอบไปอยู่ให้ชัดขึ้น ปรับเรื่องอื่นให้จางลง

    พูดง่ายๆ มันก็คือการที่ออกไปทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ อาจจะแอบหวังใจไว้เล็กๆ ลึกๆ ภายในว่าเผื่อจะเจอใครใหม่ๆ หรือจะไม่ได้คาดหวังไว้แบบนั้นเลยก็ได้ทั้งนั้น พอยท์ก็คือการที่เราได้ใช้ชีวิตในแบบของเรา ในขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสให้ตัวเองไปในตัว สิ่งที่ได้คือเราจะมีความสุขกับสิ่งที่ทำ รังสีความสุขจะแผ่ออก และดึงดูดให้เรื่องบังเอิญที่เราไม่ได้คาดคิดไว้มันเกิดขึ้นเอง และนั่นแหละคือช่วงเวลาที่มันเดินทางมาถึง

    ♾️ เมื่อเวลานั้นมาถึง .. เจอเนื้อคู่แล้วไงต่อ ?


    เมื่อเวลาเดินทางมาถึง และคิดว่าเราเจอเนื้อคู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่ตอนจบ เพราะสิ่งสำคัญคืออย่าลืมรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้ให้ดี หมั่นปรับตัว เรียนรู้กันและกัน ไม่กะเกณฑ์ความสัมพันธ์นั้นไว้เพียงกรอบของคำว่า 'เนื้อคู่' จนใช้ชีวิตร่วมกันอย่างไม่เป็นธรรมชาติ 

    หรือถึงแม้ว่าสุดท้ายความบังเอิญเกิดขึ้นมาแล้ว เราคิดว่าเจอเนื้อคู่ แต่ปรากฏว่ายังไม่ใช่สำหรับเรา มันยังไม่เวิร์คแบบที่ใจต้องการ ทำให้เราและเขาอาจหลุดจากวงโคจรของกันและกันไป นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีเนื้อคู่ หรือไม่มีใครที่พรหมลิขิตไว้ให้นะ

    เราอาจลองหันมาสำรวจตัวเองอีกครั้งว่าเรายังขาดอะไรไปหรือไม่ ล้นตรงไหนไปรึเปล่า ลองมองตัวเองอย่างเป็นกลางที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้ามั่นใจแล้วว่าเราก็ไม่ได้เสียหายตรงไหน ก็อย่าเพิ่งท้อใจ เราอาจจะยังไม่เจอคนที่แมทช์กับเราจริงๆ แต่หากว่าพบว่าอะไรที่ลองปรับแล้วเราสบายใจที่จะทำ ก็ลองทำดู ไม่เสียหาย เพราะพรหมอาจจะลิขิตให้แล้วแต่เนื้อคู่อาจยังไม่ใช่คนนี้แค่นั้น

    หรือบางที พรหมอาจจะไม่ได้ลิขิตเนื้อคู่เราให้มาเป็นในรูปของคนรักเสมอไป อย่างคติที่ว่า “เนื้อคู่ที่ถูกใจ ไม่เท่าเนื้อสันในที่ติดมัน” เค้าอาจมาในรูปของน้องรัก พี่ที่รัก เพื่อนรัก กัลยาณมิตร ครอบครัว หรือแม้แต่สัตว์โลกน่ารักทั้งหลายที่เรารักและเอ็นดูเค้ามากก็เป็นได้ หรือจะสรุปง่ายๆ ว่าเป็นภาวะคนโสด ก็คงไม่ผิด แต่จะเป็นอะไรไปล่ะ ก็ถ้าโสดแล้วมีความสุขกับสิ่งรอบตัวอื่นๆ เนื้อคู่ก็เลยอยู่ในรูปแบบอื่นก็ได้ไง

    ♾️ คุณนั่นแหละคนที่จะตอบคำถามนี้ได้


    และสุดท้ายคนที่จะไขปริศนานี้ได้ ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอเนื้อคู่ ก็อยู่ที่ตัวคุณเอง

    เพราะสิ่งสำคัญคือ เรายังมีตัวเองอยู่กับเราตลอดเวลา อย่าลืมคุยกับตัวเอง เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนที่เป็นเนื้อคู่ของเรามาตลอดก็คือตัวเราเองด้วยนะ ตั้งแต่ตอนเกิด ตอนเริ่มเรียนรู้ มีความคิด ตัดสินใจในแบบของตัวเอง เราก็ปรึกษากับตัวเองมาได้ตลอด

    ที่พูดนี่ไม่ได้โลกสวย หรือพูดเพื่อให้ใครสบายใจขึ้นนะ แต่เราเชื่อจริงๆ ว่าเวลามันมีทางเดินของมัน เราก็มีทางเดินของเรา ต่างคนต่างตั้งใจอยากให้เกิดอะไรก็ทำไป แล้วสิ่งอื่นนอกเหนือจากนั้นเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ไม่ต้องตามหาอย่างร้อนรน ไม่ต้องรอคอยอย่างนิ่งเฉย โฟกัสสิ่งที่เราสนใจไป แล้วเดี๋ยวถึงเวลา ก็มาเอง เหมือนเวลาที่เรารอคอยวันศุกร์ มันมาช้าใช่มั้ยล่ะ แต่ถ้าวันไหนงานยุ่งทั้งวัน โอ้ยวันศุกร์วันเสาร์มาไม่ทันรู้ตัวเลยล่ะ จริงป้ะ

    -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -  -
    บทความที่เกี่ยวข้อง
    Content quotation bg
    Disclaimer : หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อทีมงานมาที่ [email protected]
    Content quotation bg


    ดาวน์โหลดแอพ
    ดาวน์โหลดแอพดาวน์โหลดแอพ
    Icon ranking

    อันดับบทความประจำวัน

    (หมวดOriginal Content)

    Variety By SistaCafe

    Icon feature 100x100

    Feature

    กิจกรรม SistaCafe