เวลาไปช้อปปิ้งสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้า คุณสาวๆ ก็ควรจะอ่านฉลากเช็กส่วนผสมบนขวดให้ดีๆ เลยนะคะว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นๆ น่ะเหมาะกับผิวของเราแค่ไหน อย่างเช่นถ้าใครที่เป็นสาวผิวแพ้ง่ายก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม ส่วนสาวๆ ผิวมันเวลาที่ไปเลือกซื้อสกินแคร์ก็ ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ตัวที่เป็นสูตร Oil-free ถึงจะเหมาะกับผิวมากที่สุดค่ะ ก็ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนั้นๆ แล้วจะได้ไม่ทำให้ผิวมันหนักเข้าไปอีก แล้วถ้าจะให้เริ่ดมากขึ้นไปกว่านี้ก็ควรเลือกสูตร Non-comedogenic ที่ไม่ทำให้ผิวอุดตันด้วยก็ดีนะ จะได้ใช้บำรุงผิวได้แบบมั่นใจว่าจะไม่เพิ่มความมันเยิ้ม ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน และไม่กระตุ้นให้เกิดสิว ใช้ได้ชิลล์ๆ แบบไม่ต้องกังวลกันไปเลย

ทางเราก็เข้าใจหัวอกของคนผิวมันอยู่หรอกนะว่า เวลาที่ต้องทาครีมกันแดดที่ผิวหน้าแล้วออกไปเผชิญกับแสงแดดแรงๆ อากาศร้อนจัด มันจะทำให้รู้สึกอบอ้าวบนใบหน้าจากทั้งเหงื่อและน้ำมันบนผิวจนแทบทนไม่ไหว แต่เชื่อเถอะนะว่าผลเสียจากการไม่ทาครีมกันแดดน่ะ มันทำร้ายผิวได้มากกว่าแค่ความรู้สึกรำคาญที่เธอกำลังเจออยู่ตอนนี้อีกนะคะ รู้แบบนี้แล้วต่อให้รู้สึกเหนอะหนะผิวขนาดไหน แต่สาวผิวมันก็ ต้องขยันทา ‘ ครีมกันแดด ’ เป็นประจำทุกวัน อย่าให้ขาดเลยนะคะ เพราะรังสียูวีที่มาแฝงตัวมาพร้อมกับแสงแดด ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นทำให้ผิวหน้ามันขึ้นได้เหมือนกัน แล้วถ้าไม่อยากให้ผิวเหนียวๆ หนุบหนับๆ ก็ให้ เลือกครีมกันแดดเนื้อเจลหรือเนื้อน้ำสูตรบางเบา มาใช้ปกป้องผิวของเราจะดีกว่านะ

อ๊ะๆ ถ้าคิดจะแก้ปัญหาผิวให้หายขาด ขอบอกตรงนี้เลยนะจ๊ะว่าแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายนอกอย่างเดียวอาจยังไม่พอ แต่คุณสาวๆ ผิวมันทั้งหลายจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองใหม่ตั้งแต่ภายในเลยล่ะ อย่างเรื่องของอาหารการกินก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวของเราได้ด้วยนะ โดยใครที่ชอบกินอาหารฟาสต์ฟู้ด ขนมกรุบกรอบ หรือเมนูมันๆ เยิ้มๆ ถ้ากินเข้าไปเยอะๆ ก็จะยิ่งกระตุ้นให้ผิวหน้ามัน + เป็นสิวง่ายกว่าเดิม เพิ่มเติมคือไขมันย้วยๆ บนพุงอีกต่างหาก แบบนี้ถ้าไม่อยากหน้าให้ผิวหน้ามันเหมือนกระทะทอดไข่ก็ต้อง หยุดกินของทอดๆ มันๆ ไปก่อน ซะแล้ว ลองเปลี่ยนมาเน้นกินผักผลไม้ที่มีวิตามินซีและไฟเบอร์สูง หรือพวกแซลมอน, ทูน่า, ถั่วเหลือง ฯลฯ ที่มีโอเมก้า 3 สูง ก็จะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้