เพิ่งขึ้นเครื่องครั้งแรกกันใช่มั้ย? วันนี้เรามีขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับคนที่เพิ่งขึ้นเครื่องบินครั้งแรกมาฝาก อยากรู้ว่าต้องทำอะไร เตรียมตัวยังไงบ้าง เช็คลิสต์กันเลยค่ะ แนะนำแบบละเอียด อ่านแล้วเก็ทเลย!

เลือกอ่านตามหัวข้อ
① หาข้อมูลและเตรียมตัวให้พร้อม
② ขั้นตอนการเช็คอินและตรวจสอบเอกสาร
③ ไปขึ้นเครื่องกันเถอะ!
④ ที่นั่งบนเครื่องบิน
⑤ ระหว่างบินมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
⑥ ถึงแล้วจ้าา!
⑦ รับกระเป๋า แล้วท่องเที่ยวกันเลย!
สวัสดีค่ะ! วันนี้เรามีขั้นตอนการขึ้นเครื่องบินมาฝากเพื่อนๆ สายเที่ยวทุกคน ก็เข้าใจแหละว่าอะไรที่มันเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิต จะทำทีนึง มันก็จะเขินๆ หน่อย การขึ้นเครื่องบินก็เช่นกัน สำหรับใครที่กำลังจะมีแพลนไปเที่ยวนอก แต่ไม่รู้ว่า เอ๊ะ! ฉันต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง, จะปล่อยโป๊ะกลางสนามบินมั้ย วันนี้หายห่วง เราได้ทำการรวบรวมขั้นตอนทั้งหมดมาไว้ที่นี่แล้วค่ะ ละเอียดยิบ! อ่านแล้วเก็ท รับรองว่าทำตามนี้ ไม่โป๊ะ ไม่พัง ไม่พลาดแน่นอน วิธีง่ายๆ สรุปมาให้แล้ว โยนความกังวลทิ้งไปค่ะ แล้วเรามาเริ่มบินไปพร้อมๆ กัน มาดูกันเลยดีกว่าว่าไปถึงสนามบินแล้วต้องทำอะไรยังไงบ้าง แล้วขั้นตอนที่ว่ามันเป็นยัง พร้อมจะบินกันแล้วรึยัง ถ้าพร้อมแล้ว เรามาดูกันเลยดีกว่า
① หาข้อมูลและเตรียมตัวให้พร้อม
สิ่งแรกที่ควรทำคือการหาข้อมูลและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ถ้าไม่มีตั๋ว แล้วจะไปเที่ยวได้ยังไงล่ะ ฉะนั้นเราต้องเริ่มจากการจองตั๋วกันก่อน อยากไปสายการบินไหน สุดแล้วแต่ความชอบของเพื่อนๆ ได้เลยค่ะ ส่วนวิธีการจองนั้น ก็สามารถทำได้ทั้งจองผ่านหน้าเว็บของสายการบิน, จองผ่านตัวแทนจำหน่ายหรือไปซื้อที่สนามบินในวันเดินทางเลยก็ได้ แต่ซื้อที่สนามบินตั๋วจะมีราคาที่ค่อนข้างแพงนะ ( วิธีการจองสามารถดูรายละเอียดทางหน้าเว็บนั้นๆ ได้เลยค่ะ ) นอกจากการจองตั๋วแล้ว การเตรียมเอกสารสำหรับการเดินทางก็สำคัญเหมือนกัน มีอะไร ก็เตรียมไปให้หมด
หลังจากที่เราจองตั๋วกันเสร็จเรียบร้อย ให้เพื่อนๆ เริ่มหาข้อมูลของสนามบินก่อนว่าเราต้องบินสนามบินไหน สนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมือง จะได้รู้ว่าระยะทางในการเดินทางต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เดินทางทางไหนสะดวกกว่า เราจะได้เผื่อเวลาในการเดินทางไปสนามบินได้ถูก แต่ขอแนะนำว่าให้เผื่อเวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 2 - 3 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ไปถึงสนามบินเร็ว ก็มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น ไม่ตกเครื่องแน่นอน
หลังจากที่เราจองตั๋วกันเสร็จเรียบร้อย ให้เพื่อนๆ เริ่มหาข้อมูลของสนามบินก่อนว่าเราต้องบินสนามบินไหน สนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมือง จะได้รู้ว่าระยะทางในการเดินทางต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เดินทางทางไหนสะดวกกว่า เราจะได้เผื่อเวลาในการเดินทางไปสนามบินได้ถูก แต่ขอแนะนำว่าให้เผื่อเวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 2 - 3 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ไปถึงสนามบินเร็ว ก็มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น ไม่ตกเครื่องแน่นอน
บางคนอาจจะสงสัยว่า แล้วเราจะรู้เวลาขึ้นเครื่องได้ยังไงคะ ให้ดูที่ตั๋วเครื่องบินค่ะ เค้าจะมีระบุเวลาขึ้นเครื่องและเวลาเดินทางบอกไว้
Boarding Time คือเวลาที่ผู้โดยสารขึ้นเครื่อง
Departure Time คือเวลาที่เครื่องออก ซึ่งจะอยู่หลัง Boarding Time ไม่เกินครึ่งชั่วโมง
Departing เวลาที่เครื่องออกจากสนามบินต้นทาง
Arriving คือเวลาที่เครื่องถึงสนามบินปลายทาง
สำหรับมือใหม่หัดบินให้ดูตรงคำว่า Boarding Time ซึ่งจะเป็นเวลาที่เราจะต้องไปถึงหน้าประตูเครื่องบิน พร้อมที่จะก้าวขึ้นเครื่องแล้ว หากไปช้าละก็ น้ำตาตกแน่ เพราะงั้นเช็คเวลาให้ดีๆ อย่าพลาดเด็ดขาด
Boarding Time คือเวลาที่ผู้โดยสารขึ้นเครื่อง
Departure Time คือเวลาที่เครื่องออก ซึ่งจะอยู่หลัง Boarding Time ไม่เกินครึ่งชั่วโมง
Departing เวลาที่เครื่องออกจากสนามบินต้นทาง
Arriving คือเวลาที่เครื่องถึงสนามบินปลายทาง
สำหรับมือใหม่หัดบินให้ดูตรงคำว่า Boarding Time ซึ่งจะเป็นเวลาที่เราจะต้องไปถึงหน้าประตูเครื่องบิน พร้อมที่จะก้าวขึ้นเครื่องแล้ว หากไปช้าละก็ น้ำตาตกแน่ เพราะงั้นเช็คเวลาให้ดีๆ อย่าพลาดเด็ดขาด
② ขั้นตอนการเช็คอินและตรวจสอบเอกสาร
ปัจจุบันการเช็คอินมีให้เลือกหลายวิธีมากๆ ทั้ง เช็คอินทางเว็บไซต์หรือมือถือ, เช็คอินผ่านตู้คีออส หรือเคาน์เตอร์เช็คอิน เพื่อนๆ สามารถเลือกหนทางที่สะดวกที่สุดได้นะคะ ถัดมาเรามาดูที่ขั้นตอนการเช็คอินและการตรวจสอบเอกสารกันบ้างเนอะ
มาเริ่มกันที่การเช็คอินและการโหลดกระเป๋ากันก่อน พอเรามาถึงที่สนามบินปุ๊บ สิ่งแรกที่มือใหม่ต้องทำคือจ้องไปที่จอดิจิตอลที่สนามบิน ซึ่งบนนั้น เค้าจะแสดงเลขเที่ยวบิน สายการบินและเวลาเดินทางไว้ พร้อมระบุหมายเลขเค้าเตอร์สำหรับเช็คอินด้วย หลังจากที่เรารู้แล้วว่าเราควรเช็คอินที่จุดไหน ให้เดินไปที่เคาน์เตอร์ทันที เมื่อเที่ยวบินของเราเปิดให้เช็คอินและโหลดกระเป๋าแล้ว ให้นำบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตและใบรายละเอียดการเดินทางยื่นให้เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบความถูกต้องต่างๆ เสร็จแล้วเราจะได้ Boarding Pass คือบัตรโดยสาร / ใบผ่านขึ้นเครื่องมา และใบตม. ( กรณีไปตปท. ให้กรอกข้อมูลในใบตม.ให้เรียบร้อย ) ตรวจสอบให้ถูกต้อง แล้วไปจุดต่อไปทันที
มาเริ่มกันที่การเช็คอินและการโหลดกระเป๋ากันก่อน พอเรามาถึงที่สนามบินปุ๊บ สิ่งแรกที่มือใหม่ต้องทำคือจ้องไปที่จอดิจิตอลที่สนามบิน ซึ่งบนนั้น เค้าจะแสดงเลขเที่ยวบิน สายการบินและเวลาเดินทางไว้ พร้อมระบุหมายเลขเค้าเตอร์สำหรับเช็คอินด้วย หลังจากที่เรารู้แล้วว่าเราควรเช็คอินที่จุดไหน ให้เดินไปที่เคาน์เตอร์ทันที เมื่อเที่ยวบินของเราเปิดให้เช็คอินและโหลดกระเป๋าแล้ว ให้นำบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตและใบรายละเอียดการเดินทางยื่นให้เจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบความถูกต้องต่างๆ เสร็จแล้วเราจะได้ Boarding Pass คือบัตรโดยสาร / ใบผ่านขึ้นเครื่องมา และใบตม. ( กรณีไปตปท. ให้กรอกข้อมูลในใบตม.ให้เรียบร้อย ) ตรวจสอบให้ถูกต้อง แล้วไปจุดต่อไปทันที
ถัดจากขั้นตอนการเช็คอิน เราต้องไปตรวจสอบหนังสือเดินทางกันก่อน ( สำหรับคนที่ไปตปท. ) ให้มองหาป้ายตรวจหนังสือเดินทาง Passport Control แล้วยื่นพาสปอร์ตและใบตม.ที่กรอกแล้วให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่จุดนี้จะมีการแบ่งช่องสำหรับคนไทยและชาวต่าวชาติ ให้เลือกเข้าช่องสำหรับคนไทย เมื่อผ่านขั้นตอนแล้วก็เข้าสู่การสแกนสัมภาระและเข้าสู่เกตเพื่อไปขึ้นเครื่องได้เลย
สำหรับการสแกนสัมภาระ ให้เพื่อนๆ เดินไปยังช่องทางสำหรับผู้โดยสารขาออกค่ะ เมื่อถึงแล้วให้แสดงพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสกับเจ้าหน้าที่ เสร็จแล้ววางกระเป๋าทั้งหมดลงในถาดที่จัดไว้ สำหรับใครที่ใส่พวกโลหะหรือมีสิ่งของโลหะติดตัว ก็จำต้องถอดใส่ลงไปด้วยนะคะ หลังจากตรวจเสร็จแล้ว เราก็ไปที่จุดต่อไปกันเลย
สำหรับการสแกนสัมภาระ ให้เพื่อนๆ เดินไปยังช่องทางสำหรับผู้โดยสารขาออกค่ะ เมื่อถึงแล้วให้แสดงพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสกับเจ้าหน้าที่ เสร็จแล้ววางกระเป๋าทั้งหมดลงในถาดที่จัดไว้ สำหรับใครที่ใส่พวกโลหะหรือมีสิ่งของโลหะติดตัว ก็จำต้องถอดใส่ลงไปด้วยนะคะ หลังจากตรวจเสร็จแล้ว เราก็ไปที่จุดต่อไปกันเลย
③ ไปขึ้นเครื่องกันเถอะ!
หลังจากที่เราผ่านด่านการตรวจสอบต่างๆ นานามาได้แล้ว ถึงเวลาที่เราจะไปขึ้นเครื่องบินกันสักที ให้เราดูที่ Boarding Pass = บัตรโดยสารของเรา บนนั้นจะบอกว่า เราต้องไปเกตไหน นั่งเลขอะไร เกต (Gate) หรือทางออกเครื่องบิน เป็นจุดสำหรับรอขึ้นเครื่อง หากพบว่าเกตที่เราจะไปอยู่ไกลเหลือเกิน ให้มองหาเส้นทางจากป้ายบอกทางและเดินไปให้ถึงจุดนั้นก่อน อย่ามัวแต่ลีลาเวิ้นเว้อ ไม่งั้นอาจจะตกเครื่องได้นะ
เมื่อเรามาถึงเกตของตัวเองแล้ว ให้นั่งรอที่เก้าอี้ซึ่งเขามีจัดไว้ให้ ก่อนเวลาขึ้นเครื่องเจ้าหน้าที่จะทยอยเรียกผู้โดยสารประเภทต่างๆ ขึ้นเครื่องตามลำดับ ใครที่ปวดหนักปวดเบา แวะเข้าห้องน้ำทำธุระให้เสร็จก่อนก็ดี เตรียมพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสเพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูอีกครั้ง เสร็จแล้วไปขึ้นเครื่องกันเลยค่ะ!!
เมื่อเรามาถึงเกตของตัวเองแล้ว ให้นั่งรอที่เก้าอี้ซึ่งเขามีจัดไว้ให้ ก่อนเวลาขึ้นเครื่องเจ้าหน้าที่จะทยอยเรียกผู้โดยสารประเภทต่างๆ ขึ้นเครื่องตามลำดับ ใครที่ปวดหนักปวดเบา แวะเข้าห้องน้ำทำธุระให้เสร็จก่อนก็ดี เตรียมพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสเพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูอีกครั้ง เสร็จแล้วไปขึ้นเครื่องกันเลยค่ะ!!
④ ที่นั่งบนเครื่องบิน
อย่างที่เราบอก ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองนั่งตรงไหนให้ดูที่บอร์ดดิ้งพาส เค้าจะมีบอกตำแหน่งที่นั่งของเราไว้ค่ะ กรณีที่หาไม่เจอจริงๆ สามารถขอความช่วยเหลือจากพี่ๆ แอร์บนเครื่องได้นะ เมื่อมาถึงจุดที่นั่งของตัวเองแล้ว ให้นำของที่ติดตัวมาใส่ไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะ ส่วนของมีค่าให้พกติดตัวไว้ ( ควรเช็คเรื่องน้ำหนักกระเป๋าด้วยนะ โดยปกติต้องไม่เกิน 7 กก. ) หากมีปัญหาเรื่องที่นั่ง ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่และอย่าตีมึนนั่งในที่ที่ไม่ใช่ของตัวเองนะจ๊ะ
เมื่อได้ที่นั่งแล้วให้รัดเข็มขัดให้เรียบร้อยและทุกๆ ครั้งก่อนที่เครื่องบินจะออก เจ้าหน้าที่จะมีการสาธิตอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่างๆ ขอเตือนว่าให้ตั้งใจฟังและอย่าละเลยความหวังดีที่เจ้าหน้าที่ทุกๆ สายการบินมอบให้แก่ผู้โดยสารทุกท่าน ปิดโทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรเปิดใช้ระหว่างเดินทางนะคะ
เมื่อได้ที่นั่งแล้วให้รัดเข็มขัดให้เรียบร้อยและทุกๆ ครั้งก่อนที่เครื่องบินจะออก เจ้าหน้าที่จะมีการสาธิตอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่างๆ ขอเตือนว่าให้ตั้งใจฟังและอย่าละเลยความหวังดีที่เจ้าหน้าที่ทุกๆ สายการบินมอบให้แก่ผู้โดยสารทุกท่าน ปิดโทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรเปิดใช้ระหว่างเดินทางนะคะ
⑤ ระหว่างบินมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดท่องเที่ยว/คาเฟ่)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe