เรื่องของกลิ่นปาก ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วนะ ถ้ารู้ตัวว่าเริ่มมีกลิ่นปากหรือถ้าคนข้างๆ เริ่มแสดงออกว่าปากเราเหม็น รีบหันมาดูแลช่องปากของตัวเองด่วนๆ ความมั่นใจจะได้กลับมา!

เลือกอ่านตามหัวข้อ
• กลิ่นปากมันมาได้ไง •
① ไม่อยากปากเหม็น มันต้อง "แปรงฟัน"
② ไม่อยากปากเหม็น ต้อง "เปลี่ยนแปรงสีฟัน"
③ ไม่อยากปากเหม็น เค้าว่าให้ "ดื่มน้ำเยอะๆ"
④ ไม่อยากปากเหม็น มันต้อง "บ้วนปาก"
⑤ ไม่อยากปากเหม็น มันต้อง "มีตัวช่วย"
⑥ ไม่อยากปากเหม็น ต้องใช้ "ไหมขัดฟัน"
⑦ ไม่อยากปากเหม็น ต้อง "เอาใจใส่อาหารการกิน"
⑧ ไม่อยากปากเหม็น "ตรวจช่องปากบ้างก็ดี"
♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢
กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก!! เคยได้ยินคำนี้มั้ย โอเค! ถ้าคุณดมเองคนเดียวมันก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก แต่อย่าลืมสิ ว่ามันก็ต้องมีจังหวะที่ต้องคุยกับคนอื่นๆ บ้างไรบ้าง แล้วถ้าเรามีกลิ่นปาก คนที่ได้กลิ่นทำหน้าแหย๋ใส่หรือหลบหน้าเรางี้ ความรู้สึกอะ มันเจ็บปวดนะ (ดึงดราม่าสุด!) เพราะฉะนั้นเรามากำจัดกลิ่นปากกันเถอะ! วันนี้หยิบวิธีง่ายๆ มาแชร์แล้วค่ะ ทั้งหมด 8 วิธี ลดกลิ่นปาก เปลี่ยนลมหายใจอี๋ๆ ให้กลับมาหอมสดชื่น วิธีง่ายๆ ที่เพื่อนๆ สามารถทำตามกันได้ แค่ปรับและเปลี่ยนอะไรนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง ไปดูกันเถอะว่ามีวิธีอะไรยังไงบ้าง
♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢ ♢
• กลิ่นปากมันมาได้ไง •
จริงๆ เท่าที่เราอ่านมา สาเหตุที่ทำให้เพื่อนๆ มีกลิ่นปาก ก็มีหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเรื่องของการไม่รักษาสุขภาพช่องปากให้ดี ลิ้นเป็นฝ้า หินปูน ฟันผุ แผลในช่องปาก ไปจนถึงโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในช่องปากของเรา ก็สามารถทำให้เรามีกลิ่นปากได้ ฉะนั้นวันนี้ถ้ามันยังไม่ไปไกลถึงขั้นเป็นโรค เราก็ควรดูแลทำความสะอาดช่องปากของเราให้ดีๆ ก็อย่างที่รู้ๆ กันแหละว่ากลิ่นปากทำให้คุณดูมีบุคลิกภาพที่ไม่ดี ทั้งยังทำให้สูญเสียความมั่นใจและบางคนอาจอยู่ในสภาวะเครียดได้ แล้วรู้มั้ยว่าบางทีปัญหานี้ก็อาจส่งผลกระทบถึงหน้าที่การงานและความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนใกล้ตัวด้วยนะ เพราะงั้นมันถึงเวลาแล้วที่เราต้องหันหน้ามาดูแลตัวเองให้มากขึ้น กลิ่นปากจะได้ไม่ถามหา!
① ไม่อยากปากเหม็น มันต้อง "แปรงฟัน"
กฎพื้นฐานที่หลายๆ คนรู้ดี ถ้าไม่อยากมีกลิ่นปาก ก็แปรงฟันซิค่ะ! วิธีแปรงฟันจริงๆ ก็ไม่ได้ยาก เพียงแต่อาจจะขัดใจบรรดาสาวกคนขี้เกียจสักหน่อย ให้แปรงวันละ 2 ครั้ง และหลังมื้ออาหาร ซึ่งเพื่อนๆ ก็จะแปรงฟันกันทุกเช้าและเย็นกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ? แต่จะให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก เราแนะนำว่าให้แปรงหลังมื้ออาหารแต่ละมื้อด้วย วิธีนี้ก็จะช่วยบรรเทาปัญหากลิ่นปากได้และไม่ใช่แค่แปรงฟันอย่างเดียว แต่ "ลิ้น" ก็สำคัญเหมือนกัน ถ้าเราไม่แปรงลิ้นด้วย แล้วปล่อยให้น้องเค้าสกปรก โอกาสที่จะมีกลิ่นปากได้ก็มีเหมือนกันค่ะ ฉะนั้นควรทำความสะอาดลิ้น ตั้งแต่โคนลิ้นเพื่อขจัดคราบอาหาร ลดแบคทีเรียบนลิ้น เท่านี้ปากของเพื่อนๆ ก็จะหอมสดชื่นแล้วค่ะ!
② ไม่อยากปากเหม็น ต้อง "เปลี่ยนแปรงสีฟัน"
ไม่ต้องงกกับเรื่องแค่นี้ ถ้ายังไม่เปลี่ยน ระวังกลิ่นจะเข้ามาทักทายนะ ถ้าแปรงมันเริ่มเสือมสภาพแล้ว เปลี่ยนเถอะค่ะ จริงๆ เราแนะนำว่าให้เพื่อนๆ เปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 2 - 3 เดือน เพราะว่าแปรงสีฟันถือว่าเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี! ถ้าไม่เชื่อ เพื่อนจะเล่าสั้นๆ ให้ฟัง เวลาเรากำจัดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปาก เราใช้แปรงสีฟันใช่มั้ย ฉะนั้นพวกแบคทีเรียต่างๆ ที่หลุดออกมาจากปากเรา ก็เกาะอยู่ที่แปรงนั่นแหละ เมื่อเราหยิบมาแปรงฟันอีกครั้งเชื้อเหล่านั้นก็จะกลับเข้าไปอยู่ในปากเพิ่มมากขึ้น โอ้โห!! วนเวียนเวียนวนไปมาแบบนี้ สยองอะ ฉะนั้นนอกจากจะต้องทำความสะอาดแปรงหลังแปรงฟันเสร็จให้ดีๆ แล้ว เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน ก็อย่าลังเล เข้าใจมั้ย!
③ ไม่อยากปากเหม็น เค้าว่าให้ "ดื่มน้ำเยอะๆ"
เอ๊ะ! การดื่มน้ำ จะช่วยให้กลิ่นปากของเราลดลงได้จริงหรือ ว่ากันว่าน้ำลายสามารถช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากออกไปได้ แต่ถ้าจำนวนน้ำลายของเรามีไม่เพียงพอ ก็อาจจะก่อให้เกิดอาการปากแห้งและมีกลิ่นปากตามมาได้ ดังนั้นจึงมีคำแนะนำว่าควรดื่มน้ำเยอะๆ ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ซึ่งการดื่มน้ำให้มากๆ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายสร้างน้ำลายได้มากขึ้นแล้ว ก็ยังเป็นการช่วยชะล้างเศษอาหารในปากออกไปได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งวิธีดีๆ ง่าย แถมช่วยลดกลิ่นปากได้ด้วยนะจ๊ะ
④ ไม่อยากปากเหม็น มันต้อง "บ้วนปาก"
การบ้วนปาก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีดีๆ ที่จะช่วยลดกลิ่นปากของเพื่อนๆ ได้เช่นเดียวกัน ปกติ ถ้าพูดถึงการบ้วนปาก สิ่งแรกที่เราจะนึกถึงคือน้ำยาบ้วนปากทั่วๆ ไป แต่รู้มั้ยว่า น้ำเกลือ ก็สามารถขจัดกลิ่นปากได้เหมือนกันนะ เพราะน้ำเกลือจะเข้าไปช่วยชะล้างเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในปากและคอออกไปได้ วิธีง่ายๆ เลยค่ะ หลังแปรงฟันเสร็จ ให้คุณผสมน้ำครึ่งแก้วกับเกลือ (อย่าใส่เกลือมากเกินไปนะ เพราะเดี๋ยวเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ค่ะ) ผสมเสร็จแล้ว ให้อมไว้ประมาณ 3 - 5 นาที จากนั้นจึงบ้วนด้วยน้ำเปล่าตามอีกครั้ง เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ลองทำตามกันดูได้
⑤ ไม่อยากปากเหม็น มันต้อง "มีตัวช่วย"
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดสุขภาพ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe